กรุงเทพฯ--11 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,762 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,762 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.71 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,600 บาท กับ 25,700 บาท และกลับมาปิดที่ 25,600 บาท กับ 25,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,916 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,468 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 14 คู่สัญญา OpenInterest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 12% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 10% Silver Futures ลดลง 1% GFV12 ปิด 25,840 บาท และ GFZ12 ปิด 25,980 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,850 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,980 บาท SVV12 ปิดที่ 1,045
สัญญา Comex ปิดลดลง 10 เซนต์ ปิดที่ระดับ 1,765.10 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 12.40 เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.11 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,340.52 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 91.25 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 128.56 จุด ปิดที่ระดับ 13,344.97 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 51.7 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC
- ราคาทองคำเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideway เมื่อคืนนี้ จากความกังวลที่เกิดขึ้นใหม่ในวิกฤตหนี้ยูโรโซนควบคู่ไปกับความกังวลในเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวเพิ่มขึ้น 10 เซนต์ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,765.10 เหรียญ/ออนซ์ ในขณะที่ราคา Spot Gold ปรับตัวลดลง 75 เซนต์ ที่ระดับ 1,762.90 เหรียญ
นักวิเคราะห์ต่างๆ ได้กล่าวว่า มีนักลงทุนบางรายอาจเข้าทำกำไรหลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นติดต่อกัน 4 วันทำการก่อนหน้านี้ ซึ่งการที่ราคาทองคำไม่สามารถฝ่าแนว 1,800 เหรียญไปได้ส่งผลให้เกิดสัญญาณกดดันทางเทคนิค ซึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ราคาทองคำขึ้นไปทำจุดสูงสุดในรอบ 11 เดือนจากความหวังที่ว่า เฟด อีซีบี และธนาคารกลางหลักอื่นๆ อาจมีการพิมพ์ธนบัตรเข้าสู่เศรษฐกิจโลกเพื่อกระตุ้นการเจริญเติบโต
- ปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน Gold ETFs พุ่งขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ จากการที่ FastMarkets ซื้อทองคำเพิ่มอีก 2.6 ตันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณทองคำในกองทุน ETFs ทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 2,595.32 ตัน หรือ 75.03 ล้านออนซ์ ซึ่งคอมเมิร์ซแบงก์ระบุว่า ความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในกองทุน Gold ETFs นั้นเกิดขึ้นไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา จากการที่นักลงทุนตระหนักถึงการที่ธนาคารกลางต่างๆ มีการผ่อนคลายนโยบายการเงินอย่างมาก
สำนักงานสำรวจจำนวนประชากรและสถิติของฮ่องกงรายงานว่า การขนส่งทองคำจากฮ่องกงไปยังจีนในช่วงเดือนสิงหาคมลดลง 29% จากเดือนที่แล้วสู่ระดับ 53.508 ตัน
- ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรปที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ได้แก่ การผลิตภาคอุตสาหกรรมของอิตาลีประจำเดือนสิงหาคมออกมาที่ระดับ 1.7% ดีกว่าที่คาดไว้ที่ระดับติดลบ 0.1% และของฝรั่งเศสออกมาดีกว่าที่คาดเช่นกันที่ระดับ 1.5% คาดการณ์ไว้ที่ 0.6%
เมื่อคืนนี้ช่วงเวลาประมาณตีหนึ่ง เฟดเปิดเผยในรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book ว่าเศรษฐกิจสหรัฐ “ขยายตัวเล็กน้อย" ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา โดยการใช้จ่ายของผู้บริโภคโดยทั่วไปทรงตัว หรือเพิ่มขึ้นเล็กน้อยนับตั้งแต่รายงานครั้งก่อนในเดือนส.ค. ขณะที่ยอดค้าปลีกในหลายเขตมีการขยายตัวเล็กน้อย ส่วนยอดค้าปลีกในนิวยอร์ก ชิคาโกและแคนซัส ซิตี้อยู่ในระดับทรงตัวหรืออ่อนแรงลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ตลาดโดยส่วนใหญ่เพิกเฉยต่อการรายงาน Beige Book ของเฟด
- นอกจากนี้มีผลสำรวจมุมมองทองคำที่สดใสจากโพลสำรวจของรอยเตอร์สที่สำรวจนักวิเคราะห์จำนวน 27 ราย พบว่า พวกเขายังคงมองทองคำในทิศทางขาขึ้นในระยะยาว ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างๆ มีการคาดการณ์อย่างเป็นเอกฉันท์ว่า ราคาทองคำสูงสุดโดยเฉลี่ยในปีนี้จะอยู่ที่ระดับ 1,690 เหรียญ/ออนซ์ เพิ่มจากการประมาณการณ์ในช่วงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 ที่ระดับ 1,685 เหรียญ และระดับ 1,765 เหรียญเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งนักวิเคราะห์ในทองคำต่างเพิ่มการลงทุนในทิศทางขาขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้
- นายกรัฐมนตรีมาริโอ มอนติ ของอิตาลี ประกาศเมื่อวานนี้ว่ารัฐบาลอิตาลีจะลดภาษีเงินได้ในปีหน้า หลังจากที่คณะรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกันว่าด้วยเรื่องงบประมาณจนถึงเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมา โดยภาษีเงินได้จะปรับลดลงเหลือ 22% จาก 23% สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 ยูโร (19,283 ดอลลาร์สหรัฐ) ต่อปี และลดลงเหลือ 26% จาก 27% สำหรับผู้ที่มีรายได้ระหว่าง 15,001-28,000 ยูโร ส่วนผู้มีรายได้สูงกว่านั้นอัตราภาษียังคงเดิม
- เอสแอนด์พี ประกาศลดอันดับความน่าเชื่อถือระยะยาวของสเปนลง 2 ขั้น สู่ระดับ BBB- ซึ่งสูงกว่าระดับขยะเพียงขั้นเดียวเท่านั้น โดยเอสแอนด์พีระบุว่า เศรษฐกิจของสเปนอยู่ในภาวะที่ถดถอยรุนแรงและกำลังจำกัดทางเลือกด้านนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการจะแก้ไขปัญหาหนี้ภายในประเทศ
- ราคาทองคำได้รับแรงกดดันหลังจากไอเอ็มเอฟเปิดเผยว่า วิกฤตหนี้ยูโรโซนเป็นการคุกคามสำคัญต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ และความเสี่ยงต่างๆ ต่อความมั่นคงทางการเงินของโลกมีเพิ่มมากขึ้นในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ส่งผลให้ความเชื่อมั่นมีความอ่อนแอเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ไอเอ็มเอฟได้กระตุ้นกลุ่มผู้กำหนดนโยบายของยุโรปให้มีการเร่งฟื้นฟูความเชื่อมั่นทางการคลังและการเงินในระบบทางการเงินของโลก ในขณะเดียวกัน ไอเอ็มเอฟก็มีการระบุในรายงานเสถียรภาพทางการเงินโลกว่า หากไม่สามารถควบคุมการคลังหรือจัดตั้งระบบกำกับดูแลที่เป็นหนึ่งเดียวได้ตามเวลาที่กำหนด ธนาคาร 58 แห่งในสหภาพยุโรปอาจถูกบังคับให้ต้องลดสินทรัพย์ลงมากถึง 4.5 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ และจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจในกรีซ ไซปรัส ไอร์แลนด์ อิตาลี โปรตุเกส และสเปน
-ในวันที่เวลา 21.00 น. นายเจเรมี่ สเตน สมาชิกเฟดฝ่ายปกครอง มีกำหนดการแถลงในหัวข้อ “การประเมินการเข้าซื้อสินทรัพย์ในระยะยาว” ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- G7 Meeting
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -42.0B คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ -44.1B
- Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 367K คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 368K
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -0.5M คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.3M
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐานทำกำไร หลังจากปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง การที่ราคาทองคำยังทรงตัวและไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,763 เหรียญได้ถือว่าไม่ค่อยดีนัก โดยภาพรวมราคาทองคำในระยะสั้นดูจะเป็นทิศทาง Downside ในลักษณะค่อยๆ ซึมลง ในระยะกลางและระยะยาว สัญญาณทางเทคนิคเริ่มบ่งบอกถึงการทรงตัว และมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงได้ โดยมีแนวรับของราคาถัดไปตาม Average ที่ 1,743 เหรียญ อยู่ที่ระดับ Fibonacci Figure ที่ 23.6% จึงแนะนำให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุนในช่วงนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าในวันนี้ราคาไม่สามารยืนอยู่เหนือระดับ 1,763 ได้ แนะนำให้ทยอยค่อยๆ ลดพอร์ทลงบ้าง วันนี้จะมีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญสองตัวที่เกี่ยวข้องกับราคาทองคำได้แก่ Trade Balance และ Unemployment Claims ซึ่งโดยภาพรวมคาดว่าจะทรงตัว หมายความว่าคนว่างอาจจะเพิ่มสูงขึ้นเพียง 1,000 ตำแหน่งจากการคาดการณ์ ซึ่งถ้าเป็นตามนั้นราคาน่าจะทรงตัวๆ แต่ในช่วงใกล้เลือกตั้งก็ไม่แน่ว่าจะมีตัวเลขใดออกมาผิดเพี้ยนบ้าง ซึ่งก่อนหน้านี้ก็มีผิดเพี้ยนกว่าที่คาดเยอะคือดีกว่าที่คาดไว้มาก ตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญในวันนี้จะประกาศประมาณเวลา 19.30 น. รอจับตาดูการเคลื่อนไหวของราคาในเวลาดังกล่าว
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,670 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,970 บาท
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,880 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,080 บาท
Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,020 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,060 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,750 — 1,763 เหรียญ เป็นลักษณะขายก่อนแล้วรอซื้อกลับมากกว่า ระหว่างการแกว่งตัวในทิศทางขาลง
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
ยังคงถือครองพอร์ทเท่าเดิม ไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่ม หากราคาไม่สามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,763 เหรียญได้แนะนำให้ลดพอร์ทบ้างบางส่วน
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
ถือครองพอร์ทเท่าเดิม ยังไม่แนะนำให้ซื้อเพิ่ม รอความชัดเจนของทิศทางตลาด บริเวณที่แนะนำให้ซื้อเพิ่มสำหรับนักลงทุนระยะยาวจะอยู่ที่ระดับ 1,762 เหรียญ
สรุปได้ว่า โดยภาพรวมยังไม่แนะนำให้เพิ่มพอร์ทในขณะนี้ ให้ปรับทิศทางและระวังการปรับตัวลดลงถ้าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาไม่เอื้อ
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง