กรุงเทพฯ--7 ก.ย.--แฟรนไชส์โฟกัส
"ก้าวสู่ปีที่ 11 กับสาขาที่ 111 ร้านแบล็คแคนยอนคอฟฟี่
สาขาสยามสมาคม"
"Celebrating our 11th year of excellence, our 111th branch and more"
ณ หอประชุม สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนอโศก
วันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ.2547 เวลา 15.00 น.
บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ได้จัดงานแถลงข่าว "ก้าวสู่ปีที่ 11 ของการดำเนินธุรกิจ และการเปิดร้าน "แบล็คแคนยอนคอฟฟี่" สาขา ลำดับที่ 111 ณ เรือนแสงอรุณ ภายในสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์" เมื่อวันจันทร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ.2547 ที่ผ่านมา ณ หอประชุมสยามสมาคม
นายประวิทย์ จิตนราพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวถึงธุรกิจตลาดผลิตภัณฑ์กาแฟว่า ปัจจุบันตลาดกาแฟมีมูลค่าโดยรวมประมาณ 15,300 ล้านบาท โดยสามารถจำแนกออกเป็นผลิตภัณฑ์กาแฟสำเร็จรูปและทรีอินวันประมาณ 6,800 ล้านบาท กาแฟปรุงสำเร็จพร้อมดื่ม 6,000 ล้านบาท และร้านกาแฟคั่วบดประมาณ 2,500 ล้านบาท ซึ่งในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเติบโตของธุรกิจสูงถึงปีละ 10-15% ในขณะที่พฤติกรรมการดื่มกาแฟภายในประเทศปัจจุบันพบว่า ปริมาณการดื่มกาแฟของคนไทยยังอยู่ในระดับต่ำ กล่าวคือ น้อยกว่า 0.5 กิโลกรัมต่อคนต่อปี หรือประมาณ 130-150 ถ้วยต่อคนต่อปี และเมื่อพิจารณาเปรียบเทียบจำนวน ผู้ดื่มกาแฟจากฐานของจำนวนประชากรทั้งประเทศ พบว่า มีประชากรเพียง 30% จากจำนวนประชากรทั้งหมดที่ดื่มกาแฟ ส่งผลให้การขยายตัวของธุรกิจกาแฟยังมีโอกาสที่จะเติบโตได้ต่อไปอีกในอนาคต ในสถานการณ์การแข่งขันตลาดกาแฟที่สูงขึ้นนี้ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจกาแฟทุกราย รวมถึง "แบล็คแคนยอน" ต้องพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้มีความแตกต่าง และเลือกเปิดในทำเลที่สามารถจะตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด
บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด เริ่มต้นธุรกิจให้บริการการแฟ อาหาร และเครื่องดื่มแก่ผู้บริโภคชาวไทยภาคใต้ชื่อร้านกาแฟและอาหาร "แบล็คแคนยอน" ตั้งแต่ปี พ.ศ.2536 ปัจจุบันได้รับการสนับสนุนในการขยายธุรกิจและสร้างความแข็งแกร่งให้กับการดำเนินงานจากกองทุน SMEs ของรัฐบาล ซึ่งได้เข้ามาร่วมลงทุน 15% ของทุนจดทะเบียน
"แบล็คแคนยอน" มีผลิตภัณฑ์หลักที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในหมู่ผู้บริโภคทั้งคนไทยและต่างชาติ คือ "กาแฟ" โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ กลุ่มครอบครัว และคนวัยทำงาน ซึ่งนอกจากการให้ความสำคัญและพิถีพิถันในคุณภาพของกาแฟ อาหาร และเครื่องดื่มแล้ว "แบล็คแคนยอน" ยังเล็งเห็นถึงความสำคัญของการนำเสนอความแปลกใหม่ และความหลากหลายของรายการในเมนูกาแฟและอาหารภายในร้าย โดยในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ได้มีการแนะนำเมนูใหม่ภายใต้คอนเซ็ปท์ "The Magazine Twin Menu" หรือ "เมนูกาแฟคู่แฝดครั้งแรกของโลก" ซึ่งออกแบบเน้นโทนสว่างสดใส สวยงาม ทันสมัย มีจำนวนรายการเมนูกาแฟ 67 รายการ และเมนูอาหาร 78 รายการ ซึ่ง มีทั้งรายการที่ได้ความนิยมจากผู้บริโภค และรายการที่พัฒนาขึ้นใหม่ โดยเน้นการใช้วัตถุดิบธรรมชาติและสมุนไพรต่างๆ เพื่อสุขภาพ และยังได้เปลี่ยนแปลงภาชนะบรรจุใหม่เกือบทั้งหมด เพื่อสร้างความรู้สึกทันสมัย ในบรรยากาศที่มีชีวิตชีวาให้กับผู้บริโภคที่เข้ามาใช้บริการภายในร้าน
สำหรับกลยุทธ์ในการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายของ "แบล็คแคนยอน" มีการขยายช่องทางการจัดจำหน่ายไปสู่ทำเลที่ตั้งที่มีความหลากหลายและแตกต่างกัน ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถบริการลูกค้า ได้ครอบคลุมในหลายพื้นที่ อาทิ ภายในศูนย์การค้าฯ เช่น เซ็นทรัล เดอะมอลล์ สยามเซ็นเตอร์ แฟชั่น ไอส์แลนด์ ซีคอนสแควร์ ฟิวเจอร์พาร์ค เอ็ม.บี.เค.อุทยานการค้ากาดสวนแก้ว เป็นต้น ช่องทางโมเดิร์น เทรดหรือซุปเปอร์สโตร์ เช่น โลตัส บิ๊กซี คาร์ฟูร์,ในเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ เช่น เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ SF Cinema, ในปั๊มน้ำมัน เช่น เชลล์ เจ็ท บางจาก, บนสถานีรถไฟฟ้า BTS เช่น สาขาสยาม และพร้อมพงศ์ รวมถึงพื้นที่ท่าอากาศยาน เช่น ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพฯ ท่าอากาศยาน จ.เชียงใหม่ และ จ.เชียงราย, ในศูนย์แสดงสินค้าประเภทเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน เช่น Index Living Mall, ร้านหนังสือ เช่น B2S, ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร เช่น หมู่บ้านเพอร์เพ็ค เพลส หมู่บ้านมณีรินทร์, ในโรงแรม เช่น โรงแรมเกาะลอย โกลเด้นท์ ปาร์ค จ.ตาก ตลอดจนในศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยล่าสุดได้เปิดสาขาลำดับที่ 111 ในพื้นที่ของพิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยา ณ บริเวณเรือนแสงอรุณ ซึ่งตั้งอยู่ภายในของสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ ถนนอโศก และมีแผนที่จะขยายสาขาไปสู่ทำเลที่ตั้งในโรงพยาบาล โดยจะเปิดสาขาแรกในโรงพยาบาลลาดพร้าว ในวันพุธที่ 8 กันยายน พ.ศ.2547 ที่จะถึงนี้
ในส่วนของทิศทางการขยายสาขาไปสู่ต่างประเทศนั้น ปัจจุบัน "แบล็คแคนยอน" มี 5 สาขา ใน 3 ประเทศ คือ ในประเทศสิงคโปร์, ประเทศมาเลเซีย และประเทศอินโดนีเซีย โดยแผนที่จะขยายสาขาไปยังประเทศอื่นๆ อีกในอนาคตอันใกล้นี้
พร้อมกันนี้ คุณประวิทย์ ยังได้กล่าวเสริมถึงรูปแบบของร้านสาขาซึ่งตั้งในปั๊มน้ำมันว่า ได้เริ่มทยอยเปิดในปั๊มน้ำมันเจ็ทไปแล้ว 8 สาขา ทั้งภายในอาคารคอนวีเนี่ยนสโตร์และนอกอาคารที่มีลักษณะ Stand Alone ว่า การออกแบบเป็นการผสมผสานศิลปะทางด้านสถาปัตยกรรมใน 2 รูปแบบเข้าด้วยกัน คือ ส่วนที่เป็นโครงสร้างของอาคารออกแบบตามสถาปัตยกรรมรูปแบบ Thai Lanna Contemporary Design โดยมีส่วนที่เป็นหลังคาได้รับการออกแบบให้มีลักษณะเป็น 3 ชั้นเหลื่อมซ้อนกันซึ่ง "แบล็คแคนยอน" ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ภายในปี 2548 จะสามารถขายกาแฟผ่านช่องทาง ร้านสาขาในปั๊มน้ำมันไม่น้อยกว่าปีละ 4 แสนถ้วย หรือมูลค่าประมาณปีละ 20 ล้านบาทขึ้นไป
คุณประวิทย์ยังได้แนะนำผลิตภัณฑ์กาแฟบรรจุขวดพร้อมดื่ม "แบล็คแคนยอน" ภายใต้ชื่อ "Black Canyon Coffee : Bottle to Go" นำกาแฟเย็นยอดนิยม 6 รายการมาบรรจุขวดพร้อมดื่ม ได้แก่ กาแฟเย็นแบล็คแคนยอน, กาแฟเย็นมอคคา, กาแฟเย็นแบล็คคอฟฟี่แชมป์, ชาเย็นใน่นม, ชาเขียวเย็นใส่นม และชามะนาว และกำลังจัดรายการส่งเสริมการขายแนะนำ "Bottle to Go" ในราคาพิเศษที่ร้าน "แบล็คแคนยอนคอฟฟี่"ทุกสาขาอยู่ในขณะนี้
"แบล็คแคนยอน" ยังได้เปิดให้บริการจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ในลักษณะ Coffee Break ซึ่งประกอบด้วยกาแฟและเครื่องดื่มคุณภาพ และเบเกอรี่หลากหลายกว่า 30 รายการสำหรับให้บริการลูกค้าในงานพิธีต่างๆ อาทิ งานสัมมนา, งานประชุม, งานเปิดตัวสินค้า ตลอดจนงานจัดเลี้ยงในรูปแบบต่างๆ สำหรับค่าบริการในการจัดเลี้ยงมีตั้งแต่อัตรา 60 บาทต่อท่านเป็นต้นไป โดยกำหนดจำนวน การสั่งขั้นต่ำตั้งแต่ 50 ท่านขึ้นไป และต้องแจ้งยืนยันการจัดเลี้ยงล่วงหน้า 7 วัน ลูกค้าท่านใดที่ สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่แผนกจัดเลี้ยงของบริษัทฯ โทรศัพท์ 0-2376-0014-8 ต่อ 1402-1404
ในปี 2547 นี้ "แบล็คแคนยอน" ยังได้รับมอบเกียรติบัตรสุดยอดแบรนด์กาแฟชั้นนำของประเทศไทยจาก "Superbrands" ซึ่งเป็นสถาบันอิสระที่ดำเนินการจัดอันดับแบรนด์ที่ได้รับความเชื่อถือ โดยการประเมินคุณค่า และคุณภาพของแบรนด์สินค้าว่า เป็นที่ยอมรับในสายตาผู้บริโภค ชาวไทย ให้เป็นแบรนด์ร้านกาแฟชั้นนำในประเทศไทย
ในโอกาสที่ "แบล็คแคนยอน" ได้ดำเนินธุรกิจมาจนถึงปีที่ 11 ในปี พ.ศ.2547 นี้ คุณประวิทย์ได้เปิดตัวและแนะนำสาขาลำดับที่ 111 ของ "แบล็คแคนยอน คอฟฟี่" ซึ่งตั้ง ณ บริเวณเรือนแสงอรุณ ภายในสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ อันเป็นสถานที่ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานมาถึง 100 ปี
พร้อมกันนี้ ดร.วรพัฒน์ อรรถยุกติ เลขานุการกิตติมศักดิ์ สยามสมาคมในพระบรมราชูปถ้มภ์ ได้กล่าวถึงประวัติความเป็นมาและวัตถุประสงค์การก่อตั้งสยามสมาคมว่า สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ได้ก่อตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2447 ในปลายรัชสมัยของพระบาทสมเด็จ พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และมีวาระครบ 100 ปี แห่งการก่อตั้งสยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ.2547 ที่ผ่านมา ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทางสมาคมได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทุกพระองค์ ทรงรับสมาคมไว้ในพระบรมราชูปถ้มภ์ตลอดมาทุกรัชกาล
สยามสมาคมในพระบรมราชูปถัมภ์ มีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อศึกษาและส่งเสริมด้านศิลปศาสตร์ และวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง โดยดำเนินการจัดตั้งห้องสมุดพิพิธภัณฑ์ จัดพิมพ์วารสารและหนังสือ จัดปาฐกถา กิจกรรมทางวิชาการ ตลอดจนจัดการแสดงต่างๆ ทางด้านศิลปะและวัฒนธรรม เพื่อประโยชน์ของสังคมและประเทศชาติ โดยภายในพื้นที่ของสยามสมาคมฯ จะประกอบไปด้วย ห้องสมุด พิพิธภัณฑ์เรือนคำเที่ยง และเรือนแสงอรุณ ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็นอาคารดีเด่น โดยสมาคมสถาปนิกสยามในพระบรมราชูปถัมภ์ในปี 2544
อาคารห้องสมุดของสยามสมาคมฯ นับเป็นห้องสมุดมีความเก่าแก่และดีที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศ เป็นแหล่งรวบรวมหนังสือต้นฉบับ เอกสารหายาก และเอกสารด้านมานุษยวิทยา โบราณคดี ประวัติศาสตร์ สังคมวิทยา สิ่งแวดล้อม และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับประเทศไทยและประเทศใกล้เคียง
อีกบริเวณหนึ่งภายในของสยามสมาคมฯ ได้รับการจัดตั้งให้เป็นพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยา เพื่อเป็นการอนุรักษ์ไว้ซึ่งมรดกทางวัฒนธรรมท้องถิ่นของชาติ โดยมี "เรือนคำเที่ยง" ซึ่งเป็นเรือนไทยที่ก่อสร้างในแบบของสถาปัตยกรรมทางภาคเหนือ และ "เรือนแสงอรุณ" ซึ่งเป็นเรือนไทยภาคกลาง และเป็นที่ตั้งของร้าน "แบล็คแคนยอนคอฟฟี่" สาขาที่ 111 แห่งนี้ การเลือกให้ "แบล็คแคนยอน" มาเปิดบริการลูกค้า ณ ที่นี้ เนื่องจากเล็งเห็นว่า เป็นธุรกิจของคนไทยที่สมควรสนับสนุน และทั้ง 2 ฝ่ายยังเห็นพ้องต้องกันในการรักษาสภาพแวดล้อมของสถานที่ตั้ง ให้มีความสวยงามเป็นธรรมชาติ เป็นที่เชิดหน้าชูตาแก่ผู้สนใจที่มาเยี่ยมเยือนแวะชมสยามสมาคมตลอดไป ผู้สนใจและนักท่องเที่ยวสามารถแวะชมพิพิธภัณฑ์ชาติพันธุ์วิทยาได้ทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์และวันจันทร์
ฝ่ายการตลาด บริษัท แบล็คแคนยอน (ประเทศไทย) จำกัด โทรศัพท์ 0-2376-0014-8 ต่อ 2601-2603 โทรสาร 0-2370-3306 ฝ่ายตัวแทนประชาสัมพันธ์ บริษัท แฟรนไชส์โฟกัส จำกัด นภาภรณ์ / สุดารัตน์ โทรศัพท์ 0-2720-4821-5--จบ--
--อินโฟเควสท์ (ดพ/นห)--