กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,739 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,728 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.71 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 25,200 บาท กับ 25,300 บาท และกลับมาปิดที่ 25,150 บาท กับ 25,250 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 4,585 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 10,028 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 92 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 5% Silver Futures ลดลง 6% GFV12 ปิด 25,300 บาท และ GFZ12 ปิด 25,430 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,300 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,450 บาท SVV12 ปิดที่ 995
สัญญา Comex ปิดลดลง 20.7 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,724 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 77.1 เซนต์ ปิดที่ระดับ 32.09 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,334.19 ตัน (ซื้อเข้า 0.31) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 2.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 90.05 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลดลง 205.43 จุด ปิดที่ระดับ 13,343.51 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 53 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงอย่างหนักมากกว่า 1% เมื่อคืนวันศุกร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงในรอบวันมากที่สุดในรอบมากกว่า 3 เดือน โดยได้รับผลกระทบจากแรงเทขายทางเทคนิคและการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นจากความกังวลในเรื่องเศรษฐกิจโลกที่ไม่แน่นอน โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 20.7 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,724 เหรียญ ด้วยปริมาณการซื้อขายประมาณ 10% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30 วัน
- ราคาทองคำดูเหมือนจะลงมาทดสอบแนวรับที่ระดับเส้นค่าเฉลี่ย 50 วัน หลังจากที่หลุดแนวรับสำคัญลงไป โดยนายแฟรงค์ แมคจี ประธานเทรดเดอร์กลุ่มโลหะมีค่าจากอินทิเกรต โบรกเกอร์เรจ เซอร์วิส กล่าวว่า ผู้คนที่รีบเข้ามาลงทุนจากความคาดหวังในมาตรการ QE3 ก่อนหน้านี้กำลังหนีออกจากตลาด โดยยิ่งทองคำไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ ผู้คนก็ยิ่งมีความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับการซื้อขายในตลาดทองคำ
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงเกือบ 2% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการปรับตัวลดลงในรอบสัปดาห์ที่มากที่สุดในรอบประมาณ 4 เดือน ซึ่งราคาไม่สามารถขึ้นไปยืนอยู่เหนือระดับ 1,800 เหรียญได้ในปีนี้ นอกจากนี้ เทรดเดอร์บางรายกล่าวว่า การเข้าทำกำไรอาจมีส่วนกดดันราคาทองคำเพิ่มมากขึ้น หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่ม Hedge Funds และผู้จัดการฝ่ายการเงินได้เพิ่มระดับการลงทุนในโกลด์ฟิวเจอร์สให้อยู่ในทิศทางแนวโน้มขาขึ้นมากที่สุดในช่วงเกือบ 14 เดือน
- ราคาทองคำปรับตัวลดลงหลังจากนางอังเกลา แมร์เคล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้สร้างอุปสรรคในการใช้กองทุนช่วยเหลือทางการเงินยูโรโซนขึ้นมาใหม่ โดยนายเพียร์ สไตน์บรู๊ค อดีตรมว.คลังเยอรมนีซึ่งจะลงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเยอรมนีในปีหน้า เปิดเผยว่า การที่นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคล ได้เลื่อนการจัดตั้งสหภาพธนาคารของยุโรปออกไปนั้น ก็เพื่อหวังผลทางการเมือง และเพื่อโอกาสในการกลับมาได้รับการเลือกตั้งอีกครั้ง อีกทั้ง ทองคำยังได้รับแรงกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ประกาศออกมาในสัปดาห์นี้ ซึ่งประกอบด้วยยอดขายบ้านมือสองที่ออกมาดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ และตัวเลขคนว่างงานที่ปรับตัวสูงขึ้น รวมทั้งสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวของจีน
- นักวิเคราะห์จากคอมเมิร์ซแบงก์กล่าวว่า มีการเทขายจากนักลงทุนทางการเงินเนื่องจากราคาที่ปรับตัวลดลง ซึ่งเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนมีการสร้างสถานะของตนเองอย่างแข็งแกร่งและตอนนี้ดูเหมือนจะถูกบังคับให้เทขายออกมา นอกจากนี้สถานการณ์ทางแอฟริกาใต้ที่ดูผ่อนคลายก็ลงก็เป็นเหตุผลที่ดีสำหรับนักลงทุนให้ออกจากตลาด ซึ่งกลุ่มแรงงานเหมืองทองคำที่ South Africa’s Gold Field ได้สิ้นสุดการประท้วงในรอบ 1 เดือนลงเมื่อวันศุกร์ แม้ว่าแรงงาน ในกลุ่มผู้ผลิตโลหะมีค่าแห่งอื่นๆ ในประเทศจะยังมีการประท้วงอยู่ก็ตาม ทั้งนี้ กลุ่มคนเหมืองกว่า 80,000 รายได้หยุดงานประท้วงตั้งแต่เดือนสิงหาคม และกว่า 50 รายที่เสียชีวิตในเหตุความรุนแรงในช่วงการประท้วง
- นายมาริโอ มอนติ นายกรัฐมนตรีอิตาลีเผยว่า การเพิ่มทุนโดยตรงให้กับธนาคารผ่านกองทุนช่วยเหลือของยูโรโซนอาจเริ่มเดิน หน้าได้ก่อนเสร็จสิ้นกระบวนการจัดตั้งหน่วยงานกำกับดูแลธนาคารพาณิชย์ใน ยุโรป ซึ่งนายมอนติแถลงว่า กองทุนช่วยเหลือของยูโรโซน ซึ่งเป็นกลไกรักษาเสถียรภาพยุโรป (ESM) อาจอัดฉีดเงินทุนให้กับธนาคารในยุโรปได้โดยตรงก่อนมีการจัดตั้งหน่วยงานควบ คุมดูแลธนาคารพาณิชย์ในยุโรปที่คาดว่า จะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งมีกำหนดที่จะเริ่มดำเนินการกำกับดูแลในปีหน้า
- เช้านี้ ราคาทองคำปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบมากกว่า 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนหันไปหาสินทรัพย์ที่ปลอดภัยกว่าอย่างสกุลเงินดอลลาร์ หลังจากที่ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงอย่างหนักกระตุ้นให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับสภาพเศรษฐกิจทั่วโลก
- ข้อมูลจาก CFTC ระบุเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า กลุ่ม Hedge Funds และนักเก็งกำไรรายใหญ่ได้ลดการลงทุนในทิศทางขาขึ้นในกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนสิงหาคม
- ผลสำรวจจากรอยเตอร์สระบุว่า ประเทศจีนอาจประสบกับภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวได้ช้าในไตรมาสที่ 4 เนื่องจากการใช้จ่ายทางโครงสร้างพื้นฐานสาธารณะที่เพิ่มสูงขึ้น ได้ฉุดการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่เติบโตติดต่อกันมาเป็นเวลา 7 ไตรมาส แต่อย่างไรก็ตามอัตราการเติบโตของเศรษฐกิจจีนยังคงชะลอตัวลงไปจนถึงปี 2013
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนวันศุกร์
- Existing Home Sales ตัวเลขเดิมอยู่ที่ 4.83M ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 4.75M
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำปรับตัวลดลงในค่ำคืนวันศุกร์ประมาณ 1% เศษ โดยที่ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อเนื่องจากระดับ 1,770 เหรียญ ณ ขณะนี้ลงมาประมาณ 50 เหรียญที่ระดับ 1,720 เหรียญโดยประมาณ ภาพรวมมาจากการที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาออกมาค่อนข้างดี และการที่ราคาทองคำหลุดแนวรับสำคัญที่ระดับ 1,750 เหรียญ ทำให้ราคาทองคำโดยภาพรวมระยะสั้นและระยะกลางเริ่มเป็นแนวโน้มขาลงตามที่ได้วิเคราะห์ไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ณ ขณะนี้ราคาทองคำลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันที่ระดับ 1,721 เหรียญ และจะมีแนวรับถัดไปทางจิตวิทยาที่ระดับ 1,700 เหรียญ ถ้าหลุดระดับ 1,700 เหรียญลงมา จะมีเส้นแนวรับถัดไปเป็นค่าเฉลี่ย 100 วันที่ระดับ 1,690 เหรียญ โดยภาพหลักราคาทองคำในระยะสั้นรายวันนั้นเริ่มเป็นแนวโน้มขาลง โดยที่ในระยะรายวันราคาทองคำจะมีแนวต้านที่ระดับ 1,735 เหรียญและ 1,745 เหรียญตามลำดับ ยังแนะนำให้บริหารพอร์ทให้เหมาะสมกับสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป โดยภาพหลักราคาทองคำเป็นลักษณะ Sideway Down และยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลดลงต่อเนื่องได้ ถ้าตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาในช่วงนี้ออกมาดีขึ้น
Gold Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,170 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,370 บาท
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,500 บาท
Silver Futures V12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,010 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,715 — 1,730 เหรียญ
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
เป็นลักษณะของการลดพอร์ทลงหลังจากที่ราคาหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,730 เหรียญลงมา ให้ปรับพอร์ทให้สมดุลกับราคาที่เปลี่ยนไป
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
รอเข้าช้อนซื้อ อาจปรับพอร์ทเพิ่มในสัปดาห์ที่ผ่านมา 10% ถือครองพอร์ทอยู่ที่ 60% คาดหวังราคาเป้าหมายที่ระดับ 1,800 เหรียญในระยะ 2 — 3 เดือน
สรุป ราคาทองคำในระยะสั้นยังคงเป็นแนวโน้มขาลง ขอให้นักลงทุนบริหารพอร์ทให้เหมาะสมกับการ Mark-to-Market โอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลงไปสู่ระดับ 1,700 เหรียญยังมีอยู่แต่น่าจะไม่มากนัก และราคาทองคำอาจปรับตัวเคลื่อนไหวค่อนข้างรวดเร็วรุนแรง
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง