เอชพี ติดปีกองค์กรธุรกิจก้าวสู่ระบบคลาวด์อย่างรวดเร็ว ผนึกไมโครซอฟท์รุกพัฒนาโซลูชั่น HP CloudSystem รองรับโปรแกรม Microsoft Windows Server 2012

ข่าวเทคโนโลยี Friday October 12, 2012 16:40 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--12 ต.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์ เติมเต็มประสบการณ์การเข้าใช้บริการหลากหลายประเภทจากจุดเดียว เอชพี เดินหน้าขยายพอร์ทโฟลิโอ HP Converged Cloud อย่างต่อเนื่อง ส่งสุดยอดโซลูชั่นใหม่และโดดเด่น ภายใต้ความร่วมมือระหว่างเอชพีและไมโครซอฟท์ เพื่อขับเคลื่อนลูกค้าให้ก้าวสู่ระบบคลาวด์แบบส่วนตัวได้อย่างง่ายดายและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โซลูชั่นระบบคลาวด์แบบส่วนตัวที่เกิดจากความร่วมมือระหว่างเอชพีและไมโครซอฟท์ (HP and Microsoft Joint Private Cloud) ประกอบด้วยโซลูชั่นแบบครบวงจรที่มีการทำงานอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยใช้เทคโนโลยีที่มีการพัฒนาร่วมกันระหว่างเอชพีและไมโครซอฟท์ ทั้งยังเพิ่มความสะดวกและคล่องตัวให้แก่ลูกค้าด้วยบริการขายและสนับสนุนอย่างครบถ้วนจากจุดเดียวตลอดอายุการใช้งาน ปัจจุบัน เทคโนโลยีคลาวด์ได้รับความนิยมจากองค์กรต่างๆ เพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีความยืดหยุ่นและคล่องตัวสูง ทั้งยังมีต้นทุนที่ประหยัด แต่องค์กรต่างๆ ยังต้องการให้องค์กรของตนเริ่มต้นการทำงานบนระบบคลาวด์ได้อย่างรวดเร็ว และป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น อาทิ การสูญหายของข้อมูล การรักษา ความปลอดภัย และการเกิดปัญหาผูกติดกับผู้ให้บริการเพียงรายเดียว (vendor lock-in) จากสภาวะการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าวทำให้เอชพีผนึกไมโครซอฟท์เดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีคลาวด์ คอมพิวติ้ง ให้มีการทำงานที่ง่ายดายและรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยจัดทำรูปแบบการให้บริการที่ชัดเจนภายใต้นโยบายที่มุ่งสร้างประสบการณ์การใช้บริการหลากหลายประเภทจากจุดเดียว (single-vendor client experience) ภายใต้ข้อตกลงที่ได้จัดทำขึ้นร่วมกันระหว่างเอชพีและไมโครซอฟท์ ก่อให้เกิด การนำโซลูชั่น HP Converged Cloud มาใช้ขยายพลังการทำงานของระบบคลาวด์ทั่วระบบโครงสร้างพื้นฐาน แอพพลิเคชั่น และระบบข้อมูลต่างๆ เพื่อเพิ่มทางเลือก ความเชื่อมั่น และความต่อเนื่องในการใช้งานของลูกค้า ทั้งนี้ โซลูชั่น HP Converged Cloud คือกลยุทธ์และพอร์ทโฟลิโอแรกในอุตสาหกรรมไอทีที่รองรับสถาปัตยกรรมแบบเดี่ยวและเปิด จึงทำให้การผนวกรวมระบบคลาวด์แบบส่วนตัว (private cloud) ระบบคลาวด์ที่มีการจัดการ (managed cloud) และระบบคลาวด์แบบสาธารณะ (public cloud) เข้ากับระบบไอทีเดิมสามารถทำได้อย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ โซลูชั่น HP and Microsoft Joint Private Cloud ใหม่มีสมรรถนะที่โดดเด่นดังนี้ - สนับสนุนการปรับเปลี่ยนสู่ระบบคลาวด์ให้ทำได้เร็วขึ้น โดยใช้โซลูชั่นแบบครบวงจรใหม่ และสถาปัตยกรรมอ้างอิง (reference architectures) - บริหารจัดการได้ง่ายขึ้นทั้งในสภาพแวดล้อมแบบปกติและแบบเวอร์ช่วล โดยผนวกรวมระบบการจัดการอย่างครบวงจร - เพิ่มความมั่นใจด้วยการเข้าใช้โปรแกรม Windows Server 2012 และ Microsoft System Center 2012 SP1 จากเอชพีโดยตรงเพียงแหล่งเดียว มร. สตีเฟ่น เดวิทท์ รองประธานอาวุโส กลุ่มธุรกิจเอ็นเทอร์ไพรส์ เอชพี กล่าวว่า “ลูกค้าที่มุ่งปรับเปลี่ยนสู่ระบบคลาวด์แบบส่วนตัวต่างต้องการโซลูชั่นที่ใช้งานง่าย ทั้งยังช่วยลดความเสี่ยง เพิ่มความคล่องตัว และช่วยประหยัดต้นทุนได้มากขึ้น ทั้งนี้ด้วยสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นกับไมโครซอฟท์ทำให้เอชพีสามารถมอบ ประสบการณ์การให้บริการหลากหลายประเภทที่ไว้วางใจได้จากจุดเดียว เพื่อให้ลูกค้าปรับเปลี่ยนสู่ระบบคลาวด์ได้อย่างง่ายดาย” มร. ไมเคิล พาร์ค รองประธานระดับองค์กร กลุ่มธุรกิจวินโดว์ส์ เซิร์ฟเวอร์ มาร์เก็ตติ้ง ไมโครซอฟท์ กล่าวว่า “โปรแกรม Windows Server 2012 เป็นโปรแกรมที่พัฒนาต่อยอดจากระบบคลาวด์ เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจต่างๆ ให้เปลี่ยนแปลงได้อย่างก้าวกระโดด สำหรับโซลูชั่น HP Converged Cloud ที่สนับสนุนโปรแกรม Windows Server 2012 จะทำหน้าที่เป็นเสมือนแผนผังชี้นำลูกค้าให้ก้าวไกลกว่าโลกแห่งเวอร์ช่วลไลเซชั่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเร่งรัดให้มีการปรับเปลี่ยนสู่ระบบคลาวด์ได้เร็วขึ้น ทั้งนี้ ภายใต้ข้อตกลงการผนึกกำลังเพื่อร่วมพัฒนาระบบคลาวด์แบบส่วนตัวดังกล่าว ทำให้เอชพีและไมโครซอฟท์ซึ่งมีสัมพันธภาพอันแน่นแฟ้นและยาวนานร่วมกันมากว่า 30 ปี พร้อมเดินหน้าช่วยเหลือลูกค้านำระบบคลาวด์มาใช้ประโยชน์และสร้างความสำเร็จให้แก่องค์กรของตนต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง” เร่งการก้าวสู่ระบบคลาวด์แบบส่วนตัวอย่างรวดเร็ว โซลูชั่น HP Converged Cloud ที่มีการปรับขยายเพิ่มขึ้น คือ การผนวกรวมโซลูชั่น HP CloudSystem และไมโครซอฟท์เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อช่วยลูกค้าปรับเปลี่ยนทรัพยากรแบบเวอร์ช่วลให้เป็นระบบคลาวด์แบบส่วนตัวและแบบไฮบริดที่ควบคุมและดูแลการทำงานได้ด้วยตัวเอง ทั้งนี้ โซลูชั่น HP CloudSystem ที่มีการปรับขยายให้รองรับโปรแกรมไมโครซอฟท์จะสร้างความคุ้มค่าให้แก่ลูกค้าได้เร็วขึ้น โดยอัดแน่นด้วยโซลูชั่นสุดล้ำ ได้แก่ ระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) ระบบการบริหารจัดการคลาวด์จาก เอชพี (cloud management from HP) โปรแกรม Windows Server 2012 และโปรแกรม Microsoft System Center 2012 SP1 นอกจากนี้ โซลูชั่น HP CloudSystem ที่มีการปรับขยายให้รองรับโปรแกรมไมโครซอฟท์ดังกล่าวยังช่วยลูกค้าเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วใน การออกแบบบริการและกระบวนการทำงานต่างๆ โดยใช้เทมเพลทที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่กำหนด อาทิ โซลูชั่น HP Cloud Maps ทั้งยังมีระบบเวอร์ช่วลเพื่อขจัดความเสี่ยงจากการใช้ระบบคลาวด์ และสนับสนุนผลิตภัณฑ์จัดเก็บข้อมูล HP 3PAR ที่ใช้เทคโนโลยีการจัดเก็บข้อมูลแบบ thin provisioning แบบอัตโนมัติ ทั้งยังมีฟีทเจอร์การจัดเรียงชั้นข้อมูลแบบอัตโนมัติ (automated data tiering) ตลอดจนมีการไหลเวียนของข้อมูลอย่างราบรื่น สำหรับธุรกิจขนาดกลางที่มองหาวิธีการเข้าใช้ระบบคลาวด์ คอมพิวติ้ง อย่างประหยัด เอชพีได้ร่วมมือกับไมโครซอฟท์พัฒนาสถาปัตยกรรมแบบ 2 โหนด HP Departmental Private Cloud Reference Architecture ซึ่งประกอบด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานแบบผนวกของเอชพี (HP Converged Infrastructure) ที่มาพร้อมฟังก์ชั่น ‘shared nothing’ live migration, ระบบ Hyper-V replica และฟีทเจอร์โดดเด่นอื่นๆ ของโปรแกรม Windows Server 2012 ส่งผลให้โซลูชั่น HP CloudSystem ใช้งานได้สะดวกและง่ายดายในราคาที่คุ้มค่า ทั้งยังมี ความโดดเด่นทั้งทางด้านสมรรถนะการทำงาน ความสามารถในการบริหารจัดการ และความพร้อมในการใช้งาน นวัตกรรมการจัดการสุดล้ำ โซลูชั่น HP CloudSystem แบบครบวงจรรองรับระบบ HP Insight Management ที่ทำงานร่วมกับโปรแกรม Microsoft System Center ส่งผลให้ระบบ System Center สามารถใช้งาน ติดตามผล และปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐานของเอชพี โดยไม่ต้องพึ่งผู้บริหารระบบให้สับเปลี่ยนระบบการทำงานสลับกันไปมา การผนวกรวมโซลูชั่นของเอชพีและไมโครซอฟท์เข้าไว้ด้วยกันก่อให้เกิดประโยชน์ต่อองค์กรธุรกิจต่างๆ ดังนี้ - ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการฝึกอบรม โดยมีการรวมระบบการทำงานด้านต่างๆ เข้าไว้กับ HP Insight Control และ Microsoft System Center ที่มีการเชื่อมต่อเข้าไว้ด้วยกันมากกว่า 1,400 จุด(1) - ลดความเสี่ยงและความไม่จำเป็นในการกำหนดเวลาหยุดการทำงานของเครื่อง พร้อมมีการอัพเดทเฟิร์มแวร์และไดรเวอร์แบบคลัสเตอร์ในเครื่องเซิร์ฟเวอร์ HP ProLiant ให้มีการทำงานอย่างราบรื่น ไม่สะดุด - ย้ายระบบจัดเก็บข้อมูลแบบ live storage migration และเพิ่มปริมาณข้อมูลได้เร็วขึ้น 7 เท่า โดยส่งผลกระทบต่อระบบเครือข่ายที่น้อยที่สุด ด้วยโซลูชั่นการถ่ายโอนข้อมูล HP 3PAR and Windows Server 2012 offload data transfer (ODX)(2) - สนับสนุนฝ่ายไอทีให้สามารถย้ายการทำเวอร์ช่วลแมชีน (VM) ระหว่างสถานที่ติดตั้งต่างๆ ที่มีระยะห่างกันถึง 100 กิโลเมตร โดยไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้งานของผู้ใช้งานต่างๆ ขจัดความซับซ้อน ลูกค้าสามารถซื้อโซลูชั่น HP CloudSystem ที่เพิ่มการทำงานให้เต็มประสิทธิภาพด้วยโปรแกรม Windows Server และ Microsoft System Center ได้จากเอชพีหรือผู้จำหน่ายที่ได้รับอนุญาตของเอชพีโดยตรง ทั้งยังสามารถติดต่อขอรับบริการเกี่ยวกับโซลูชั่นเอชพีและโซลูชั่นสนับสนุนของโมโครซอฟท์ได้จากจุดเดียวทั้งทางด้านการจัดซื้อ การนำมาใช้งาน การทำอินเทเกรชั่น การซ่อมบำรุง และการสนับสนุนเพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานให้แก่ลูกค้า และเร่งระยะเวลาที่ใช้ในการแก้ไขให้เร็วขึ้น นอกจากนี้ เอชพียังพร้อมให้บริการโปรแกรม Windows Server 2012 และ Systems Center 2012 ในราคาที่ระบุไว้ในสัญญา Microsoft Enterprise Agreement เดิมที่ลูกค้าได้ทำไว้กับไมโครซอฟท์ ลูกค้าจึงสามารถติดต่อขอรับบริการจากเอชพีได้อย่างครบวงจรจากจุดเดียว ด้วยราคาผลิตภัณฑ์และอัตราค่าบริการที่ตรงตามมาตรฐานของโมโครซอฟท์ จึงสะดวก รวดเร็ว ประหยัด และคุ้มค่าสูงสุด สถาปัตยกรรม HP Departmental Private Cloud Reference Architecture สถาปัตยกรรม HP Departmental Private Cloud Reference Architecture ได้รับการพัฒนาให้รองรับการให้บริการผ่านพันธมิตรคู่ค้าของเอชพี โดยเอชพีและไมโครซอฟท์ได้ร่วมกันจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการจัดกิจกรรมต่างๆ ภายใต้สัญญาการจัดการและบริหารระบบคลาวด์ร่วมกันที่มีระยะเวลานานหลายปี ได้แก่ โครงการพัฒนาระบบคลาวด์ร่วมกับพันธมิตรคู่ค้า การสร้างแรงจูงใจ การตลาด การสร้างความต้องการใช้งานของลูกค้า และการจัดฝึกอบรมฝ่ายขาย รวมถึงการใช้โซลูชั่น HP Departmental Private Cloud ราคาและการจัดจำหน่าย สำหรับลูกค้าเอชพีที่เลือกซื้อโซลูชั่นคลาวด์และเวอร์ช่วลไลเซชั่นที่ประกอบด้วยโปรแกรม Windows Server และ Microsoft System Center เอชพีได้กำหนดราคาและค่าบริการตามสัญญาประเภท Enterprise หรือ Select Plus ที่ทำไว้เดิม โซลูชั่น HP Converged Cloud ที่มาพร้อมสถาปัตยกรรม HP Departmental Private Cloud Reference Architecture มีจำหน่ายแล้วโดยเอชพีและพันธมิตรคู่ค้าของเอชพีทั่วโลก สำหรับโซลูชั่นที่สนับสนุนโปรแกรม Systems Center 2012 SP1 พร้อมวางจำหน่ายในต้นปี 2556 ข้อมูลเพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ http://www.hp.com/learn/ws2012 ข้อมูลเกี่ยวกับเอชพี เอชพีสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ๆ ให้เป็นจริง ซึ่งเกิดประโยชน์ต่อผู้บริโภค ธุรกิจ ภาครัฐ และสังคมได้เป็นอย่างมาก เอชพีเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ที่สุดของโลกที่นำเสนอพอร์ทโฟลิโอผลิตภัณฑ์ต่างๆ ได้แก่ เครื่องพิมพ์ คอมพิวเตอร์ ซอฟต์แวร์ บริการต่างๆ รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานทางด้านไอที เพื่อขจัดปัญหาของลูกค้าได้อย่างตรงจุด สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ เอชพี (NYSE: HPQ) สามารถเข้าชมได้ที่ http://www.hp.com (1) Based on HP internal sales estimates of HP CloudSystem and other cloud solutions. (2) Results depend on IP network bandwidth, server and array models, drive types and rotational speeds, number of disk drives and other factors based on HP internal testing and analysis.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ