สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday October 31, 2012 10:49 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,710 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,713 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.68 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,850 บาท กับ 24,950 บาท และกลับมาปิดที่ 24,850 บาท กับ 24,950 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,417 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,928 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 38 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 23% แบบ 10 บาท ลดลง 21% Silver Futuresลดลง 35 % GFZ12 ปิด 25,200 บาท และ GFG12 ปิด 25,300 บาท GF10V12 ปิดที่ 25,200 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,310 บาท SVZ12 ปิดที่ 977 สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 3.4 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,712.10 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 7.10 เซนต์ ปิดที่ระดับ 31.816 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,336.30 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 14 เซนต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 85.68 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ตลาดหยุดทำการ Ratio Gold / Silver เท่ากับ 53.81 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest - ราคาทองคำมีการเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways อีกครั้งเมื่อคืนนี้ จากการที่ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวสูงขึ้นและสกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง แต่การเคลื่อนไหวของราคาถูกจำกัดจากการที่ตลาดสหรัฐยังคงปิดทำการเนื่องจากผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ และนักลงทุนรอผลการรายงานตัวเลขภาคการจ้างงานของสหรัฐ โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 3.4 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,712.1 เหรียญ/ออนซ์ - ราคาทองคำได้รับแรงสนับสนุนจากตลาดหุ้นยุโรปที่แข็งแกร่ง ซึ่งมีผลเนื่องมาจากการรายงานผลประกอบการที่ดีจาก BP และ UBS รวมไปถึงการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร หลังจากที่มีการรายงานว่าเศรษฐกิจสเปนหดตัว 0.3% ในไตรมาสที่ 3 ในระดับน้อยกว่าการคาดการณ์ในเดือนกันยายน - อย่างไรก็ตาม สำนักงานสถิติแรงงานแห่งชาติสหรัฐระบุว่า การประกาศตัวเลข Non-farm payrolls ของสหรัฐที่จะมีขึ้นในวันศุกร์นี้อาจจะมีการเลื่อนออกไป เนื่องจากที่ทำการของรัฐบาลในกรุงวอชิงตันดีซีได้รับผลกระทบจากพายุเฮอร์ริเคนแซนดี้ ส่งผลให้เกิดอุปสรรคในการรวบรวมข้อมูลการจ้างงาน - โดยผลสำรวจจากรอยเตอร์สระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐน่าจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 125,000 ตำแหน่งจากเดือนที่ผ่านมา แม้ว่าดูเหมือนว่าอัตราการว่างงานจะออกมาเพิ่มขึ้นที่ 7.9% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ 7.8% - กระทรวงการคลังสหรัฐเผยรัฐบาลสหรัฐคาดว่าจะกู้เงินจำนวน 2.88 แสนล้านดอลลาร์จากตลาดการเงิน เพื่อใช้ในด้านงบประมาณดำเนินงานในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี นอกจากนี้ กระทรวงยังมีแผนออกตราสารหนี้ในวงเงิน 3.42 แสนล้านดอลลาร์ ในระหว่างเดือนมกราคม-มีนาคม 2556 โดยคาดว่า ณ สิ้นเดือนมีนาคมจะมีปริมาณเงินสดสำรอง 3 หมื่นล้านดอลลาร์ - ทางฝั่งยุโรป ตลาดรับรู้ข่าวการประมูลพันธบัตรอิตาลีที่ออกมาดีเกินคาด ด้วยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีของอิตาลีปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4.92% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ปี 2011 นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจทางฝั่งยุโรปที่ประกาศออกมาเมื่อวานนี้ได้แก่ อัตราการว่างงานของเยอรมนีประจำเดือนตุลาคมออกมาเพิ่มขึ้น 20,000 ตำแหน่ง จากระดับเดือนกันยายนที่มีคนตกงานรวม 2.94 ล้านคน โดยตัวเลขที่ออกมามากกว่าการคาดการณ์ว่าจะมีคนว่างงานเพิ่มขึ้นเพียง 10,000 ตำแหน่ง ในขณะที่ยอดค้าปลีกของยูโรโซนประจำเดือนตุลาคมออกมาที่ระดับ 45.3 ต่ำกว่าระดับก่อนที่ 47.1 - นายกรัฐมนตรีแอนโทนิส แซมมาราส ของกรีซเผยเมื่อวานนี้ว่า กรีซสามารถสรุปข้อตกลงกับเจ้าหนี้ต่างประเทศเรื่องมาตรการเสริมของมาตรการรัดเข็มขัด และมาตรการปฏิรูป เพื่อที่ประเทศจะได้รับเงินช่วยเหลืองวดสำคัญในช่วงเดือนพ.ย. - ที่ประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เมื่อวานนี้ มีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ 0-0.1% และผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมด้วยการขยายขนาดโครงการซื้อสินทรัพย์ของบีโอเจเพิ่มขึ้นเป็น 91 ล้านล้านเยน โดยนายมาซาอากิ ชิรากาว่า ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นกล่าวว่า เศรษฐกิจในต่างประเทศที่ชะลอตัวมากขึ้นเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ธนาคารตัดสินใจผ่อนคลายนโยบายการเงินติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่เกิดขึ้นไม่บ่อยครั้งนัก - จากมุมมองของนักวิเคราะห์ ผู้ซึ่งศึกษาลักษณะกราฟแพทเทิร์นเพื่อเป็นตัวบอกทิศทางในอนาคต มองว่าแนวรับของทองคำจะอยู่ที่ระดับ 1,703 เหรียญ อย่างไรก็ตาม สกอเธียโมคัตตาระบุว่า แนวรับของทองคำจะอยู่ที่ 1,693 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับ retracement สำคัญในการเคลื่อนไหวจากจุดต่ำสุดของปีในเดือนพฤษภาคมจนถึงจุดสูงสุดในเดือนตุลาคม โดยแนวต้านจะอยู่ที่ 1,722 เหรียญ - แสตนดาร์ด แบงก์ กล่าวในรายงานโลหะมีค่าประจำเดือนว่า ราคาทองคำไม่มีความดึงดูดในการลงทุนหลังจากที่เฟดมีการประกาศการกระตุ้นทางการเงินรอบล่าสุดออกมา ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Chicago PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 49.7 คาดการณ์ว่าจะออกมาดีขึ้นที่ระดับ 51.0 - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 5.9 M คาดการณ์ว่าจะออกมาลดลงที่ระดับ 1.6 M วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — โดยภาพรวมราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในทิศทาง Sideways ในกรอบระหว่าง 1,705 — 1,715 เหรียญ ในลักษณะรูปแบบชายธง ปริมาณการซื้อขายค่อนข้างเบาบางในทองคำแท่ง และใน Gold Futures เองก็มีการซื้อขายไม่มากจากการที่ตลาด COMEX ปิดทำการเป็นวันที่ 2 แม้จะมีตลาดอิเล็กทรอนิกส์ แต่มีการซื้อขายค่อนข้างเบาบาง MTS Gold คาดว่า ราคาทองคำคงจะเคลื่อนตัวในทิศทาง Sideways จนกว่าจะ Breakout ซึ่งมีโอกาสเบรกขึ้นหรือเบรกลงก็ได้ในลักษณะแพทเทิร์นสามเหลี่ยม โดยจุดที่จะมีการ Breakout ด้านบนจะอยู่ที่ระดับสูงกว่า 1,718 เหรียญขึ้นไป และด้านล่างที่บริเวณต่ำกว่า 1,705 เหรียญลงมา ในขณะที่ถ้าเบรกหลุดในระดับดังกล่าวอาจเห็นราคาทองคำลงไปถึงระดับ 1,690 เหรียญ ซึ่งเป็นแนวรับถัดไป ส่วนแนวด้านบนถ้าทะลุขึ้นไปจะมีแนวต้านที่ระดับ 1,730 เหรียญ สำหรับค่าเงินบาทเองวันนี้ปรับแข็งค่าขึ้นบ้างเล็กน้อยมาอยู่ที่ระดับ 30.68 — 30.71 บาท/ดอลลาร์ Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,120 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,280 บาท Gold Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,200 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,400 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,000 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,705 — 1,715 เหรียญ ซึ่งต้องจับตาดูเวลาเปิดตลาด COMEX ในคืนนี้ คาดว่าจะมีการ Breakout ใน 1 - 2 วันนี้ แล้วค่อยใช้กลยุทธ์ในการซื้อหรือขายตามสัญญาณในการ Breakout นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ถือครองพอร์ท 30- 40% รอสัญญาณการ Breakout นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอสัญญาณการ Breakout ถือครอง Portfolio 50 % รอช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ