กรุงเทพฯ--9 ก.ย.--ปูนซีเมนต์นครหลวง
บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) - SCCC ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์รายใหญ่อันดับสองของประเทศไทย คาดว่าในปีนี้ตลาดปูนซีเมนต์ในประเทศจะเติบโตประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์จากความต้องการที่มากขึ้น
มร.ลีโอ มิทเทลโฮลเซอร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ผลประกอบการในครึ่งปีแรกของเราเป็นที่น่าพอใจ โดยเราได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้น แม้ว่าผลกำไรจะยังคงที่เนื่องจากความกดดันทางด้านราคาและต้นทุน"
"เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ค่าใช้จ่ายด้านพลังงานซึ่งเป็นสัดส่วนสำคัญของต้นทนการผลิตได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมโดยรวม ซึ่งก็ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่สุด สำหรับบริษัทไม่เพียงแต่ค่าใช้จ่ายในด้านพลังงานเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาและดูแลสิ่งแวดล้อมด้วย การทบทวนต้นทุนรวมด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญที่สุดในตอนนี้" มร.มิทเทลโฮลเซอร์ กล่าว
สำหรับกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทนั้น มร.มิทเทลโฮลเซอร์ กล่าวว่า "การขายปูนซีเมนต์อย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ เราจะต้องสนองตอบทุกๆ ความต้องการให้กับลูกค้าของเราด้วย อนาคตของปูนซีเมนต์นครหลวงอยู่ที่การบูรณาการเชิงลึก (vertical integration) ซึ่งหมายความว่าเราจะต้องมุ่งในผลิตภัณฑ์ของเราไม่เพียงแต่ในแง่ของการขายเท่านั้น ยังต้องรวมไปถึงการสนองตอบความต้องการและให้บริการอื่นๆ ที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ลูกค้าและตัวบริษัทเองด้วย คอนกรีตสำเร็จรูปดูเหมือนจะเป็นทางเลือกธุรกิจที่โดดเด่น เราต้องวางกลยุทธ์ที่จะทำให้เราเติบโตขึ้นบนศักยภาพและทรัพยากรที่เรามีอยู่เพื่อตอบสนองกระแสของความต้องการที่ผันผวนในตลาดปัจจุบัน"
ความต้องการปูนซีเมนต์ในภูมิภาคนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วยกระตุ้นการส่งออกและทำให้ธุรกิจระหว่างประเทศของบริษัทขยายตัวเพิ่มขึ้น การใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของโฮลซิม ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นของเรา เช่นการสนับสนุนด้านการส่งออก การจัดซื้อและการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ ทำให้เราสามารถเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันไว้ได้
บริษัทมีผลประกอบการด้านการเงินโดยรวมในครึ่งปีแรกของปี 2547 สูงกว่าช่วงเดียวกันในปี 2546 โดยมียอดขายสุทธิ 9,989 ล้านบาท (เทียบกับครึ่งแรกปี 2546 มียอดขายสุทธิ 9,081 บาท) มีกำไรสุทธิ 2,151 ล้านบาท (เทียบกับครึ่งปี 2546 มีกำไรสุทธิ 1,914 ล้าน) ซึ่งเพิ่มขึ้น 12% คิดเป็นกำไรสุทธิต่อยอดขาย 22% (เทียบกับครึ่งปีแรกของปี 2546 มีกำไรสุทธิต่อยอดขาย 21%)
ทั้งนี้ บริษัทได้ประกาศในวันที่ 3 กันยายน 2547 ว่า คณะกรรมการได้อนุมัติให้จ่ายเงินปันผลเฉพาะกาล (ครึ่งปี 2547) จำนวน 6 บาทต่อหุ้นในวันที่ 1 ตุลาคม (ปิดทะเบียนบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นวันที่ 20 กันยายน)
บริษัทไม่เพียงแต่ทุ่มเทให้กับการตอบสนองความต้องการที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าเท่านั้น แต่ยังให้ความสำคัญกับการดำเนินการที่สูงกว่ามาตรฐานและวิธีปฏิบัติสากลที่ดีที่สุดอีกด้วย รวมถึงมาตรการด้านอาชีวอนามัยและความปลอดภัย (Occupational Health & Safety - OH&S) เพื่อสร้างสิ่งแวดล้อมในการทำงานให้มีชีวิตชีวาและมีความปลอดภัยไปพร้อมๆ กัน
ส่วนหนึ่งเกี่ยวกับโครงการด้านสิ่งแวดล้อมที่บริษัทดำเนินการอยู่ก็คือ บริษัทและพันธมิตรจะร่วมกันช่วยบูรณะฟื้นฟูพื้นที่กว่า 2000 ไร่ ของป่าเสื่อมโทรมที่พุแค จังหวัดสระบุรี โดยโครงการนี้อยู่ห่างจากโรงงานของบริษัทออกไปประมาณ 30 กิโลเมตร การออกแบบโครงการบูรณะป่าเสื่อมโทรมนี้ไม่ใช่เพียงแค่เพื่อพลิกฟื้นฟูป่าเสื่อมโทรมเท่านั้น แต่ยังจะเป็นการสร้างกรณีศึกษาสำหรับสังคม รวมทั้งเป็นแบบอย่างสำคัญของการฟื้นฟูให้อุตสาหกรรมต่อไป
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง ก่อตั้งเมื่อ 2512 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในปี 2520 และบริษัท "โฮลซิม" ผู้ผลิตปูนซีเมนต์รายใหญ่ของโลกเข้าร่วมถือหุ้นในปี 2541
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ดร.สถาพร เพชรทองคำ
เลขานุการบริษัทและธุรกิจสัมพันธ์
บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน)
โทร. 0 2263 0535 Ext. 1100, 1101
www.siamcitycement.com--จบ--
--อินโฟเควสท์ (กภ)--