กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ธนาคารกรุงไทย
ธนาคารกรุงไทย เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นนักธุรกิจ ประจำไตรมาสที่ 3/2555 ลดลง เนื่องจากนักธุรกิจส่วนใหญ่มีความกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจที่จะถูกฉุดด้วยการส่งออก ซึ่งมีแนวโน้มว่าจะขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้มาก
นางสาวสมพิศ เจริญเกียรติกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารความเสี่ยง ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยถึงผลการจัดทำดัชนีธุรกิจกรุงไทย หรือ Krung Thai Business Index (KTBI) ซึ่งได้จากการสำรวจความเชื่อมั่นของนักธุรกิจทุกประเภท ทุกขนาด และทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ที่เป็นลูกค้าของธนาคาร พบว่า ดัชนี KTBI ประจำไตรมาสที่ 3/2555 อยู่ที่ระดับ 54.88 ลดลงต่อเนื่องจากระดับ 55.58 ในไตรมาสก่อน เนื่องจากนักธุรกิจกังวลเกี่ยวกับปัญหาหนี้สาธารณะในยุโรปที่กดดันให้ตลาดส่งออกชะลอตัวลงแรงกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพอย่างจีน และอาเซียน เริ่มที่จะชะลอตัวลงตามตลาดหลัก ขณะที่ตลาดในประเทศมีการแข่งขันสูงขึ้น
“อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาความเชื่อมั่นรายภาคธุรกิจ พบว่า ธุรกิจก่อสร้างมีความเชื่อมั่นในระดับสูงสุด เนื่องจากในระยะต่อไปจะได้รับผลดีจากการก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนภาครัฐ ขณะที่ธุรกิจเกษตรมีความเชื่อมั่นต่ำสุด เนื่องจากราคาสินค้าเกษตรโดยรวมยังหดตัวเมื่อเทียบกับปีก่อน ขณะที่ต้นทุนสูงขึ้น อีกทั้งผลผลิตในบางพื้นที่ยังได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วม”
นางสาวสมพิศ เจริญเกียรติกุล กล่าวต่อไปว่า หากมองเป็นรายภูมิภาค พบว่า นักธุรกิจในภาคใต้มีความเชื่อมั่นสูงสุด สะท้อนว่าธุรกิจในภาคใต้ยังมีโอกาสเติบโต โดยเฉพาะภาคใต้ตอนบน แม้ว่าความรุนแรงในจังหวัดชายแดนยังมีอยู่ โดยธุรกิจที่ยังมีแนวโน้มเติบโต อาทิ ธุรกิจอาหารทะเลกระป๋อง ธุรกิจอาหารแช่แข็ง แปรรูป ธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ ขณะที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นอีกภูมิภาคที่นักธุรกิจมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้นสวนทางกับภาพรวม เนื่องจากจะมีการลงทุนก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก เพื่อรองรับการเชื่อมโยงการค้าการลงทุนในกรอบอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงและพร้อมรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC