กรุงเทพฯ--30 ต.ค.--มูลนิธิเอสซีจี
การอ่านเป็นปัจจัยพื้นฐานของพัฒนาการเด็กที่สำคัญอย่างหนึ่ง สิ่งที่ช่วยเสริมสร้างเด็กน้อยให้มีพัฒนาการทั้งด้านสมองและอารมณ์ก็คือการปลูกฝังวัฒนธรรมการอ่านตั้งแต่เด็ก เพราะการอ่านนอกจากจะช่วยเพิ่มพูนความรู้และจินตนาการแล้ว ยังเพิ่มประสบการณ์ร่วมที่ดีระหว่างพ่อแม่และลูก หล่อหลอมให้เด็กที่ได้รับการปลูกฝังให้รักการอ่านเป็นคนดีมีคุณภาพในสังคมต่อไป ดังวลีของนักปราชญ์ชาวอังกฤษ นายฟรานซิส เบคอนที่ว่า "Reading makes a full man การอ่านทำให้คนเป็นคนโดยสมบูรณ์"
เพื่อส่งเสริม ‘กระบวนการเล่านิทาน อ่านหนังสือ’ ให้เป็นวัฒนธรรมการเลี้ยงลูกด้วยหนังสืออย่างยั่งยืนในสังคมไทย มูลนิธิเอสซีจีร่วมกับนักแปลหนังสือภาพชั้นนำของเมืองไทย ได้แนะนำหนังสือภาพระดับโลก (World Class Picture Books) ในโครงการ ‘นำหนังสือดีสู่เด็กไทยปีที่ 5’ ปีนี้เราได้คัดสรรหนังสือภาพระดับโลกที่ได้รับการยอมรับจากนักวิชาการด้านการศึกษา นักสร้างสรรค์หนังสือเด็กทั่วโลกว่ามีทั้งความดีในด้านสาระและมีความงดงามทางศิลปะ เหมาะแก่การอ่านให้เด็กปฐมวัย (แรกเกิดถึง 6 ปี) โดยได้จัดพิมพ์เป็นภาษาไทย 5 เรื่อง ได้แก่ ‘ลูกสัตว์ไปกับแม่’ ‘แพะสามตัว’ ‘บินข้ามเวลา’ ‘บ้านหลังน้อย ยามค่ำคืน’ และ ‘หมีตัวใหญ่ที่สุด’ เพื่อจุดประกายพ่อแม่ ผู้ปกครอง และผู้เกี่ยวข้องกับเด็กปฐมวัย ใช้หนังสือภาพเพิ่มพูนพัฒนาการเด็กในราคาที่ทุกครอบครัวสามารถเข้าถึงได้
คุณสุรนุช ธงศิลา กรรมการและผู้จัดการมูลนิธิเอสซีจี กล่าวว่า “มูลนิธิเอสซีจีพยายามรณรงค์ให้พ่อแม่ใช้หนังสือเป็นเครื่องมือเสริมสร้างพัฒนาการของลูกน้อยอย่างสม่ำเสมอ หาเวลาคุณภาพเพื่อสร้างความผูกพัน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ นอกจากตัวลูกน้อยจะมีความคุ้นชินกับการอ่านแต่เล็กแล้ว ยังช่วยส่งเสริมให้เด็กมีความพร้อมในทักษะด้านภาษา มีสมาธิมากขึ้น เด็กจะมีภาวะทางอารมณ์ที่สูงขึ้น ไม่เหงาเพราะมีหนังสือเป็นเพื่อน และสามารถลดทอนปัญหาสังคมเช่น เด็กติดเกมให้น้อยลงได้อีกด้วย”
อ.พรอนงค์ นิยมค้า เลขาธิการมูลนิธิหนังสือ ให้ข้อมูลการจัดทำหนังสือว่า “สิ่งที่เป็นความท้าทายของทีมกองบรรณาธิการ คือกระบวนการคัดสรรหนังสือภาพสำหรับเด็ก ที่ต้องมีความพิถีพิถันเป็นพิเศษ โดยหลักเกณฑ์ในการคัดเลือก คือต้องมีความหลากหลาย ทั้งในด้านเนื้อหา อารมณ์ และวัย มีความเป็นนานาชาติ หลากหลายวัฒนธรรม และที่สำคัญคือหนังสือทุกเล่มต้องเป็นหนังสือภาพดีระดับโลก หนังสือภาพที่ดีจะต้องร้อยเรียงเรื่องราวเข้าด้วยกันตั้งแต่ต้นจนจบ ตัวหนังสือไม่ต้องมากแต่สร้างจินตนาการผ่านภาพได้อย่างหลากหลายไม่รู้จบ”
อ.อัจฉรา ประดิษฐ์ สาขาวรรณกรรมสำหรับเด็ก มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กล่าวเสริมถึงสิ่งที่เด็กๆ จะได้รับจากหนังสือภาพชุดนี้ว่า “พ่อแม่ที่เล่านิทานให้ลูกฟังเป็นประจำเปรียบเสมือนได้พาลูกน้อยไปดูงานศิลปะ ที่เด็กสามารถเปิดอ่านและดูได้ทุกที่ทุกเวลา เป็นการย่อโลกทั้งโลกมาอยู่ในมือของเด็ก ให้เค้าเผชิญโลกกว้างอย่างปลอดภัย อีกทั้งสามารถใช้หนังสือเป็นเครื่องมือถ่ายทอดความรัก เป็นหน้าต่างเปิดประสบกาณ์ร่วมกัน เป็นสะพานของความรัก สะพานของความรู้ที่อยากให้ทุกบ้านมี”
สำหรับผู้ที่สนใจหนังสือภาพ 5 เรื่องเอกของโลกชุดใหม่ของโครงการนำหนังสือสู่เด็กไทย ปีที่ 5 สามารถบริจาคเงินเข้า ‘กองทุนนำหนังสือดีสู่เด็กไทย’ และรับหนังสือชุดนี้เป็นของสมนาคุณ โดยมูลนิธิเอสซีจีจะนำรายได้ไปจัดซื้อหนังสือภาพ เพื่อมอบให้แก่เด็กๆ ที่ขาดแคลนทั่วประเทศ ข้อมูลเพิ่มเติมโทร 0 2586 2547 เว็บไซต์ www.scgfoundation.org หรือ E-mail: ecd.scgfoundation.org