กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย)
ชูคำขวัญ “วิทยาศาสตร์มีคำตอบ” รวมพลัง 9 กระทรวงแสดงผลงานจากมันสมองคนไทยอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ฉลองสมโภช 200 ปี “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”
สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ในสังกัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผนึกกำลัง 9 กระทรวง ประกาศศักดาทีมนักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และนักวิชาการไทย ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2547 ชูคำขวัญ “วิทยาศาสตร์มีคำตอบ” ยกขบวนนวัตกรรมความก้าวหน้าล่าสุดจากหลากหลายสาขามาแสดงใน 8 กลุ่มนิทรรศการอินเตอร์แอคทีฟเต็มรูปแบบ ณ อิมแพค เมืองทองธานี 19 — 23 ตุลาคมนี้
นายกร ทัพพะรังสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กล่าวว่า “ทางกระทรวงฯได้มอบหมายให้สวทช. เป็นแกนนำในการจัดงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเป็นประจำทุกปี เพื่อเผยแพร่ผลงานวิชาการ งานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ และนวัตกรรมในหลากหลายสาขาวิชาต่อสาธารณชน และกระตุ้นให้เยาวชนไทยตื่นตัวที่จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อีกทั้งเป็นเวทีส่งเสริมและสนับสนุนให้ภูมิปัญญาของคนไทยได้รับการพัฒนาต่อยอดไปเป็นเครื่องมือยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คน และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลก กล่าวได้ว่าสังคมปัจจุบันเป็นโลกแห่งการเรียนรู้และการแข่งขันกันทางวิทยาการล้ำสมัย กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กำลังร่วมมือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสร้างความมั่นใจและความภูมิใจว่าคนไทยมิได้น้อยหน้าใครในเรื่องความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีดังจะเห็นได้จากผลงานนับพันชิ้นที่จะนำมาแสดงและสาธิตในงานนี้”
“สำหรับงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในปีนี้จะจัดอย่างยิ่งใหญ่กว่าทุกครั้งที่ผ่านมา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองสมโภช 200 ปีพระบรมราชสมภพของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย” พร้อมทั้งเทิดพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็น “พระบิดาแห่งเทคโนโลยีไทย” โดยได้ร่วมมือกับกระทรวงสำคัญ 9 แห่ง และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกมากมายจัดทำกลุ่มนิทรรศการแสดงผลงานที่โดดเด่นของนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยไทย และจัดประชุมวิชาการในหัวข้อที่กำลังเป็นที่สนใจทั่วโลก อย่างนาโนเทคโนโลยี เทคโนโลยีชีวภาพ และเทคโนโลยีด้านการพลังงาน เพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนและสาธารณชนตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงธุรกิจระดับชาติได้เรียนรู้และนำไปประยุกต์ใช้งานได้จริง”
ทางด้านศ.ดร. ไพรัช ธัชยพงษ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และว่าที่ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า “สารสำคัญที่คณะผู้จัดงานฯต้องการสื่อไปยังกลุ่มเป้าหมายหลัก อันได้แก่ เยาวชน ประชาชนทั่วไป นักวิชาการ ภาคธุรกิจและภาคอุตสาหกรรม ก็คือวิทยาศาสตร์เป็นเรื่องใกล้ตัว ช่วยให้ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น และมีส่วนช่วยในการพัฒนาประเทศทุกๆด้าน โดยขมวดเป็นคำขวัญที่ว่า ‘วิทยาศาสตร์มีคำตอบ’ ซึ่งจะแสดงและสาธิตให้เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนในซุ้มนิทรรศการที่หลากหลาย เช่น โครงการแกล้งดินในพระราชดำริ พาวิลเลี่ยนสาธิตเทคโนโลยี RFID เครื่องบินและรถพลังโซล่า หุ่นยนต์อัจฉริยะ ผ้าไหมยืดได้ และการผลิตโซล่าเซลล์ด้วยตนเอง ซึ้งล้วนแล้วแต่เป็นผลงานที่เกิดจากมันสมองของคนไทย และผ่านการพัฒนาปรับปรุงมาเป็นเวลานานจนประสบความสำเร็จเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวไทยทั้งชาติในวันนี้”
ดร. ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการ สวทช. กล่าวว่า “งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์ฯ ในปีนี้จะกินเนื้อที่ถึง 47,000 ตารางเมตร อาคารนิทรรศการในอิมแพค เมืองทองธานี เพื่อรองรับกลุ่มนิทรรศการถึง 8 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มเทคโนโลยีชีวภาพซึ่งจะจัดแสดงผลงานความก้าวหน้าที่กำลังเป็นที่จับตามองของศูนย์ไบโอเทค เช่น การปลูกถ่ายอวัยวะเทียม หรือผลงานการค้นพบและเพาะพรรณไม้ชนิดใหม่ที่ชื่อว่า ‘มหาพรหมราชินี’ โดยสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย (วว.) กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะแสดงเทคโนโลยีสมาร์ทการ์ด และบ้านอัจฉริยะสำหรับคนพิการ กลุ่มนาโนเทคโนโลยี กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนโลหะวัสดุและหุ่นยนต์อัจฉริยะ ซึ่งจะแบ่งเป็นโซนรถยนต์ โซนผ้าไหม โซนวัตถุดิบ หุ่นยนต์อัจฉริยะ เครื่องร่อนกระดาษ กลุ่มพลังงานจะแสดงตัวอย่างบ้านพลังงานแสงอาทิตย์ กลุ่มสิ่งแวดล้อม กลุ่มเทคโนโลยีการใช้แสงอิเล็กตรอน ซึ่งจะแสดงการใช้ดาวเทียมสำรวจทรัพยากร และกลุ่มเด็กอัจฉริยะ ซึ่งจะมีการจำลองรถไฟฟ้าแม่เหล็กสูง แบตตารี่จากผลไม้ และเกมวิทยาศาสตร์ลับสมอง เป็นต้น”
“นอกจากนี้ กระทรวงต่างๆยังนำผลงานที่โดดเด่นของตนมาร่วมแสดง เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะแสดงผลงานการปลูกผักปลอดสารพิษ และการเพาะเลี้ยงปลากะลังจุดฟ้า ซึ่งเป็นปลาเศรษฐกิจตัวใหม่ที่ไทยเพาะพันธุ์ได้สำเร็จเป็นประเทศแรก กระทรวงอุตสาหกรรมจะแสดงระบบความปลอดภัยสำหรับอุตสาหกรรมอาหาร กระทรวงสาธารณสุขจะแสดงนิทรรศการสมุนไพรและการแพทย์แผนไทย กระทรวงคมนาคมจะสาธิตเครื่องลงคะแนนเสียงเลือกตั้งของวิทยุการบินแห่งประเทศไทย ระบบดาวเทียมสำรวจร่องน้ำของการท่าเรือแห่งประเทศไทย และแผนที่อินเตอร์แอคทีฟของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ส่วนกระทรวงกลาโหมจะแสดงการจำลองสถานการณ์รบ และหุ่นจำลองเครือข่ายการสื่อสารโดยอาศัยบอลลูนรอบอ่าวไทย” ดร. ณรงค์กล่าว
งานสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติประจำปี 2547 จะเปิดให้นักเรียนทั่วประเทศเข้าชมระหว่างวันที่ 15—17 ตุลาคม และจะเปิดให้เยาวชนและประชาชนทั่วไปเข้าชมได้ระหว่างวันที่ 19 — 23 ตุลาคม 2547 ณ อิมแพค เมืองทองธานี
บริษัท เอ็มดีเค คอนซัลแทนส์ (ประเทศไทย) จำกัด
กษมา ภุมรี
สุจิรา เทวอักษร
โทรศัพท์ 02 658 6111-20 ต่อ 118/120
โทรสาร 02 658 6122-3--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--