1 ใน 100 คนไทยวัยกลางคนมีแผนที่จะซื้อรถยนต์คันใหม่ภายในหนึ่งปีนี้

ข่าวยานยนต์ Thursday October 11, 2012 09:44 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--นีลเส็น 1 ใน 100 ของผู้บริโภคไทยที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไปมีแผนที่จะซื้อรถคันใหม่ภายในหนึ่งปีข้างหน้านี้ รถกระบะเป็นรถที่ได้รับความนิยมสูงสุดในกลุ่มคนสูงวัย ตามด้วยรถเก๋ง และรถ SUV ฟังก์ชั่นช่วยเหลือการถอยจอดรถ และระบบให้ความช่วยเหลือด้านเส้นทางด้วยเสียง ถือเป็นฟังก์ชั่นและบริการที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้เริ่มมีอายุ จากผลการศึกษาเกี่ยวกับทัศนคติต่อการเกษียณอายุและทัศนคติด้านการซื้อรถยนต์เผยให้เห็นถึงความต้องการซื้อรถอย่างต่อเนื่องในหมู่ผู้บริโภคไทยที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป โดยพบว่า 1 ใน 100 มีแผนการที่จะซื้อรถคันใหม่ภายใน 12 เดือน ซึ่งเป็นสัดส่วนที่คงที่อย่างต่อเนื่องมาตลอดสี่ปี “ในปัจจุบัน บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ควรให้ความสนใจกับตลาดผู้บริโภควัยกลางคนที่เริ่มเข้าสู่วัยเกษียณในประเทศไทยมากขึ้น” สมวลี ลิมป์รัชตามร ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยธุรกิจยานยนต์ นีลเส็น (ประเทศไทย) กล่าว “ภายในปี 2015 ประมาณ 20 เปอร์เซนต์ของประชากรไทยจะมีอายุสูงกว่า 60 ปี ซึ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยทั่วโลก (15%) เพราะฉะนั้น ผู้ผลิตที่สามารถจับความต้องการของตลาดผู้บริโภคกลุ่มนี้ ที่ขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วได้แต่เนิ่นๆ จะมีโอกาสสร้างฐานความสัมพันธ์และภาพลักษณ์ที่ดี อันเป็นจุดได้เปรียบสำคัญ” การสำรวจของนีลเส็นยังพบว่า 6 ใน 10 ของผู้บริโภควัยเกิน40 ที่วางแผนจะซื้อรถคันใหม่ภายในเวลา 12 เดือนข้างหน้า จะเลือกซื้อรถกระบะเป็นตัวเลือกแรก ในขณะที่ 30 เปอร์เซนต์จะเลือกซื้อรถยนต์สี่ประตู และน้อยกว่า 1 เปอร์เซนต์จะเลือกซื้อรถสปอร์ตอเนกประสงค์ หรือรถ SUV เป็นตัวเลือกแรก นอกจากนี้ อุปกรณ์เสริมในรถยนต์ที่คนไทยวัยกลางคนจนถึงวัยสูงอายุชื่นชอบที่สุดคือ กล้องด้านหลังสำหรับถอยรถ ด้วยคะแนนความพึงพอใจ 3.93 เต็ม 5 รองลงมาคือ ปุ่ม SOS สำหรับขอความช่วยเหลือเมื่อเกิดการโจรกรรม ด้วยคะแนน 3.9 ตามมาด้วยระบบตรวจจับคนและวัตถุในความมืด ด้วยคะแนน 3.8 นอกจากอุปกรณ์เสริมในตัวรถยนต์แล้ว การสำรวจยังชี้ให้เห็นว่าการบริการของบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ก็นับเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อรถยนต์สำหรับกลุ่มผู้บริโภคที่เริ่มมีอายุมากขึ้น โดยบริการที่ได้รับการโหวตให้เป็นบริการที่สำคัญที่สุดคือ สายด่วน 24 ชั่วโมง สำหรับให้ความช่วยเหลือบนท้องถนน ทั้งเรื่องเส้นทางและอุบัติเหตุ (4.27 เต็ม 5 คะแนน) บริการที่สำคัญรองลงมาคือ ระบบแจ้งเตือนศูนย์หรือคนรู้จักอัตโนมัติเมื่อเกิดอุบัติเหตุ ด้วยคะแนน 4.09 ตามมาด้วยอันดับ 3 คือ สายด่วน 24 ชั่วโมงเพื่อให้การช่วยเหลือเรื่องการใช้งานรถยนต์ เครื่องยนต์กลไกในกรณีฉุกเฉินหรือรถเสีย (4.06 คะแนน) (ตาราง1) การสำรวจยังชี้ให้เห็นถึงความพึงพอใจในอุปกรณ์เสริมรถยนต์ที่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มผู้บริโภคที่ขับรถกระบะ และกลุ่มที่ขับรถยนต์สี่ประตู โดยคนที่ขับรถกระบะจะชื่นชอบในอุปกรณ์และบริการที่เกี่ยวกับระบบแจ้งเตือนอุบัติเหตุฉุกเฉินมากกว่า ในขณะที่กลุ่มผู้ขับรถสี่ประตูจะชอบอุปกรณ์อำนวยความสะดวกในการขับรถและระบบให้ความช่วยเหลือเรื่องการใช้งานรถยนต์ ตาราง1: ความพึงพอใจของผู้บริโภคไทยที่มีอายุมากกว่า 40 ปี ต่ออุปกรณ์เสริมและบริการด้านรถยนต์
แท็ก รถกระบะ  

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ