กรุงเทพฯ--17 ต.ค.--Master Group Corporation
เอ็มจีซี-เอเชียเดินหน้าผลักดันธุรกิจรถยนต์มือสองภายใต้ ‘มาสเตอร์ เซอร์ทิฟาย ยูสต์คาร์’ เต็มรูปแบบ หลังแตกไลน์ธุรกิจครบทุกเซกเมนต์ ครอบคลุมรถยนต์ทุกกลุ่ม ทุกยี่ห้อ มั่นใจปีนี้ทำได้ตามเป้าหมาย 1,000 คัน หลัง 9 เดือนแรกยอดขายทะลุ 700 คัน เดินหน้าอัดกิจกรรมการตลาดต่อเนื่องทั้งปี มั่นใจแนวโน้มตลาดรถยนต์มือสองยังเติบโตในอนาคต
เดินหน้าสร้างเครือข่ายการจำหน่ายรถยนต์มือสองครบวงจร ในทุกเซกเมนต์ของตลาดรถยนต์ เพื่อ รองรับลูกค้าในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
รถยนต์มือสองคุณภาพเยี่ยม ไม่มีการชนหนักและน้ำท่วม สามารถตรวจสอบประวัติของตัวรถ ผ่านการตรวจสอบสภาพและรับประกันคุณภาพการใช้งาน
เดินหน้าจัดกิจกรรมทางการตลาดต่อเนื่อง หวังดูดลูกค้าเข้าโชว์รูมทุกแห่ง หลังมั่นใจตลาดรถยนต์มือสองจะเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคต
นายสมชาย ตระกูลภิรมย์ ผู้จัดการทั่วไป มาสเตอร์ เซอร์ทิฟาย ยูสต์คาร์ ผู้จำหน่ายรถยนต์มือสองแบบครบวงจรในเครือบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด หรือ เอ็มจีซี-เอเชีย เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการขยายเครือข่ายการจำหน่ายรถยนต์มือสองออกไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ในวันนี้ เอ็มจีซี-เอเชีย พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าผลักดันธุรกิจอย่างเต็มรูปแบบ
สำหรับเครือข่ายการจำหน่ายรถยนต์มือสองของมาสเตอร์ เซอร์ทิฟาย ยูสต์คาร์นั้น ประกอบไปด้วย ศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสองบีเอ็มดับเบิลยู 3 สาขา ที่สาขาพระราม 4, สาขาลาดพร้าวและสาขาพระราม 3 ที่เพิ่งเปิดให้บริการในช่วงกลางปีที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 3 สาขา ถือเป็นเครือข่ายการจำหน่ายรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูมือสองคุณภาพเยี่ยม
นอกจากนี้ ยังมีศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสองมัลติแบรนด์ 2 สาขา ที่สาขาเกษตร-นวมินทร์และสาขาประดิษฐ์มนูญธรรม ศูนย์จำหน่ายรถยนต์ซูเปอร์คาร์มือสองภายใต้แบรนด์ Zupercar ที่โครงการเอ สแควร์ถนนพระราม 4 ซึ่งเปิดให้บริการในเดือนกันยายนที่ผ่านมา และล่าสุดก็คือศูนย์จำหน่ายรถยนต์มือสองระดับพรีเมียม ที่เปิดให้บริการที่สำนักงานใหญ่สาขาลาดพร้าว เป็นสาขาล่าสุด
“ในปีนี้ต้องบอกว่าเรามีความพร้อมในการผลักดันธุรกิจจำหน่ายรถยนต์มือสองอย่างเต็มที่ หากดูจากการขยายสาขาของเราเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าทั่วกรุงเทพมหานคร โดยสาขาทั้งหมดจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบนับจากนี้เป็นต้นไป ทำให้เราเชื่อว่าจะสามารถผลักดันยอดจำหน่ายในช่วงที่เหลือของปีได้ตามเป้าหมายที่เราวางเอาไว้”
ทั้งนี้ มาสเตอร์ เซอร์ทิฟาย ยูสต์คาร์ คาดการณ์ว่าจะมียอดจำหน่ายรถยนต์มือสองทั้งหมดไม่น้อยกว่า 1,000 คันในปีนี้ หลังจากที่ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 สามารถทำยอดจำหน่ายไปได้แล้วประมาณ 700 คัน ขณะที่ในปี 2554 ที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายรถยนต์มือสองของกลุ่มอยู่ที่ประมาณ 700 คัน ซึ่งถือว่าในปีนี้มีอัตราการเติบโตที่น่าพอใจ
นายสมชายกล่าวถึงรถยนต์ที่นำมาจำหน่ายภายใต้แบรนด์มาสเตอร์ เซอร์ทิฟาย ยูสต์คาร์ ว่าต้องเป็นรถยนต์ที่สามารถตรวจสอบประวัติการใช้รถยนต์คันนั้นได้ โดยส่วนใหญ่ เป็นรถที่มาจากการเทรดอินของบริษัทในเครือ รวมถึงรถยนต์ผู้บริหาร ซึ่งรถยนต์ที่นำมาจำหน่ายจะได้รับการตรวจสอบคุณภาพตามที่กำหนดเอาไว้ และมีการรับประกันคุณภาพในการใช้งานให้กับลูกค้าทุกคน
บริษัทฯ ได้ลงทุนเปิดศูนย์ปรับสภาพรถยนต์มือสองก่อนจำหน่ายขึ้นที่สำนักงานใหญ่สาขาลาดพร้าว รวมถึงได้รับความร่วมมือจากบริษัทในเครือเอ็มจีซี-เอเชีย อย่างบริษัท มาสเตอร์ มอเตอร์ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เอ็มเอ็มเอส ในการตรวจสอบคุณภาพของรถยนต์ให้มีความเรียบร้อยที่สุดก่อนนำมาจำหน่ายให้กับลูกค้า
สำหรับแผนการกระตุ้นตลาดในช่วงที่เหลือของปี จะเน้นการจัดกิจกรรมทางการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นความต้องการของลูกค้าตลาดรถยนต์มือสองมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่นการจัดแคมเปญพิเศษสำหรับรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 3 มือสองในเดือนนี้ ด้วยเงินดาวน์เพียง 3,000 บาท พร้อมรับบัตรน้ำมัน 30,000 บาทและประกันภัยชั้น 1 ฟรี พร้อมรับประกันคุณภาพหลังการขายมูลค่า 70,000 บาท
นอกจากนี้ ในวันที่ 26 — 28 ตุลาคม 2555 ซูเปอร์คาร์ก็เตรียมยกทัพรถยนต์ซูเปอร์คาร์พรีเมียมหลากหลายยี่ห้อมาจัดแคมเปญพิเศษ รับส่วนลด 300,000 บาททุกคันในงานซึ่งจัดขึ้นที่โชว์รูมเอ สแควร์ รวมถึงยังมีการจัดกิจกรรมเวิร์คช๊อปสอนถ่ายภาพนิ่งกับเหล่านางแบบเอฟเอชเอ็มให้กับลูกค้าที่สนใจภายในงานอีกด้วย ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าจำนวนมาก
“หลังจากที่เราขยายสาขาออกไปและมีความพร้อมในการเดินหน้าทำตลาดอย่างเต็มรูปแบบแล้วนั้น จากนี้ไปเราจะกระตุ้นให้ลูกค้าเข้ามาในโชว์รูมของเรามากขึ้น ด้วยการจัดกิจกรรมหมุนเวียนไปตามสาขาต่าง ๆ และจะมีการจัดแคมเปญ โปรโมชั่นและกิจกรรมให้เหมาะสมกับลูกค้าเฉพาะกลุ่ม เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าเหล่านั้นมากที่สุด”
ทั้งนี้ มาสเตอร์ เซอร์ทิฟาย ยูสต์คาร์ ประเมินว่าแนวโน้มตลาดรถยนต์มือสองในประเทศไทยยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง และน่าจะกลับมามีความต้องการเพิ่มขึ้นอีกครั้ง แม้นโยบายของรัฐบาลจะผลักดันให้ตลาดรถยนต์ใหม่เติบโต แต่ก็มีผลกระทบกับตลาดรถยนต์มือสองไม่มากนัก และเชื่อว่าอีก 2-3 ปีจากนี้ ตลาดรถยนต์มือสองจะกลับมามีปริมาณความต้องการ 3 เท่าของตลาดรถยนต์ใหม่อีกครั้งแน่นอน