ผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตเดือนสิงหาคม

ข่าวทั่วไป Friday September 10, 2004 14:23 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--10 ก.ย.--กรมสรรพสามิต
ภาษีสรรพสามิตเดือนสิงหาคม 2547 จัดเก็บได้กว่า 20,000 ล้านบาท เกินเป้าหมายกว่า 400 ล้านบาท ส่งผลให้ยอดรายได้ภาษีสรรพสามิตพุ่งสูงเกินเป้าหมายต่อเนื่อง 11 เดือน ภาษีน้ำมัน ภาษีรถยนต์ ภาษีเบียร์ ภาษียาสูบ และภาษีสุรา ยังเป็น สินค้า 5 อันดับที่จัดเก็บได้สูงสุด
นางสิรินุช พิศลยบุตร รองอธิบดีกลุ่มภารกิจด้านจัดเก็บภาษี เปิดเผยถึงผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตในรอบ 11 เดือน (เดือนตุลาคม 2546 — สิงหาคม 2547) ว่าสามารถจัดเก็บได้จำนวน 252,627.10 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณถึง 35,334.33 ล้านบาท หรือร้อยละ 16.26 และเป็นการจัดเก็บภาษีได้สูงกว่าประมาณการ 11 เดือนอย่างต่อเนื่อง โดยสูงกว่ารายได้ในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (เดือนตุลาคม 2545 — สิงหาคม 2546) ถึง 26,278.65 ล้านบาท หรือร้อยละ 11.61 (ปีก่อนเก็บได้ 226,348.45 ล้านบาท)
สำหรับในเดือนสิงหาคม 2547 กรมสรรพสามิตสามารถจัดเก็บภาษีได้รวมทั้งสิ้น 20,221.01 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณจำนวน 426.50 ล้านบาท หรือร้อยละ 2.15
สินค้าที่มียอดรายได้ภาษีสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ภาษีน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมัน จัดเก็บได้ 6,127.99 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 42.38 ล้านบาท หรือร้อยละ 0.70 ภาษีรถยนต์ จัดเก็บได้ 4,892.76 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 661.96 ล้านบาท หรือร้อยละ 15.65 ภาษีเบียร์ จัดเก็บได้ 3,498.84 ล้านบาท สูงกว่าประมาณการจำนวน 666.27 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.52 ภาษียาสูบ จัดเก็บได้ 1,974.04 ล้านบาท ภาษีสุรา จัดเก็บได้ 1,461.39 ล้านบาท
รองอธิบดีกลุ่มภารกิจด้านจัดเก็บภาษีกล่าวด้วยว่า สาเหตุที่กรมสรรพสามิตสามารถ จัดเก็บภาษีได้สูงกว่าเป้าหมายต่อเนื่อง 11 เดือนนั้น เป็นผลมาจากกิจกรรมทางการตลาดของผู้ประกอบการ เพื่อกระตุ้นยอดขายในรูปแบบต่างๆ การเพิ่มประสิทธิภาพและการปรับปรุงการบริหารการจัดเก็บภาษีของ กรมสรรพสามิต โดยนำหลักการบริหารความเสี่ยง ( Risk Management) การบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ (Resources Base Management) และการควบคุมภายในมาใช้ มีผลให้ภารกิจในการจัดเก็บภาษี ของกรมสรรพสามิตบรรลุเป้าหมาย โดยดูได้จากผลการจัดเก็บรายได้ภาษีสรรพสามิตสะสมตั้งแต่เดือนตุลาคม 2546 — สิงหาคม 2547 เมื่อวิเคราะห์จะพบว่าสัดส่วนรายได้ต่อจำนวนเจ้าหน้าที่กรมสรรพสามิตสูงขึ้นเมื่อ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีก่อน คือจากเจ้าหน้าที่ 1 คน สามารถจัดเก็บภาษีได้ 45.77 ล้านบาท เป็น เจ้าหน้าที่ 1 คน สามารถจัดเก็บภาษีได้ 50.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้นคนละ 4.94 ล้านบาท หรือร้อยละ 9.74
“กรมสรรพสามิตจะรักษาความเป็นกรมจัดเก็บภาษีที่มีความทันสมัย มีประสิทธิภาพ มีประสิทธิผล และมีความโปร่งใสในการจัดเก็บภาษี โดยจะเน้นการบริหารการจัดเก็บภาษีในเชิงรุก พัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพ ตลอดจนนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาปรับใช้ในการจัดเก็บภาษีและการให้บริการประชาชน” รองอธิบดีกลุ่มภารกิจด้านจัดเก็บภาษีกล่าวทิ้งท้าย
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
สำนักงานเลขานุการกรม
กรมสรรพสามิต
โทร. 0 2668 6619
โทรสาร 0 2241 4778
e-mail: exd.press@excise.go.th--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ