ดร.สุเมธ เชิญชวนคนไทยดูหนัง “ยักษ์” มั่นใจข้อคิดที่ได้จะเตือนสติคนไทยให้รู้รักและสามัคคี

ข่าวทั่วไป Friday October 26, 2012 10:48 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--26 ต.ค.--เวิร์คพอยท์ เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ กำลังกระแสแรงสุดๆอยู่ในขณะนี้ สำหรับ “ยักษ์” ภาพยนตร์แอนิเมชั่นฟอร์มยักษ์ ที่ทุ่มทุนสร้างกว่า 100 ล้านบาท และเป็นภาพยตร์ที่มีคอลัมน์นิสจำนวนมากเขียนชื่นชมด้วยความภาคภูมิใจ และยกย่องให้เป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของแอนิเมชั่นฝีมือคนไทยระดับ World Class ซึ่งเรื่องราวให้ข้อคิดเกี่ยวกับความรักและมิตรภาพไว้อย่างยิ่งใหญ่ ล่าสุด ดร. สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา พร้อมด้วยภริยา และคณะทำงานได้ร่วมเข้าชมหนังยักษ์ ที่พารากอน ซินิเพล็กซ์ เมื่ออังคารที่ผ่านมา โดยมี คุณปัญญา นิรันดร์กุล และทีมผู้บริหารเวิร์คพอยท์ฯ ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ซึ่งภายหลังจากที่ชมภาพยนตร์จบ ดร.สุเมธ ท่านได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหนังยักษ์ซึ่งเชื่อมโยงไปถึงเรื่องราวความสามัคคีของคนไทยทั้งประเทศไว้ได้ดีมาก โดยท่านกล่าวว่า “ ตอนแรกที่รับเชิญมาดูหนังการ์ตูน จิตสำนึกผมนึกถึงเวลาดูหนังการ์ตูน ปรากฏว่าดูจบแล้วมันไม่ใช่หนังการ์ตูนซะแล้ว เพียงแค่ในฉาก มันเป็นเหมือนเรื่องการ์ตูนเท่านั้นเอง ทุกสิ่งทุกอย่างที่แฝงไว้สามารถทำให้ก่อจินตนาการออกไปได้อีกหลายเรื่อง มันสะท้อนสภาวะสังคม สภาวะของโลก และแท้จริงมันสะท้อนสภาวะมนุษย์ ตัวการ์ตูน ตัวแสดงต่างๆ ดูผิวเผินแล้วไม่ซีเรียส ตอนนั่งดูได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ แต่สมองเด็กคงแปลอะไรไม่รู้ แต่ผมคิดว่าพวกเราผู้ใหญ่นั้นภาพที่ต้องแปลคงคิดต่างไปจากเด็ก สิ่งที่เหมือนกัน คือได้เรียนรู้ ได้สติ ได้ปัญญากลับมา เพราะในเรื่องได้สมมุติฐานทศกัณฐ์ เป็นสัญลักษณ์ของอธรรม กิเลศ ตัณหา ที่ต้องถูกทำลาย หนุมานอาจจะเป็นสัญญาณของฝ่ายธรรมะที่ต้องเอาชนะกัน แต่สุดท้ายแล้วสติคือสิ่งที่เตือนให้ทุกคนรู้ว่ามีทศกัณฐ์ ทุกคนมีหนุมานอยู่ในตัว เพียงแต่ทุกจังหวะของตัวเรานั้นเราจะควบคุมทศกัณฐ์ให้อยู่นิ่งไมใช่ตัวทำลาย และดำรงความเป็นหนุมานให้รักษาธรรมะได้มากแค่ไหน หนังเรื่องนี้ทั้งเรื่องสอนอะไรมากมาย อยากจะชักชวนให้พวกเรามาดูกันนะครับ คิดว่าจะช่วยให้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง และเหนือสิ่งอื่นใดคือได้รู้จักตัวของตัวเอง ว่าเราจะสร้างหรือไม่สร้างปัญหาให้กับสังคม ปัญหามีอยู่ในมนุษย์ทั่วทุกมุมโลก เพราะมนุษย์ทุกคนมีทั้งทศกัณฐ์ และหนุมาน เพียงแต่อยู่ฟากนึงของโลกหรืออยู่ใกล้เคียงเรา และอีกอย่างที่น่าทึ่งมากคือ เทคนิคการถ่ายทำผมว่า World Standard ผมคิดว่าเราไปได้สบายๆ ทั้งดนตรี แสง เสียง ผมขอแสดงความชื่นชมผู้ที่ดำเนินการทั้งหมด ผมคิดว่าหนังดีดีแบบนี้หายากในยุคแบบนี้ครับ ถ้ามีลูกพามาดู เพราะดูแล้วเราจะนึกถึงตัวเราเอง เราอาจจะได้บทเรียนมากกว่าลูกเราด้วยซ้ำไป ใครที่กำลังทะเลาะเบาะแว้งกันอยู่หลายกลุ่ม หลายเหล่าในสังคมนี้ ใครกำลังพะวงเรื่องจะสร้างความปรองดอง มาดูเรื่องยักษ์สิครับ อาจจะเห็นทางออก อาจจะรู้ถึงต้นเหตุ สาเหตุต่างๆ จนกระทั่งสามารถแก้ไขไปได้ ผมว่าเรื่องนี้ให้บทเรียนที่สร้างสรรค์และทำให้การทะเลาะเบาะแว้งอาจจะทุเลาเบาบางไปจนกระทั่งหยุดก็ได้นะครับ อย่าพลาดนะครับ ผมคิดว่าใครที่ไม่ได้ดูเสียดายอย่างมากเลยแน่นอนครับ” หนังดีๆที่ให้ข้อคิดดีๆมากมายขนาดนี้ เชื่อหรือยัง ว่าคนไทยไม่ควรพลาดชม!!!!

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ