สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันอังคารที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday October 16, 2012 10:04 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,743 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,734 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.73 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,350 บาท กับ 25,450 บาท และกลับมาปิดที่ 25,350 บาท กับ 25,450 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,963 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,908 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 33 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 4% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 6% Silver Futures เพิ่มขึ้น 3% GFV12 ปิด 25,390 บาท และ GFZ12 ปิด 25,530 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,390 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,530 บาท SVV12 ปิดที่ 1,014 สัญญา Comex ปิดลดลง 22.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,737.6 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 92.60 เซนต์ ปิดที่ระดับ 32.74 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,333.89 ตัน (ขายออก 6.63 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 1 เซนต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 91.85 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 95.38 จุด ปิดที่ระดับ 13,424.23 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 53 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest - ราคาทองคำปรับตัวลดลง 1% เมื่อคืนนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงในรอบวันมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม หลังจากการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจยอดค้าปลีกของสหรัฐประจำเดือนกันยายนปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.1% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน หลังจากที่เพิ่มขึ้น 1.2% ในเดือนสิงหาคม และมากกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.8% สะท้อนว่าผู้บริโภคมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นเกี่ยวกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และจุดประกายความหวังว่า การใช้จ่ายภาคครัวเรือนที่เพิ่มสูงขึ้นอาจช่วยให้เศรษฐกิจไตรมาส 3 ขยายตัวได้ดีกว่าที่มีการประเมินกันไว้ โดยตัวเลขทางสหรัฐที่ออกมาดีชี้ให้เห็นว่า การแทรกแซงตลาดของเฟดผ่านมาตรการ QE3 อาจมีระยะเวลาที่สั้นลง และนอกจากนี้การประกาศยอดส่งออกของจีนที่ออกมาขยายตัว 9.9% ในเดือนกันยายน ซึ่งมากกว่าเดือนสิงหาคมที่ขยายตัวเพียง 2.7% และมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 5% นั้นแสดงให้เห็นว่า จีนอาจไม่มีการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม โดยตัวเลขจีดีพีของจีนประจำไตรมาสที่ 3 จะมีการประกาศในวันพฤหัสบดีนี้ ทั้งนี้ สัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 22.1 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,737.6 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายอยู่ที่ระดับค่าเฉลี่ย 30 วัน - ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาดีขึ้นของสหรัฐในช่วงที่ผ่านมาได้แก่ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นเมื่อวันศุกร์ และจำนวนผู้รับสวัสดิการว่างงานลดลงอย่างมากในวันพฤหัสบดี อาจเป็นส่วนที่ลดความสำคัญของแผนการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟดได้ ซึ่งนักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า แผนการเข้าซื้อพันธบัตรของเฟดอาจถูกย่นระยะเวลาให้สั้นลงกว่าที่คาดหากตัวเลขเศรษฐกิจออกมาดีเพียงพอ - นายเจฟฟรีย์ แลคเกอร์ ประธานเฟดสาขาริชมอนด์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า ความเสี่ยงของการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของเฟดจะไม่ทำอะไรให้เศรษฐกิจเติบโตได้มากนัก - ก่อนหน้านี้ ราคาทองคำทำจุดสูงสุดในปีนี้ที่ระดับ 1,795.69 เหรียญ อย่างไรก็ตาม ยังไม่สามารถฝ่าระดับ 1,800 เหรียญขึ้นไปได้ เนื่องจากยังมีแรงเทขายอยู่ในตลาดเป็นอย่างมาก โดย RSI ลดลงสู่ระดับ 45 เมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วจากจุด Overbought ที่อยู่เหนือระดับ 80 ในเดือนกันยายน ชี้ให้เห็นว่านักลงทุนบางรายอาจเริ่มที่จะเข้าสู่การเก็งกำไร - นักวิเคราะห์บางรายคาดการณ์ว่า ราคาทองคำจะมีการรีบาวน์เนื่องจากความกังวลในวิกฤตหนี้ยูโรโซนและความไม่แน่นอนท่ามกลางภาวะ “fiscal cliff” ของสหรัฐในการที่จะตัดลดการใช้จ่ายและเพิ่มภาษี ซึ่งมีกำหนดใช้ในเดือนมกราคมที่อาจกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างมากจนอาจทำให้เฟดมีการพิมพ์ธนบัตรเข้าสู่ระบบได้ - การฟื้นตัวของราคาทองคำในช่วงตั้งแต่เดือนมิถุนายน — เดือนกันยายนได้กระตุ้นให้กองทุน ETFs มีการถือครองทองคำเพิ่มขึ้นทำจุดสูงสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้เมื่ออ้างอิงถึงข้อมูลจาก CFTC พบว่า Hedge Funds ต่างๆ ก็มีการเพิ่มสถานะการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นมากที่สุดในรอบเกือบ 14 เดือน - ปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน ETFs ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 74.991 ล้านออนซ์ในวันที่ 14 ตุลาคม หลังจากที่ปรับตัวลดลงในช่วง 2 วันทำการที่ผ่านมา โดยจุดสูงสุดอยู่ที่ระดับ 75.03 ล้านออนซ์ที่ทำไว้เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา - ในช่วงปลายสัปดาห์วันที่ 18 — 19 ตุลาคมนี้ จะมีการประชุมสุดยอดผู้นำสหภาพยุโรป หรืออียูซัมมิทจะเป็นความสนใจของตลาดอย่างมาก โดยไม่ต้องสงสัยเลยว่าทุกสายตาจะจับจ้องไปที่สเปนเพื่อรอคอยการร้องขอความช่วยเหลือทางการเงิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต่างๆ ของยูโรโซนได้กล่าวว่า สเปนอาจมีการขอความช่วยเหลือในเดือนหน้า และหากมีการขอความช่วยเหลือจริงก็อาจจะมาควบคู่กับเงินช่วยเหลือของกรีซและไซปรัส - นายลูอิส เด กินดอส รมว.เศรษฐกิจสเปน กล่าววานนี้ว่า เขาคาดว่ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสปนจะหดตัวลง 0.4% ในช่วงไตรมาส 3 ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับไตรมาส 2 ขณะที่การปรับตัวทางเศรษฐกิจในยุโรปในไตรมาส 3 โดยทั่วไปย่ำแย่กว่าในไตรมาส 2 นั้น สถานการณ์ในสเปนมีแนวโน้มที่มีเสถียรภาพ แม้ว่าข้อมูลโดยรวมยังคงอยู่ในเชิงลบ - สหภาพยุโรป (อียู) ได้เพิ่มมาตรการคว่ำบาตรอิหร่านเมื่อวานนี้ ซึ่งรวมถึงการประกาศห้ามนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากอิหร่าน เนื่องจากอิหร่านยังไม่มีความคืบหน้าในการเจรจาเรื่องโครงการนิวเคลียร์ ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.0% ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 1.1% - Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 1.2% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 1.1% - Empire State Manufacturing Index ตัวเลขเดิมอยู่ที่ -10.4 ตัวเลขจริงออกมาเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ -6.2 - Business Inventories m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.8% ตัวเลขจริงออกมาลดลงอยู่ที่ระดับ 0.6% ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Core CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.1% คาดการณ์ว่าจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ระดับ 0.2 % -CPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 0.6% คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ระดับ 0.4 % -TIC Long-Term Purchases ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 67.0B คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ระดับ 45.3B วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง หลังจากที่มี Technical Rebound ขึ้นมาได้เล็กน้อยในช่วงเช้า ไปทำจุดสูงสุดได้เพียงประมาณ 1,748 เหรียญ และมีแรงเทขายออกมาหนาแน่น ทำให้ในช่วงต้นตลาด COMEX ราคาหลุดระดับ 1,740 เหรียญลงมา และลงทำไปจุดต่ำสุดบริเวณ 1,729 เหรียญโดยประมาณ จะเห็นได้ถึงความผันผวนในทิศทางขาลงของราคาทองคำอย่างมาก ในเชิงตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาในระยะหลังค่อนข้างอยู่ในเกณฑ์ดี โดยภาพรวมเกิดการคิดกันว่า QE3 อาจจะสั้นลงหรือน้อยลงกว่าที่คาด ภาพรวมทางเทคนิคของราคาทองคำในระยะสั้น ราคาทองคำเข้าสู่แนวโน้มขาลง โดยที่กราฟแนวโน้มในรายชั่วโมงจนถึงราย 8 ชั่วโมง เริ่มเป็นทิศทางขาลงอย่างชัดเจน กราฟรายวันเริ่มส่งสัญญาณปรับตัวลดลง มาทดสอบที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันอีกครั้ง ซึ่งระดับค่าเฉลี่ย 50 วันของกราฟรายวันอยู่ที่ระดับ 1,720 เหรียญ แนวโน้มในระยะสั้นเป็นขาลง จึงย้ำให้นักลงทุนเห็นความสำคัญในการลดพอร์ทหรือบริหารพอร์ทให้เหมาะสมกับแนวโน้มของตลาดเพื่อป้องกันความเสี่ยง ราคาทองคำอาจจะมีการปรับตัวลดลงไปทดสอบแนวรับถัดไปที่ระดับ 1,720 เหรียญได้ จึงแนะนำให้นักลงทุนบริหารพอร์ทการลงทุนให้เหมาะสมและไม่แนะนำให้ซื้อเฉลี่ยขาดทุน โดยนักลงทุนทองคำแท่งเองจำเป็นที่จะต้องบริหารพอร์ทให้เหมาะสมกับวงเงินเช่นเดียวกัน ซึ่งจะเห็นได้จากการแกว่งตัวของราคาทองคำอย่างมากในช่วงนี้ เป็นการเคลื่อนตัวรวดเร็วจนตกหลุดระดับ 1,740 เหรียญลงมา และหลังจากที่ไม่สามารถกลับขึ้นไปเหนือระดับ 1,750 เหรียญได้เมื่อวาน ทำให้มีแนวโน้มทางเทคนิคกลายเป็นขาลงในระยะสั้นในขณะนี้ โดยแนวต้านสำคัญอยู่ที่ระดับ 1,745 และ 1,760 เหรียญตามลำดับ Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,280 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,480 บาท Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,420 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,620 บาท Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 1,000 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,040 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,720 — 1,740 เหรียญ ยังแนะนำให้ระมัดระวังการปรับตัวลดลงของราคา นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) พิจารณาที่จะลดพอร์ท Portfolio ลงบ้างให้เหมาะสม อาจทำ Stop Loss บ้าง เพื่อให้สามารถบริหารพอร์ทได้ ถือครองพอร์ท 40% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง เป็นช่วงที่ทยอยเข้าซื้อสะสมอีกได้เล็กน้อยประมาณ 10% ถือครองพอร์ท 50% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ