กรุงเทพฯ--24 ต.ค.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
- เจ็ทสตาร์ เอเชียเตรียมรับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320 ใหม่อีก 6 ลำ
- แผนการพัฒนาฝูงบินดังกล่าวคาดว่า จะทำให้เจ็ทสตาร์ประหยัดเชื้อเพลิงและค่าใช้จ่ายได้เพิ่มขึ้น
- เจ็ทสตาร์ เอเชียขึ้นแท่นสายการบินรายแรกแห่งประเทศสิงคโปร์ที่ให้บริการด้วยเครื่องบินเอ 320 ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีประหยัดเชื้อเพลิง “Sharklets”สุดล้ำ
เมื่อเร็วๆ นี้ เจ็ทสตาร์ เอเชียได้รับมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ320 ใหม่จำนวน1 ลำ ส่งผลให้ฝูงบินของเจ็ทสตาร์ เอเชียมีเครื่องบินเอ320 จำนวนรวมทั้งสิ้น 17 ลำ และขึ้นแท่นหนึ่งในสายการบินในประเทศสิงคโปร์ที่มีฝูงบินอายุน้อยที่สุด
ทั้งนี้ เจ็ทสตาร์ได้สั่งซื้อเครื่องบินเอ320 ใหม่ภายใต้แผนการพัฒนาฝูงบินจำนวน 6 ลำ คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 530 ล้านเหรียญสหรัฐ (ตามราคา ณ เดือนมิถุนายน 2555) สำหรับเครื่องบินที่เหลืออีก 5 ลำ จะนำไปใช้แทนเครื่องบินเอ320 ที่มีอยู่เดิม และเมื่อรับมอบเครื่องบินเอ320 ใหม่ครบทั้ง 6 ลำดังกล่าว ซึ่งมีกำหนดเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ศกหน้า เจ็ทสตาร์ เอเชียจะมีฝูงบินแอร์บัสเอ320 ที่มีอายุเฉลี่ยเพียง 3 ปีเท่านั้น
มร.บาราธาน พสุปะธิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายการบินเจ็ทสตาร์ เอเชีย กล่าวว่า “การมีฝูงบินที่ทันสมัย เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับเจ็ทสตาร์ เอเชียที่มุ่งขยายธุรกิจให้เติบโตรุดหน้าอย่างต่อเนื่อง ฝูงบินเอ320 ใหม่จะทำให้เจ็ทสตาร์ เอเชียมีต้นทุนลดลง มีประสิทธิภาพในการดำเนินงานมากขึ้นและสามารถมอบประสบการณ์การเดินทางชั้นเลิศด้วยค่าโดยสารราคาสุดประหยัดให้แก่ผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง”
“การลงทุนพัฒนาฝูงบินใหม่ครั้งนี้ ตอกย้ำปณิธานของเจ็ทสตาร์ที่มุ่งพัฒนาศูนย์กลางการบินในสิงคโปร์อย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยการเพิ่มเส้นทางบินใหม่ๆ และขยายบริการแวะต่อเครื่องเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ ลูกค้าที่ต้องการเดินทางทางอากาศภายในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” มร.พสุปะธิ กล่าวเสริม
หนึ่งในเครื่องบินเอ320 ใหม่ดังกล่าวจะติดตั้งระบบประหยัดเชื้อเพลิง “ชาร์กเล็ทส์” (Sharklets) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีสุดล้ำของแอร์บัสไว้บนปลายปีก ทำให้เครื่องบินเอ320 ใหม่มีปริมาณการเผาผลาญเชื้อเพลิงลดลงถึงร้อยละ 4 ส่งผลให้เจ็ทสตาร์ เอเชียเป็นสายการบินรายแรกในประเทศสิงคโปร์ และในเจ็ทสตาร์ กรุ๊ปที่ให้บริการรับส่งผู้โดยสารด้วยเครื่องบินเอ320 ที่ติดตั้งด้วยเทคโนโลยีประหยัดเชื้อเพลิงสุดล้ำดังกล่าว
นอกจากการเผาผลาญเชื้อเพลิงในปริมาณที่ลดลง ส่งผลให้เครื่องบินแต่ละลำมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ลดลงประมาณปีละ 1,000 ตันแล้ว อุปกรณ์ชาร์กเล็ทส์ยังทำให้เครื่องบินมีสมรรถนะการบินที่ดีกว่าและมีพิสัยการบินเมื่อมีการบรรทุกเต็มพิกัดเหนือกว่าเครื่องบินที่ไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ชาร์กเล็ทส์
“การลงทุนพัฒนาเครื่องบินด้วยนวัตกรรมสุดล้ำเป็นหัวใจสำคัญของระบบธุรกิจของเจ็ทสตาร์ ทั้งยังเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้เรามีศักยภาพในการพัฒนาการดำเนินงานและควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง” มร.พสุปะธิ กล่าวปิดท้าย
อนึ่ง การสั่งซื้อเครื่องบินเอ320 ใหม่ทั้ง 6 ลำดังกล่าวของเจ็ทสตาร์ เอเชียเป็นส่วนหนึ่งของยอดการสั่งซื้อเครื่องบินเอ320 ภายใต้แผนการพัฒนาฝูงบินของแควนตัส กรุ๊ปที่จัดทำขึ้นตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2554 สำหรับสายการบินรายอื่นๆ ในเครือของเจ็ทสตาร์ กรุ๊ปมีกำหนดรับมอบเครื่องบินเอ320 ใหม่ที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ชาร์กเล็ทส์ในปี 2556