กรุงเทพฯ--14 ก.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย)
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศปรับเพิ่มอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ของบริษัท ปิโตรเคมีแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (NPC) ระยะยาวเป็น AA-(tha) (AAลบ(tha)) จากเดิม A+(tha) และระยะสั้นเป็น F1+(tha) จากเดิม F1(tha) รวมถึงการปรับเพิ่มอันดับเครดิตหุ้นกู้ชนิดทยอยคืนเงินต้น ครั้งที่ 1/2545 ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2550 มูลค่า 3.0 พันล้านบาท เป็น AA-(tha) (AAลบ(tha)) โดยแนวโน้มของอันดับเครดิตของทั้ง NPC และหุ้นกู้มีเสถียรภาพ การปรับเพิ่มอันดับเครดิตครั้งนี้ เป็นผลเนื่องมาจากจำนวนเงินลงทุนที่น้อยลงกว่าที่คาดไว้ของโครงการสร้างเอทิลีนแครกเกอร์และโรงผลิตเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นต่ำ (LDPE) ผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่อง และระดับหนี้สินที่ค่อนข้างต่ำของบริษัท
อันดับเครดิตสะท้อนถึงโครงสร้างของผู้ถือหุ้นที่แข็งแกร่งของ NPC และการสนับสนุนจาก บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท. ผลดีจากการที่บริษัทมีสัญญาซื้อวัตถุดิบระยะยาวและสัญญาขายโอเลฟินส์ระยะยาวรองรับ โครงสร้างของราคาแบบ Profit Sharing รวมถึงต้นทุนการผลิตที่ได้เปรียบในการแข่งขันและสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง ในส่วนของโครงการเม็ดพลาสติกโพลีเอทิลีนชนิดความหนาแน่นสูง (HDPE) ที่เริ่มผลิตในปีนี้ การที่ NPC มีความได้เปรียบด้านต้นทุนวัตถุดิบประกอบกับการมีสัญญาขายผลิตภัณฑ์บางส่วนกับผู้ค้าต่างประเทศไว้แล้ว จะช่วยลดความเสี่ยงจากโครงการนี้ได้ นอกจากนี้โครงการสร้างเอทิลีนแครกเกอร์และโรงผลิตเม็ดพลาสติก LDPE ใหม่จะช่วยเสริมเสถียรภาพในการทำกำไรในระยะยาวของ NPC
ในเดือน เมษายน 2547 NPC ได้มีการประกาศความเป็นไปได้ที่จะมีการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ในเอทิลีนแครกเกอร์ใหม่และโรงงานผลิตภัณฑ์ต่อเนื่องอีก 2 โรงด้วยเงินลงทุนประมาณ 600-650 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งในเวลาต่อมา NPC ได้มีการประกาศการใช้เงินลงทุนที่น้อยลงกว่าเดิมไว้มากคือประมาณ 444 ล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากขนาดเอทิลีนแครกเกอร์ที่เล็กลงและมีการลงทุนในโรงงานเม็ดพลาสติก LDPE เพียงโรงเดียว นอกจากนี้การลงทุนในโครงการดังกล่าวยังเป็นการลงทุนร่วมกับ ปตท. โดยถือหุ้นเท่ากันบริษัทละ 50% ดังนั้นภาระความต้องการเงินลงทุนในส่วนของ NPC จึงน้อยลงกว่าที่คาดการณ์ไว้มาก
ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2547 ที่ผ่านมา NPC มียอดขายเพิ่มขึ้น 28% เป็น 9.8 พันล้าน และมีกำไรก่อนค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยจ่าย ภาษี และค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เพิ่มขึ้น 42% เป็น 3.1 พันล้าน ซึ่งเป็นผลมาจากราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ที่สูงขึ้น ยอดขายที่มากขึ้น และรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจสาธารณูปการ จากกระแสเงินสดรับจากการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทำให้ NPC สามารถรักษาสถานะการเงินที่แข็งแกร่งได้ ถึงแม้ว่าเงินส่วนหนึ่งต้องถูกใช้ไปในการลงทุนโครงการ HDPE ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2547 อัตราส่วนหนี้สินสุทธิ ต่อ EBITDA 12 เดือนที่ผ่านมา (Net Debt/ LTM EBITDA) อยู่ที่ระดับ 0.3 เท่า ลดลงเล็กน้อยจาก 0.5 เท่าณสิ้นปี 2546 ถ้ารวมเงินลงทุนที่ต้องใช้ในโครงการโอเลฟินส์และ LDPE อัตราส่วน Net Debt/ EBITDA จะเพิ่มสูงสุดในปี 2548 ซึ่งคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่า 1.0 เท่า
NPC ก่อตั้งขึ้นโดยการร่วมทุนระหว่าง ปตท. ปูนซิเมนต์ไทย และกลุ่มผู้ผลิตปิโตรเคมีขั้นต่อเนื่อง เพื่อดำเนินการผลิตโอเลฟินส์แห่งแรกของประเทศไทย ปตท.ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายน้ำมันและก๊าซธรรมชาติและเป็นผู้ดำเนินการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเพียงผู้เดียวนั้น เป็นผู้จำหน่ายวัตถุดิบหลักให้กับ NPC และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในสัดส่วน 38%
สามารถขอรับรายงานฉบับสมบูรณ์ ที่ www.fitchratings.com หรือ บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ติดต่อ
ภิมลภา สิมะโรจน์, ผู้ช่วยกรรมการ, Corporates + 662 655 4761
อรวรรณ การุณกรสกุล, กรรมการ, Corporates + 662 655 4766
เลิศชัย กอเจริญรัตนกุล, ผู้ช่วยกรรมการ, Corporates + 662 655 4761
Vincent Milton, กรรมการผู้จัดการ + 662 655 4759
หมายเหตุ : การจัดอันดับเครดิตภายในประเทศ (National Ratings) ใช้วัดความน่าเชื่อถือของบริษัทในประเทศที่อันดับเครดิตของรัฐบาลในประเทศนั้นอยู่ในระดับต่ำกว่า ‘AAA’ ในระดับการจัดอันดับเครดิตแบบสากล (International Ratings) อันดับเครดิตภายในประเทศจึงไม่สามารถเปรียบเทียบกับอันดับเครดิตแบบสากล เนื่องจากอันดับเครดิตของบริษัทที่ดีที่สุดของประเทศได้จัดไว้ที่ระดับ “AAA” และการจัดอันดับเครดิตอื่นในประเทศ จะเป็นการเปรียบเทียบความเสี่ยงกับบริษัทที่ดีที่สุดนี้เท่านั้น อันดับเครดิตภายในประเทศจะมีสัญลักษณ์ที่กำหนดไว้ต่อท้ายจากอันดับเครดิตสำหรับประเทศนั้นๆ เช่น “AAA(tha)” ในกรณีของประเทศไทย--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--