กรุงเทพฯ--20 ก.ย.--ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวภายหลังการประชุมร่วมกับหน่วยงานในตลาดทุนในวันนี้ว่า การปรับหลักเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนของตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ให้มีความเข้มข้นขึ้นนั้น มีหลักการเพื่อยกระดับหุ้นที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้เป็นแหล่งระดมทุนสำหรับบริษัทที่ใหญ่ขึ้น และเข้มแข็งขึ้น ในขณะที่ต้องการให้ mai เป็นตลาดที่สร้างผู้ประกอบการใหม่ที่เป็นหลักในอนาคตของอุตสาหกรรมข้างหน้า
ทั้งนี้ ได้มีการกำหนดให้ตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นตลาดรองสำหรับบริษัทขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง และมีผลประกอบการดี มีความมั่นคง และให้ mai เป็นตลาดรองที่เอื้อต่อการระดมทุนของกิจการใหม่ที่เริ่มก่อตั้ง แต่เป็นบริษัทที่มีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต จะทำให้สถานะของตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ มีความแตกต่างและมีจุดเด่นที่ชัดเจน
“mai จะมีสถานะเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับกิจการที่เกิดใหม่ของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ แต่มีศักยภาพในการเติบโตที่ดี มีผู้บริหารเป็นคนรุ่นใหม่ แต่มีความคิดสร้างสรรค์ในการทำธุรกิจ และมีศักยภาพในการเติบโตสูง
ในอีก 2 — 3 ปี mai จะมีความคึกคักมาก โดยจะมุ่งให้มีธุรกิจของคนรุ่นใหม่เข้ามาจดทะเบียน อาทิ ธุรกิจเกี่ยวกับ design software IT และธุรกิจที่ใช้ skill ซึ่งเป็นธุรกิจของคนหนุ่มคนสาวที่สร้างตัวขึ้นมาและใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์ โดยจะมีการประกาศเรื่องนี้อย่างเป็นทางการในกลางเดือนตุลาคม” รัฐมนตรีฯคลังกล่าว
ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ เรื่องการปรับเกณฑ์รับ หลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ และตลาดหลักทรัพย์ใหม่ โดยกำหนดให้บริษัทที่จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้องมีทุนชำระแล้วและส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 200 ล้านบาท เป็น 300 ล้านบาท มีการดำเนินงานไม่ต่ำกว่า 3 ปี (จากเดิม 2 ปี) และมีกำไรสุทธิรวมกันไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท และในปี ล่าสุด ต้องมีกำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท รวมทั้งมีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจสำหรับงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ (จากเดิมมีกำไรสุทธิจากการดำเนินธุรกิจในปีล่าสุด)
ส่วน mai จะเปิดโอกาสให้บริษัทที่ก่อตั้งใหม่เข้ามาระดมทุนได้ โดยเปิดโอกาสให้บริษัทที่มีทุน 20 ล้านบาทขึ้นไปเข้าจดทะเบียนได้ แต่ต้องไม่เกิน 300 ล้านบาท และมีการดำเนินงานมาแล้ว 2 ปี เข้าจดทะเบียนได้ และยังเปิดโอกาสให้บริษัทที่เพิ่งเริ่มดำเนินงาน 1 ปีแต่ยังไม่มีกำไรเข้าจดทะเบียนใน mail ได้ โดยต้องมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดไม่ต่ำกว่า 1,500 ล้านบาทด้วย
ติดต่อส่วนสื่อมวลชนสัมพันธ์ ฝ่ายสื่อสารองค์กร
ลดาวัลย์ กันทวงศ์ โทร. 0-2229 — 2036 /
กุลวิดา จินตกะวงส์ โทร. 0-2229 — 2037/
ณัฐพร บุญประภา โทร. 0-2229 — 2049--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--