กรุงเทพฯ--29 ต.ค.--ไอดีซี
ไอดีซีเปิดเผยผลการศึกษาตลาดเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (พีซี) ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยกเว้นญี่ปุ่น ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ซึ่งพบว่าถึงแม้ว่าตลาดจะเติบโต 4% จากไตรมาสที่ 2 แต่ก็คิดเป็นการหดตัว 5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมียอดจัดส่งรวมที่ 31.4 ล้านเครื่อง น้อยกว่าที่ไอดีซีได้คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยสภาพเศรษฐกิจที่ไม่สดใสนักในภูมิภาคเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลลบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค ในขณะที่ผู้จำหน่ายเองก็เลือกที่จะเคลียร์สินค้าคงคลังเพื่อรองรับการมาของสินค้าที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ 8 ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ทำให้ตลาดในไตรมาสที่ 3 มีการหดตัวลงอย่างผิดปรกติ
ตลาดในประเทศจีนยังคงขยายตัวได้ตามที่คาดไว้ ซึ่งช่วยให้หลายเวนเดอร์กระตุ้นยอดขายโดยรวมของตนเองได้ โดยเลอโนโวยังคงครองอันดับ 1 ในภูมิภาคอันเนื่องมาจากการใช้กลยุทธ์ด้านราคาและการส่งเสริมการขาย ประกอบกับการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ ออกมาทำตลาดอย่างต่อเนื่องในประเทศจีน ส่วนเอชพีก็ปรับใช้กลยุทธ์ด้านราคาในตลาดประเทศจีนเช่นเดียวกัน จนส่งผลให้ได้รับส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นจากช่วงไตรมาสที่ 2 ในขณะที่เอซุสต้องพบกับความท้าท้ายในการรักษาส่วนแบ่งตลาดในอาเซียนและอินเดีย แต่โดยรวมก็ยังได้รับแรงหนุนจากส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้นในตลาดจีน เช่นเดียวกับเดลล์ที่สามารถกลับมาเติบโตได้อีกครั้งหลังจากที่ทำผลงานได้ดีขึ้นในตลาดประเทศจีน
นายแอนดี้ ฮันโดโค นักวิเคราะห์อาวุโสสายงานศึกษาตลาดไคลเอนต์ดีไวซ์ประจำไอดีซีเอเชียแปซิฟิกเผยว่า "จากการที่ตลาดพีซีซบเซามาตลอดทั้งปี วันที่ 26 ตุลาคมที่จะถึงนี้จึงถือเป็นวันสำคัญที่หลายคนรอคอย ไม่เพียงแค่ไมโครซอฟต์เท่านั้น แต่เหล่าพีซีเวนเดอร์เองต่างก็ลุ้นว่าระบบปฏิบัติการใหม่อย่างวินโดวส์ 8 จะสามารถกระตุ้นตลาดให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้งหรือไม่ และหนึ่งในปัจจัยบวกที่เราเห็นคือการที่ผู้จำหน่ายในประเทศต่างๆ ได้เตรียมพร้อมรับการมาของสินค้าที่ใช้ระบบปฏิบัติการใหม่ ซึ่งจะส่งผลดีต่อยอดจัดส่งในไตมาสสุดท้ายของปี"
"ส่วนปี 2556 ก็จะยังคงเป็นอีกปีที่เต็มไปด้วยความท้าทายสำหรับพีซีเวนเดอร์ เพราะไม่เพียงแค่ต้องแข่งขันกันเองเท่านั้น แต่จะต้องหาทางรับมือกับความนิยมของสินค้าประเภทอื่นเช่น สมาร์ทโฟนและแท็บเล็ต ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นเดียวกัน"