สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday October 12, 2012 11:20 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,763 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,769 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.71 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,600 บาท กับ 25,700 บาท และกลับมาปิดที่ 25,600 บาท กับ 25,700 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,875 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,003 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 15 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 3% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 3% Silver Futures เพิ่มขึ้น 3% GFV12 ปิด 25,880 บาท และ GFZ12 ปิด 26,000 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,880 บาท GF10Z12 ปิดที่ 26,010 บาท SVV12 ปิดที่ 1,055 สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 5.5 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,770.60 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 2.7 เซนต์ ปิดที่ระดับ 34.08 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,340.52 ตัน (เท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 82 เซนต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 92.07 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ลดลง 18.58 จุด ปิดที่ระดับ 13,326.39 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 52 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC - ราคาทองคำกลับมาปรับตัวสูงขึ้นเมื่อคืนนี้ท่ามกลางสินทรัพย์เสี่ยง จากข่าวที่หลากหลายและตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาส่งผลให้เกิดการกลับทิศของราคาหลังจากที่ปรับตัวลดลงมามากกว่า 1% ในช่วง 4 วันทำการที่ผ่านมา นอกจากนี้สถานการณ์ตึงเครียดที่รุนแรงขึ้นระหว่างตุรกีและซีเรียที่อาจจะส่งผลกระทบต่ออุปทานน้ำมันจากตะวันออกกลางก็เป็นส่วนสนับสนุนราคาทองคำเช่นกัน โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 5.5 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,770.6 เหรียญ - ตลาดโดยทั่วไปได้รับแรงสนับสนุนจากการประกาศตัวเลข Unemployment Claims ของสหรัฐที่ชี้ให้เห็นว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐมีคนว่างงานน้อยลงสู่ระดับ 339,000 ตำแหน่ง ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 4 ปีครึ่ง โดยลดลงจากสัปดาห์ก่อน 30,000 ตำแหน่งหลังจากมีการปรับทบทวนแล้ว อย่างไรก็ตามข้อมูลนี้อ้างอิงจากรัฐบาลที่อาจมีการสนับสนุนนายบารัค โอบามาในช่วง 1 เดือนก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดี ในขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขาดดุลการค้าและบริการของสหรัฐในเดือนส.ค. ขยายตัวขึ้น 4.1% จากเดือนก่อนหน้า สู่ระดับ 4.422 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน โดยเป็นผลมาจากตัวเลขส่งออกที่ลดลงมากกว่ายอดนำเข้า - นายนารายานา โคเชอร์ลาโกตา ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขามินนีอาโพลิสย้ำว่าเฟดควรจตรึงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับต่ำไปจนกว่าอัตราว่างงานจะปรับตัวลดลง นอกจากนี้ กระแสคาดการณ์ที่ว่าสเปนอาจจะขอความช่วยเหลือทางการเงินยังส่งผลให้ความต้องการดอลลาร์สหรัฐซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย ลดน้อยลงด้วย - ทางฝั่งยุโรป รัฐบาลสเปนถูกดาวน์เกรดลง 2 ขั้น โดยเอสแอนด์พีจากระดับ BBB+ ลงสู่ระดับ BBB- เหนือระดับขยะเพียง 1 ขั้น อย่างไรก็ตาม อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสเปนปรับตัวลดลง ซึ่งผลักดันให้นักลงทุนเชื่อว่า สเปนได้ขยับเข้าใกล้การขอความช่วยเหลือทางการเงินเข้าไปอีกขั้นหนึ่ง ในขณะที่อีซีบีก็ได้สัญญาไว้แล้วว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรสเปน อย่างไรก็ตามสถาบันจัดอันดับความน่าเชื่อถือฟิทช์ เรตติ้งส์ ได้ประกาศเตือนว่า อาจมีการปรับลดเครดิตกลุ่มประเทศสมาชิกยูโรโซนเพิ่มเติม ในขณะที่ไอเอ็มเอฟกล่าวในการประชุมที่กรุงโตเกียวเมื่อวานนี้ว่า จะมีการบังคับให้ธนาคารในยุโรปทำการขายสินทรัพย์ให้มากกว่าครั้งก่อนหากรัฐบาลพบกับความล้มเหลวในการแก้ไขวิกฤตหนี้ อีกทั้งไอเอ็มเอฟสนับสนุนการให้เวลาเพิ่มเติมแก่กรีซและสเปนเพื่อลดยอดขาดดุลงบประมาณของประเทศ แต่มีการเตือนว่า การลดยอดขาดดุลที่ยาวนานเกินไป หรือเร็วเกินไปอาจส่งผลร้ายมากกว่าผลดี - สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปน (INE) รายงานวานนี้ว่า อัตราเงินเฟ้อรายปีของสเปนแตะ 3.4% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับแต่เดือนพ.ค.2554 และหากเทียบรายเดือน เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 1% จากเดือนส.ค - สำนักงานสถิติแห่งชาติของกรีซ (ELSTAT) เผยอัตราว่างงานของกรีซในเดือนก.ค.เพิ่มขึ้นแตะ 25.1% จาก 24.8% ในเดือนมิ.ย. โดยเป็นการปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาเป็นเวลาเกือบ 3 ปีแล้ว สถาบันวิจัยเศรษฐกิจชั้นนำ 4 แห่งของเยอรมนีได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศในปีหน้าลงครึ่งหนึ่ง สู่ระดับ 1.0% จากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.0% และยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้ลงมาอยู่ที่ระดับ 0.8% จากที่คาดไว้ก่อนหน้าที่ระดับ 0.9% โดยระบุว่า วิกฤตหนี้สาธารณะในยูโรโซนกำลังบั่นทอนการเติบโตของเศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งใหญ่ที่สุดในยุโรป - แหล่งข้อมูลกล่าวต่อ FastMarkets ว่า กลุ่มแรงงานเหมืองทองผู้ผลิตรายใหญ่ในแอฟริกาใต้ประท้วงหยุดงานยังคงมีการต่อต้านเพิ่มมากขึ้นที่จะยอมรับในเรื่องค่าแรง และยังคงมีการประท้วงต่อไป ซึ่งอุตสาหกรรมเหมืองของประเทศได้รับความเสียหายจากการประท้วงที่รุนแรง โดยเมื่อวานนี้ สภาอุตสาหกรรมเหมืองแร่ (Chamber of Mines) ได้เข้าหารือกับสหภาพคนงานเหมือง (Nation Union of Mineworkers: NUM) เกี่ยวกับข้อเสนอจากผู้ผลิตทองคำรายใหญ่ 3 อันดับของประเทศ อันได้แก่ AngloGold Ashanti, Harmony Gold และ Gold Fields เพื่อยุติการประท้วง แต่ทางสหภาพคนงานเหมืองประกาศชัดเจนว่า ไม่สามารถยอมรับแค่เพียงมีจดหมายแจ้งสั้นๆ ได้ซึ่งทางสภาต้องมีการดำเนินการมากกว่านี้ ทั้งนี้ทั้งสองฝ่ายจะมีการเปิดประชุมใหม่อีกครั้งในวันจันทร์ - ความสนใจในการลงทุนในทองคำในระยะยาวในฐานะ Safe Haven ยังคงได้รับแรงสนับสนุนจากหลักฐานการเพิ่มการสำรองทองคำในกองทุน ETFs ที่เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดที่ 75.03 ล้านออนซ์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามกองทุน ETFs ได้มีการลดการสำรองทองคำเป็นครั้งแรกในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อวานนี้ประมาณ 44,965 ออนซ์ จากระดับสูงสุดเดิม ทั้งนี้นายเชน มิน นักวิเคราะห์จากชินหลุย ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า การสำรองทองคำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของกองทุน ETFs ชี้ให้เห็นว่า นักลงทุนต่างๆ ยังคงมีความเชื่อมั่นในทองคำในระยะยาว แม้ว่าปัญหาทางยูโรโซนอาจมีผลกระทบในระยะสั้นก็ตาม - ผลสำรวจนักวิเคราะห์ทองคำจากรอยเตอร์สก็มีการสะท้อนความคิดของนายเชน มินเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์ต่างๆ คาดการณ์ว่าราคาทองคำจะมีระดับราคาเฉลี่ยสูงสุดในไตรมาสที่ 4 และอาจส่งผลต่อเนื่องไปปีหน้าด้วยเช่นกัน ในขณะที่สัญญาณทางเทคนิคชี้ให้เห็นว่า เป้าหมายของการตกลงไปของราคาทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,750 เหรียญไม่เปลี่ยนแปลง นอกจากนี้รอยเตอร์สยังได้ทำการสำรวจกลุ่มนักเศรษฐศาสตร์หลายร้อยคนทั่วโลกพบว่า ในปีหน้าเศรษฐกิจทั่วโลกจะมีการฟื้นตัวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น เนื่องจากได้รับผลกระทบจากเศรษฐกิจถดถอยในยุโรป และการชะลอตัวในการเติบโตของเศรษฐกิจเอเชียและสหรัฐ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -42.0B ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ -44.2B - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 367K ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 339K - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -0.5M ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 1.7M ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.7% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 0.8% - Prelim UoM Consumer Sentiment ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.2% คาดการณ์ว่าจะออกมาเท่าเดิมอยู่ที่ระดับ 0.2% - Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 78.3 คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 78.1 - Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -190.5 B คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 59.0 B - IMF Meetings วันที่ 12-15 ตุลาคม 2555 วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ภาพรวมราคาทองคำยังเป็นเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,760 — 1,775 เหรียญ โดยเมื่อวานการซื้อขายในตลาดเอเชียยังค่อนข้างแข็งแกร่ง โดยราคาถูกปรับขึ้นมาจากจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,760 เหรียญได้ แต่ก็มีแรงเทขายอยางหนาแน่นบริเวณ 1,773 เหรียญ โดยที่ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐเมื่อวานคนว่างงานออกมาดีขึ้นอย่างมาก 30,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ยอดขาดดุลการค้าเพิ่มมากขึ้นประมาณ 4.1% แตะระดับ 4.422 หมื่นล้านเหรียญ โดยที่ในคืนนี้ตัวเลข PPI โดยทั่วไปน่าจะไม่ได้ส่งผลใดๆ ต่อราคาทองคำ ภาพรวมเมื่อวาน SPDR ก็ยังคงไม่ได้ทำอะไรในการซื้อขาย คาดว่าราคาทองคำยังคงมีแนวต้านสำคัญที่บริเวณ 1,775 เหรียญ ถ้าทะลุขึ้นไปได้ก็จะมีแนวต้านสำคัญที่ระดับ 1,790 เหรียญ Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,830 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,030 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 26,130 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,040 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,070 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,760 — 1,770 เหรียญ ดูแรงรับด้านล่างจะค่อนข้างหนาแน่น Oscillator ในระยะสั้นโดยทั่วไปน่าจะเป็นสัญญาณบวก และ Oscillator ในระยะยาวเริ่มมีสัญญาณการกลับตัว นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ถือครองพอร์ทเท่าเดิม 40% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ถือครองพอร์ทเท่าเดิม 40% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ