กรุงเทพฯ--18 ต.ค.--
ในวาระครบรอบ190 ปีแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาโครโนกราฟ จากปี 1821 ถึงปี 2011มงต์บลองค์ขอเฉลิมฉลองและรำลึกถึงนักคิดผู้ประดิษฐ์นาฬิกาโครโนกราฟเรือนแรกด้วย Montblanc Nicolas Rieussec Chronograph Anniversary Edition
ณ งานแสดงนาฬิกา the Salon International de la Haute Horlogerie (SIHH) ณ กรุงเจนีวา มงต์บลองค์ได้เปิดตัวนาฬิการุ่น Montblanc Nicolas Rieussec Anniversary Edition ให้ผู้เข้าชมและสื่อมวลชนได้ยลโฉมนาฬิการุ่นพิเศษเพื่อเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 190 ปีแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาโครโนกราฟ
ปี 2011 เป็นปีพิเศษเนื่องจากเป็นปีที่ครบรอบ 190 ปีแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาแบบโครโนกราฟ ซึ่งเป็นนาฬิกาที่มีกรรมวิธีการผลิตที่สลับซับซ้อนเป็นศิลปะแบบที่มงต์บลองค์ แบรนด์แห่งวัฒนธรรมผู้ผลิตเครื่องเขียนและนาฬิกาคุณภาพชั้นเยี่ยม คำว่า Chronos หมายถึงเวลา และคำว่า graphein หมายถึงการเขียน ซึ่งอุปกรณ์ที่“เขียนเวลา” เรือนแรกนั้นประดิษฐ์โดย Nicolas Rieussec เมื่อปี 1821 โดยนักประดิษฐ์ผู้นี้เกิดเมื่อปี 1781 ณ กรุงปารีส เขาเริ่มกิจการผลิตนาฬิกาของเขาขึ้นที่ ?le de la Cit? ตั้งแต่อายุได้เพียงแค่ 20 ปีเท่านั้นด้วยความร่วมมือจากช่างผลิตนาฬิกาที่เก่งที่สุดในยุคนั้น ต่อมาในปี 1817 เขาก็ได้นำช่างนาฬิกาของเขาเข้าถวายรับใช้แก่ราชวงศ์ของฝรั่งเศส แล้วห้าปีต่อมาที่การแข่งม้า ณ Champ de Mars กรุงปารีส เขาก็ได้เปิดตัวนาฬิกาเรือนไม้สองหน้าปัดที่บอกเวลาได้เป็นนาทีและวินาที ด้านบนหน้าปัดเหล่านี้ เขาได้ติดตั้งหมุดที่เก็บน้ำหมึกไว้ที่ปลาย เพื่อที่ว่าทันทีที่ม้าแข่งเข้าสู่เส้นชัย ผู้ที่มีหน้าที่จับเวลาก็แค่กดหมุดนั้น แล้วน้ำหมึกก็จะหยดลงบนเวลาที่ทันทีที่กดหมุดเป็นการจับเวลา ซึ่งเป็นเหมือนกัน”เขียน”เวลาที่จับไว้นั้นลงบนหน้าปัดนาฬิกาจริงๆ ทำให้ผู้จับเวลาได้มีโอกาสดูการแข่งขันได้โดยที่ไม่ต้องคอยเหลือบมองที่นาฬิกาสลับกับมองม้าเพื่อให้ทันเวลาที่ม้าแข่งถึงเส้นชัย จึงถือเป็นครั้งแรกที่มีเครื่องมือที่สามารถจับเวลาที่ละเอียดแม่นยำ และนอกจากที่เขาประดิษฐ์นาฬิกาเรือนนี้ขึ้น เขาก็ได้ตั้งชื่อ “Chronograph” ที่แปลว่า “เขียนเวลา” ดังเช่นที่นาฬิกาเรือนนี้ทำได้ ความมหัศจรรย์ของนาฬิกาจับเวลาเรือนนี้ก็ทำให้ผู้อำนวยการแข่งม้าตื่นเต้นกับเทคโนโลยีนี้ และได้ให้ใช้นาฬิกานี้ เพื่อจับเวลาการแข่งม้าในครั้งต่อๆไป นอกจากนี้ ความพิเศษของนาฬิกา Chronograph เรือนแรกนี้ก็ทำให้ฝ่ายจดทะเบียนทรัพย์สินทางปัญญาได้จดลิขสิทธิ์ให้แก่เขาเมื่อวันที่ 9 มีนาคม 1822
มงต์บลองค์ได้รำลึกถึง Nicolas Rieussec ผู้ประดิษฐ์นาฬิกาโครโนกราฟคนแรกด้วยการผลิตนาฬิการุ่นพิเศษ Montblanc Nicolas Rieussec ขึ้นเมื่อปี 2008 ซึ่งแม้จะไม่ได้มีหมุดจับเวลาเหนือหน้าปัดเหมือนนาฬิกาโครโนกราฟเรือนแรกเมื่อปี 1821 แต่มงต์บลองค์ก็ได้ประยุกต์เอารูปแบบดั้งเดิมผนวกกับการออกแบบสมัยใหม่ทำให้มีหน้าปัดจับเวลาหลักนาทีและหลักวินาทีอยู่ใต้หน้าปัดหลัก ทำให้นาฬิการุ่นนี้พิเศษกว่านาฬิกาโครโนกราฟทั่วไปด้วยการแยกเอาฟังค์ชั่นการจับเวลาแยกหน้าปัดออกมาจากหน้าปัดที่บอกเวลาปกติ ทำให้การจับเวลาชัดเจนยิ่งขึ้น และทำให้นาฬิกาดูแข็งแรงและเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งนาฬิการุ่น Nicolas Rieussec รุ่นต่อๆมาก็ได้ยึดหลักการออกแบบนี้เช่นกัน และในโอกาสครบรอบ 190 ปีแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาโครโนกราฟในปี 2011 นี้ ศูนย์การผลิตนาฬิกามงต์บลองค์ที่ Le Locle ได้เปิดตัวนาฬิกาโครโนกราฟรุ่นพิเศษ Nicolas Rieussec Chronograph Anniversary Edition ซึ่งผลิตออกมาจำนวนจำกัดเป็นพิเศษสำหรับผู้รักนาฬิกาโครโนกราฟตัวจริงเท่านั้น
ความพิเศษของนาฬิกามงต์บลองค์รุ่น Nicolas Rieussec
รูปร่างหน้าปัดของนาฬิการุ่น Anniversary Edition ดึงดูดสายตาผู้ชื่นชอบนาฬิกาหรูหราเปี่ยมรสนิยมเพราะหลายคนอาจจะคุ้นเคยกับนาฬิการุ่น Nicolas Rieussec รุ่นก่อนๆที่ผ่านมา ด้วยสไตล์ที่งามเรียบบริสุทธิ์ แต่ดูมีรสนิยมด้วยลวดลายเส้นคลาสสิคเสริมความโดดเด่น หน้าปัดบอกเวลาปกติดูงามขรึมด้วยตัวเลขที่แสดงชั่วโมงเป็นสีขาวหรือดำ และมีหน้าปัดย่อยเหนือตำแหน่งเลข 12 ยึดไว้ด้วยหมุดสีฟ้าสดใส และที่ใต้เลข 6 ก็มีหน้าปัดจับเวลาที่โดดเด่นด้วยกลไกรูปตัว V เหมือนปากยิ้มที่ยึดหน้าปัดอีกสองหน้าปัดไว้กับตัวเรือนด้วยหมุดทับทิม ซึ่งหน้าปัดเพื่อจับเวลาเหล่านี้จะสามารถจับเวลาได้มาถึง 30 นาที หรือ 60 วินาที และไม่ลืมแผ่นป้ายสลักชื่อ “Montblanc” นอกจากนี้ การออกแบบยังอวดโฉมกลไกนาฬิกาโครโนกราฟสุดพิเศษด้วยช่องหลังจานบอกวันที่ ส่วนที่ขอบหน้าปัดก็งดงามด้วยลวดลายสลักแบบที่เรียกว่า grain de sigle แต่ขอบด้านซ้ายและด้านขวาบนได้เว้นว่างไว้เพื่อเขียนอักษร “CHRONOGRAPH” และ “NICOLAS RIEUSSEC”
การผลิตนาฬิกาโครโนกราฟของมงต์บลองค์
นาฬิการุ่น MB R110 calibre นั้นได้รับความสนใจจากผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาตั้งแต่เริ่มเปิดตัว ด้วยกลไกที่ประกอบด้วยชิ้นส่วนถึง 263 ชิ้นสำคัญเช่นเดียวกับนาฬิกาโครโนกราฟที่ผ่านประวัติศาสตร์และกาลเวลามาโดยตลอด โดยชิ้นส่วนเหล่านี้รวมถึงกลไก column wheel แบบคลาสสิค และระบบ vertical clutch แบบสมัยใหม่ที่จะทำให้การจับเวลาเริ่มต้นที่เลข 0 อย่างแท้จริง นอกจากนี้ การเลือกใช้เฟืองที่ออกแบบเพื่อลดปัญหาของของนาฬิกาโครโนกราฟทั่วไป กล่าวคือกลไกที่มองไม่เห็นที่ทำให้นาฬิการุ่นนี้บอกเวลาและจับเวลาได้อย่างไม่ผิดพลาด ส่วนกลไกพิเศษสำหรับนักเดินทางข้ามโซนเวลาที่ต่างกัน คือ กลไกการ reset เวลาได้อย่างรวดเร็วเพื่อให้สามารถตั้งเวลาใหม่ได้อย่างทันใจ นอกจากนี้ ยังสามารถหมุนตั้งเวลาชั่วโมงได้ทั้งแบบตามเข็มนาฬิกาและทวนเข็มนาฬิกาโดยที่ไม่กระทบเข็มนาที นาฬิการุ่นนี้แบบไขลานก็มีความพิเศษเพิ่มขึ้นมาคือ barrel ที่จะสามารถเก็บพลังงานไว้ได้ 72 ชั่วโมง และสามารถดูพลังงานที่เหลืออยู่ได้จากด้านหลังนาฬิกาผ่านกระจกแซฟไฟร์ได้ เช่นเดียวกับกลไก column-wheel, balance และชิ้นส่วนยิบย่อยอื่นๆ โดยมีโมเมนต์ความเฉื่อยอยู่ที่ 12mg/ตารางเซนติเมตร และจะสั่น 28,800 ครั้งต่อชั่วโมง (4 Hz)
ฉลองวาระครบรอบด้วยทองสีแดง ทองขาว หรือแพลทตินั่ม
นาฬิการุ่นพิเศษ Montblanc Nicolas Rieussec Anniversary Edition ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดในวาระครบรอบ 190 ปีแห่งนาฬิกาโครโนกราฟนี้ประกอบด้วยความพิเศษกว่านาฬิการุ่นอื่น ด้วยแพลทตินัมเนื้อ 950 หรือทองขาวหรือทองสีแดง 18k ซึ่งทั้งสองรุ่นนี้ เม็ดมะยมด้านข้างได้มีสัญลักษณ์มงต์บลองค์ฝังมุกไว้ ส่วนปุ่มจับเวลานี้อยู่ที่ตำแหน่ง 8 นาฬิกาเป็นเอกลักษณ์ที่ต่างจากนาฬิกาโครโนกราฟอื่นๆ เนื่องจากตำแหน่งดังกล่าวจะป้องกันการกดปุ่มโดยบังเอิญ หากแต่ก็สามารถตั้งเวลาได้ง่ายดายหากต้องการ ส่วนสายนาฬิกาก็เป็นหนังจระเข้ และที่หัวเข็มขัดก็ทำจากทองสีแดงหรือทองขาว 18k ตามตัวเรือนเช่นกัน
นาฬิกาโครโนกราฟมักจะอยู่อันดับต้นๆหากจัดอันดับนาฬิกายอดนิยม และด้วยเหตุนี้เองที่มงต์บลองค์ขอรำลึกถึงบุคคลผู้ที่ประดิษฐ์นาฬิกาซึ่งมีกลไกซับซ้อนด้วนการออกแบบและผลิตนาฬิการุ่น Montblanc Nicolas Rieussec Chronograph Anniversary Edition ในปี 2011 นี้ ซึ่งเป็นปีที่ครบรอบ 190 ปีแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาโครโนกราฟเป็นครั้งแรกในโลก โดยนาฬิการุ่น Anniversary Edition นี้ได้ผลิตออกมาจำนวนจำกัดในแต่ละรุ่น คือ รุ่นทองสีแดง 18k จำนวน 190 เรือน รุ่นทองขาว 18k จำนวน 90 เรือน และรุ่นแพลทตินั่มเนื้อ 950 จำนวน 25 เรือนเท่านั้น
Picture: Montblanc Nicolas Rieussec Chronograph Anniversary Edition Limited to 190 pieces
Price 1,296,000 Baht