กรุงเทพฯ--22 ต.ค.--ปภ.
กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสาน 12 จังหวัดภาคใต้เตรียมรับมือฝนตกหนัก คลื่นลมแรง ช่วงวันที่ 23 — 27 ต.ค. 55 จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้า จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมระบบสื่อสารหลัก-รองให้ใช้งานได้ตลอด พร้อมวางแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยเชิงรุก ไว้ล่วงหน้า โดยระดมหน่วยเผชิญเหตุและวัสดุอุปกรณ์ประจำจุดเสี่ยงพร้อมให้การช่วยเหลือทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากการติดตามสภาพอากาศ พบว่า ช่วงวันที่ 23 — 27 ต.ค.55 ภาคใต้ตอนล่างจะมีฝนตกชุกหนาแน่น ฝนตกหนักถึงหนักมาก และคลื่นลมแรง ทำให้มีพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินถล่ม รวม 12 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล นายกรัฐมนตรีห่วงใยความปลอดภัยของประชาชน จึงได้กำชับให้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานจังหวัดภาคใต้จัดตั้งศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าระดับจังหวัด อำเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เชื่อมโยงข้อมูล การแจ้งเตือนภัย การปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัย กับหน่วยงานส่วนกลาง รวมถึง จัดเจ้าหน้าที่ มิสเตอร์เตือนภัย เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ภัยตลอด 24 ชั่วโมง เตรียมระบบการสื่อสารหลักและรองให้พร้อมใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถติดต่อได้ตลอดเวลา พร้อมบูรณาการทุกภาคส่วนป้องกันสถานการณ์ภัยทุกรูปแบบและวางแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยเชิงรุกไว้ล่วงหน้า โดยจัดเจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็ว ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต ทีมกู้ชีพกู้ภัยประจำตำบล อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) และระดมทรัพยากร เครื่องมือ วัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลประจำจุดเสี่ยงพร้อมให้การช่วยเหลือทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัย โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งทะเล ที่ลาดเชิงเขา แหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติ เช่น น้ำตก เกาะ แก่ง เป็นต้น หากสถานการณ์ภัยรุนแรง ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประสานหัวหน้าอุทยานแห่งชาติฯ พิจารณาสั่งปิดอุทยานฯ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว รวมถึงจัดหาสถานที่รองรับพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ของผู้ประสบภัย ตลอดจนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงให้รับทราบสถานการณ์ ติดตามพยากรณ์อากาศ ปฏิบัติตามประกาศ แจ้งเตือนภัยจากหน่วยงานภาครัฐอย่างเคร่งครัด ส่วนชาวประมงและผู้ประกอบการท่องเที่ยวทางทะเล ให้เพิ่มความระมัดระวังการเดินเรือในระยะนี้เป็นพิเศษ ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรง สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด และสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานและให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป