กรุงเทพฯ--16 ต.ค.--ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย)
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) สายงานบุคคลธนกิจเปิดตัวผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินใหม่ ภายใต้แนวคิด “ซิมพลิซิตี้” รุกตลาดเอสเอ็มอีเพื่ออำนวยความสะดวกทางธุรกิจ พร้อมเป็นคู่คิดทางธุรกิจในการให้คำปรึกษาแบบมืออาชีพโดยผู้จัดการลูกค้าสัมพันธ์ และนำเสนอระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งสำหรับเอสเอ็มอีแบบครบวงจร เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดการธุรกรรมทางการเงิน ได้ทุกที่ทั่วโลก
มร. แรมกี้ ซับรามาเนียน รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ กล่าวว่า “เช่นเดียวกับประเทศอื่นทั่วโลก เอสเอ็มอีในประเทศไทยมีสัดส่วนของการจ้างงานสูงถึงร้อยละ 80 และเป็นกลุ่มที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจอย่างมาก แต่เรากลับพบว่ากลุ่มเอสเอ็มอียังไม่ได้รับการบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการอย่างเต็มที่ในเรื่องเงินทุนหมุนเวียนเพื่อการขยายธุรกิจ ด้วยเหตุนี้ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จึงเปิดตัวผลิตภัณฑ์ และบริการทางการเงินใหม่ ภายใต้แนวคิด ‘ซิมพลิซิติ้’ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอีเป็นเรื่องง่ายด้วยบริการทางการเงินที่ตอบสนองความต้องการทางธุรกิจได้รวดเร็ว เพิ่มความคล่องตัวทางการเงิน และช่วยเอสเอ็มอีสร้างเครือข่ายในการดำเนินธุรกิจ”
มร. คริสโตเฟอร์ เดโล หัวหน้าฝ่ายบริการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด กล่าวถึงบทบาทของเอสเอ็มอีทั่วโลกว่า “ในหลายประเทศ เอสเอ็มอีมีการเติบโตราว 2 เท่าของจีดีพี และคาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 10-12 ต่อปี ในทุกตลาดในภูมิภาคหลักที่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดดำเนินธุรกิจ ซึ่งได้แก่ เอเชีย แอฟริกา และตะวันออกกลาง และเราหวังว่าด้วยความพยายามตอบสนองความต้องการของเอสเอ็มอีอย่างเต็มที่ ทำให้ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเป็นธนาคารหลักระดับสากลสำหรับเอสเอ็มอี และขยายพอร์ทโฟลิโอเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 2-3 ปีข้างหน้า”
นายเชวง เศรษฐพร ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายบริการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กล่าวว่า “ด้วยผลิตภัณฑ์ทางการเงิน และความเชี่ยวชาญระดับสากลในเรื่องของเอสเอ็มอี ทำให้ธนาคารฯ เข้าใจความต้องการของเอสเอ็มอีที่ต้องการความรวดเร็ว และความสะดวก เราจึงนำเสนอโปรแกรมเซอร์วิสการันตี ได้แก่ สินเชื่อเพื่อธุรกิจแบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันที่สามารถอนุมัติได้ภายใน 3 วันทำการ และสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อธุรกิจที่สามารถอนุมัติได้ภายใน 5 วันทำการ”
ทั้งนี้ ลูกค้าสามารถเลือกแพ็คเกจบริการเพิ่มเติม ที่ช่วยบริหารจัดการด้านการเงินของธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ได้แก่ Business Essentials และ Business Plus
1) Business Essentials — เป็นแพ็คเกจสำหรับเอสเอ็มอีที่ต้องการผลตอบแทนอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า และสามารถทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ “สเตรททูแบงก์” (Straight2Bank) ซึ่งเป็นระบบอินเทอร์เน็ตแบงกิ้งสำหรับเอสเอ็มอีที่ช่วยจัดการธุรกรรมทางการเงินทั้งใน และต่างประเทศ
2) Business Plus — เป็นแพ็คเกจสำหรับเอสเอ็มอีที่ครบวงจรยิ่งกว่า ด้วยความคุ้มค่าจากส่วนลดค่าธรรมเนียมจากการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบ รวมไปถึงบริการบัญชีเงินเดือน และบริการโอนเงินที่สามารถทำได้ผ่านระบบ “สเตรททูแบงก์”
นอกจากนี้ ธนาคารฯ ยังช่วยเอสเอ็มอีเพิ่มสภาพคล่องทางการเงินเพื่อทำให้มั่นใจว่าธุรกิจเอสเอ็มอีมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ ที่จะเดินหน้าต่อไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ในเรื่องนี้ โดยให้วงเงินสินเชื่อหมุนเวียนเพื่อธุรกิจสูงถึง 5 เท่า ซึ่งนับว่าสูงสุดในตลาด
ลูกค้าในกลุ่มเอสเอ็มอีนับเป็นกลุ่มที่มีการเติบโตอย่างสูงสำหรับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด โดยในปี 2554 ที่ผ่านมา มีสัดส่วนของรายได้คิดเป็นร้อยละ 20 ของรายได้ของกลุ่มธนาคารฯ มีอัตราการเติบโตสูงถึงร้อยละ 14 เนื่องจากธนาคารฯ นำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตอบสนองการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอี พร้อมด้วยบริการในด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และการบริหารจัดการด้านการเงิน