(ต่อ1) วอเนอร์ เสนอเรื่องย่อภาพยนตร์ The Polar Express

ข่าวทั่วไป Tuesday September 21, 2004 10:32 —ThaiPR.net

ภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอคือผลงานภาพยนตร์คอมเมดี้ของ จาง อี้ โหมว เรื่อง Happy Times ซึ่งทำให้เธอได้รับรางวัลนักแสดงหน้าใหม่ยอดเยี่ยมจาก China Golden Rooster Awards และภาพยนตร์เรื่องนี้ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในภาพยตร์จีนที่น่าจดจำอีกด้วย เธอยังได้ร่วมแสดงภาพยนตร์ยอดฮิตให้กับประเทศจีนคือเรื่อง Sky Lover (รางวัลศิลปินที่มีความทุ่มเทยอดเยี่ยม จาก เทศกาลภาพยนตร์ที่ โตเกียว) และภาพยนตร์ญี่ปุ่นเรื่อง First Love, Last Love และภาพยนตร์ยอดนิยมติดอันดับฮ่องกงบ๊อกซ์ออฟฟิศเรื่อง The Sound of Colours
ธงไชย แมคอินไตย์ (เบิร์ด)
คนไทยทั้งประเทศรู้จักเขาในชื่อเล่นว่า “เบิร์ด” ธงไชย แมคอินไตย์ เป็นนักร้องยอดนิยมที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงตั้งแต่เขาเริ่มเข้าวงการในช่วงปี 1980 เขาเป็นศิลปินคนไทยคนเดียวที่ได้รับรางวัล Billboard Music Awards หลายรางวัล ผู้กำกับการแสดงยอดนิยม ยุทธนา มุกดาสนิท ซึ่งให้เขารับบทในภาพยนตร์เรื่อง Red-Roofed House และเรื่อง Sunset at Chaophrya เป็นผู้ฝึกสอนการแสดงให้กับเขา เขายังคงเป็นเหมือนสัญลักษณ์ของ วงการบันเทิง ทั้งงานละครเวที ทางวงการโทรทัศน์และวงการภาพยนตร์อีกด้วย
ซิว ปิง-แลม
ซิว ปิง-แลม เริ่มเข้าสู่วงการภาพยนตร์ของฮ่องกงในช่วงปี 1980 จากการเป็นเจ้าหน้าที่ฝ่ายฉากและเป็นช่างไม้ และยังคงทำงานทั้งสองอยู่จนกระทั่งปัจจุบัน เขาแต่งกายยุคซิกซ์ตี้ และลักษณะการพูดของเขา ทำให้ หว่อง กา ไวเสนอบท ให้เขาลองเล่นในภาพยนตร์เรื่อง In the Mood for Love และการทดสอบนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทำให้บทนักแสดงประกอบเล็ก ๆ กลายเป็นบทนักแสดงประกอบสำคัญ: เป็นบทบาทตัวเดินเรื่อง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่เคยแสดงมาก่อน ความเชื่อมั่นและความชื่นชอบในการแสดงได้ทำความประหลาดใจและความสนุกสนานให้กับผู้ชมมากมาย เขากลับมารับบทเดิมในภาพยนตร์เรื่อง 2046
หว่าง ซัม
ผู้กำกับการแสดงและผู้เขียนบทภาพยนตร์ในบางเวลาอย่าง หว่าง ซัม ได้เกี่ยวข้องในวงการบันเทิงของฮ่องกงมากกว่า 30 ปี เขาเป็นที่รู้จักดีในฐานะนักแสดง และได้ร่วมแสดงในภาพยนตร์มาเกือบร้อยเรื่อง ซึ่งรวมทั้ง ภาพยนตร์คลาสสิคเรื่อง ๅ The Lost Spring คอมเมดี้ยอดนิยมเรื่อง My Wacky, Wacky World และภาพยนตร์ของ ไมเคิล ฮุยซึ่งเป็นประหนึ่งตำนานของการเริ่มกำกับการแสดงเรื่องแรกของเขาคือเรื่อง Games Gamblers Play
2046 โลกที่ หว่อง กา ไว สร้างสรรขึ้น
หว่อง กา ไวนั้นเป็นที่รู้จักกันดีว่าเป็นบุคคลสมบูรณ์แบบ หนึ่งในเหตุผลที่ภาพยนตร์เรื่อง 2046 ต้องใช้เวลาถ่ายทำถึง 5 ปีเพราะความที่ตัวเขาเป็นคนที่ต้องการจะให้ภาพที่ออกมาในภาพยนตร์เป็นเทคนิคภาพที่เหมือนไม่ตั้งใจ เพื่อให้แน่ใจว่านักแสดงหญิงและชายจะต้องทำให้ดีที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาใช้เวลาเพื่อจะอธิบายรายละเอียดให้กับนักแสดงได้เข้าใจว่าตัวเขาต้องการอย่างไรเพื่อที่จะให้นักแสดงมีความรู้สึกร่วมกับบทบาทที่กำลังได้รับอยู่ เพื่อที่จะทำให้แน่ใจว่านักแสดงแต่ละคนที่รับบทในแต่ละบทมีบุคลิกภาพออกมา “เป็น” เหมือนบทที่ได้รับอย่างแท้จริง
ไม่ว่าจะมีความเคลือบแคลงสงสัยใดๆ ก็ตามที่เกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้กำกับการแสดง หว่องและทีมงานก็ยังทุ่มเทให้กับภาพยนตร์โดยตลอดมา เมื่องานเปิดตัวภาพยนตร์เรื่องนี้ครั้งแรกในงานเทศกาลภาพยนตร์ที่เมือง คานส์ ปี 2004 หนังสือพิมพ์ นิวยอร์ค ไทม์พาดหัวว่า “2046 จะเริ่มสงครามการประมูล มันคุ้มค่ากับการรอคอย” ซึ่งตรงกับหนังสือพิมพ์จากประเทศอังกฤษซึ่งลงข่าวว่า “2046 เต็มไปด้วยความเร้นลับ มันมีแรงดึงดูดและเป็นภาพยนตร์ที่ลึกล้ำ“ และหนังสือพิมพ์ เลอ โมดยังเสริมว่า “2046 เป็นภาพยนตร์ที่สร้างโดย หว่อง กา ไว เมื่อเขาถึงขึ้นจุดสูงสุด”
ภาพยนตร์เรื่อง 2046 ที่งานเทศกาลภาพยนตร์เมือง คานส์
เมื่องานเทศกาลภาพยนตร์เมือง คานส์ ล่าสุด ครั้งที่ 57 นี้ เป็นที่ภาพยนตร์เรื่อง 2046 ได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกและได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์จากทั่วโลก นิตยสารไทม์ แม็กกาซีนเขียนถึงว่า “หว่อง กา ไว เป็น ผู้กำกับที่มีความโรแมนติคที่สุดของโลก 2046 เป็นหนึ่งในหนังที่ดีทีสุดแห่งปี” และนิตยสาร เดอะ ลอสแอนเจลิส ไทม์ยังลงอีกว่า “โทนี่ เหลียง เฉา เหว่ย เป็นหนึ่งในนักแสดงยอดเยี่ยมของโลกและยังเจ้าเสน่ห์อีกด้วย”
เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ไดรับการฉายเพื่อเข้าแข่งขันในเทศกาลภาพยนตร์เมือง คานส์ครั้งที่ 57นี้ เรื่อง 2046เป็นภาพยตร์จีนเรื่องเดียวที่ได้รับการคัดเลือก ก่อนหน้าที่จะเริ่มเทศกาลหนัง ก็มีเสียงร่ำลือเกี่ยวกับภาพยตร์เรื่องนี้แล้วว่าเป็นภาพยนตร์เรื่องหนึ่งของปีที่น่าจับตามอง หลังจากที่เข้ามาถึงเทศกาลเกือบนาทีสุดท้าย ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับการสนับสนุนเป็นเอกฉันท์ สื่อสิ่งพิมพ์จากประเทศฝรั่งเศสและสื่อต่าง ๆ จากทุกมุมโลกได้คัดเลือกให้กง ลี่ได้ขึ้นปกและรวมทั้งหลายรูปจากภาพยนตร์เรื่องนี้อีกด้วย
ภาพยนตร์เรื่อง 2046 ของ หว่อง กา ไว เป็นภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายที่ฉายในงานเทศกาลนี้ ผู้กำกับการแสดง หว่อง และนักแสดง กง ลี่ โทนี่ เหลียง เฉา เหว่ย จาง ซี่ยี่ ทาคุย่า คิมุระ และ จาง เฉิน ได้เข้าร่วมงาน มันเป็นหนึ่งในการรวมดาราสำคัญในงานเปิดตัวภาพยนตร์ในเทศกาลนี้
ถ้าถนนที่เต็มไปด้วยฝูงชนของเมืองคานส์จะสามารถใช้วัดความสนใจของผู้คนให้กับภาพยนตร์เรื่องใดได้ ในการเปิดตัวภาพยนตร์เรื่อง 2046 นั้นแน่นอนที่เดียวว่าต้องเป็นหนึ่งในจุดสนใจของงานเทศกาลนี้ บรรดาแฟนที่คลั่งไคล้หายไปจากท้องถนนเพื่อไปอยู่ยังร้านค้าที่อยู่ใกล้ ๆ มันช่วยไม่ได้ที่จะชี้ให้เห็นถึงความนิยมที่มีในตัวของ หว่อง กา ไว ในประเทศ ฝรั่งเศส หลังจากที่ได้ฉายภาพยนตร์และท่ามกลางเสียงโห่ร้องของผู้ชม ผู้กำกับการแสดง หว่อง ยืนขึ้นและจับมือกับดารานักแสดงที่ได้ร่วมงานกันเป็นเวลามากว่า 5 ปี และเขายังโบกมืออันเป็นแบบฉบับของเขาให้กับผู้ชมอีกด้วย และในเวลานี้เองที่ผู้กำกับการแสดง ได้กล่าวคำพูดว่า “ภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เหลียง เฉา เหว่ย ถึงจุดสูงสุดในอาชีพ และมันยังเป็นบทสรุปของตัวผม ที่จะใช้ตัวแสดงจากภาพยนตร์เรื่อง In The Mood For Love และบทสนทนา จากเรื่อง Days of Being Wild เสียงตอบรับจากผู้ชมทำให้ผมมั่นใจเช่นนั้น ว่ามันใช้ได้แล้วตอนนี้” หนึ่งในนิตยสารเกี่ยวกับภาพยนตร์ Cahier du Cinema ให้คะแนนภาพยตร์เรื่องนี้มากถึง 3.3 ซึ่งเป็นคะแนนสูงสุด
ด้วยความเป็นจริงที่ว่าภาพยตร์เรื่องนี้ได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างมาก คณะกรรมการต้องจัดให้มีการฉายรอบเพิ่มในนาทีสุดท้ายหลังจากที่มีการเปิดตัวเป็นทางการเพื่อให้บรรดาแฟนหนังที่เรียกร้องได้ดู
นิตยสาร นิวยอร์ค ไทม์ให้ความเห็นหลังจากงานเทศกาลภาพยนตร์ที่เมืองคานส์ว่า “ภาพยนตร์เรื่อง 2046 หยอกล้อกับความไม่เข้าใจ อย่างเป็นขั้นตอนของความรู้สึก ความรบกวนและช่วงความรู้สึกที่ดี — ความเย้ายวน การจับคู่ น้ำตาและการจากพราก - พร้อมกับความต่อเนื่องของเรื่องที่ยังค้างคาหรือที่มากับไตเติ้ลการ์ดและเสียงพูด”
และหลังจากเทศกาลหนังเมืองคานส์ นิตยสารไทม์เขียนว่า “เป็นเพราะความน่าหลงใหล ความชำนาญและความเชื่อในความเลอเลิศและความเจ็บปวดของความรัก — 2046 เป็นภาพยนตร์ของปี 2004” นิตยสารยังได้ชี้ให้เป็นว่า “2046เป็นความต่อเนื่องของ หว่องจากภาพยนตร์เรื่อง In the Mood for Love ซึ่งได้เปิดฉายที่คานส์ในปี 2000และได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากทั่วโลก” ผู้เขียนยังได้เสริมอีกว่า (อย่างที่กล่าวไปแล้ว) — “กล้อง…วนอยู่รอบ ๆ หญิงสาวเหมือนกับคู่รักที่เต็มไปด้วยอารมณ์ปรารถนา มันจับความรู้สึกและให้ความสนใจสิ่งที่เปล่งออกมาจากตัวดาราสาว “
2046 - ผู้กำกับการแสดง
“เขาเป็นผู้กำกับแนวหน้า ที่โรแมนติค ละเอียดอ่อน และเซ็กซี่” - คาริน่า เลา
“มีแค่เพียง หว่อง กา ไวเท่านั้นที่จะทำให้ผมตื่นเต้น และทำให้รู้สึกถูกรบกวนในเวลาที่เหมาะสม และผมก็จะร้องตะโกนว่ายอมแพ้ การได้ร่วมงานหนังกับเขาเหมือนมีความรักที่สุดแสนเจ็บปวด ทรมานแต่ก็ปฏิเสธมันไม่ได้ ” - โทนี่ เหลียง
“ถ้าคุณได้ร่วมงานภาพยนตร์กับหว่อง กา ไว โดยไม่มีความเข้าใจความแตกต่างระหว่างการเทคครั้งที่สองและการเทคครั้งที่แปด มันจะเป็นประสบการณ์ที่ทรมานมาก” - แม๊กกี้ ชุง
หว่อง กา ไว มักจะมาพร้อมกับคำที่ว่า: ความเป็นจริงที่น่าอัศจรรย์ การสร้างสิ่งใหม่ ความรู้สึกที่หลั่งไหลมา พวกก่อนแถวหน้า และสไตล์ของเขาในด้านดนตรี งานเขียนและศิลปะ เราจะได้เห็นดังต่อไปนี้: การตัดต่อคำสไตล์ที่ใช้กับ MTV และการทำให้เกิดความคิดถึงอย่างรุนแรง นอกจากนี้ เราจะคิดถึงวัตถุและสถานที่ต่อไปนี้: แว่นกันแดด นกไร้ขา เมืองเซี่ยงไฮ้เก่า และวันที่ผ่านพ้นไปแล้ว
หว่อง กา ไว เกิดในนครเซี่ยงไฮ้ เขาย้ายตามบิดามารดามาอยู่ฮ่องกงเมื่ออายุได้ 5 ขวบ เขาเริ่มงานในวงการบันเทิงในฐานะคนเขียนบทและได้กลายมาเป็นผู้กำกับการแสดงในปี 1989 แล้วจากนั้นไม่นานเขาก็ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ที่มีพรสวรรค์พิเศษ ภาพยนตร์เรื่องแรกของเขานั้นคือเรื่อง As Tears Go By ได้รับการฉายในอาทิตย์ของภาพยนตร์ที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์ ในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ปี 1989 และภาพยนตร์เรื่องต่อมาของเขาก็คือเรื่อง Days of Being Wild ซึ่งถ่ายทำจากจินตนาการที่สดใสในช่วงปี ค.ศ. 1960 ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ถ่ายทำเกี่ยวงกับนักแสดงวัยรุ่นชั้นนำของฮ่องกงในช่วงเวลานั้นและได้ชนะรางวัลฮ่องกง ฟิลม์ อวอร์ดถึงห้ารางวัลด้วยกัน ซึ่งรวมถึงภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยมอีกด้วย
หลังจากนั้นเขาได้ใช้เวลาอีกสองปีทำงานหนังเรื่องต่อไปของเขาคือเรื่อง Ashes of Time ซึ่งถ่ายทำในมณฑลอันห่างไกลในประเทศจีน ในภาพยนตร์เรื่องนี้ หว่องได้ข้ามขั้นตอนของการเป็นมาตรฐานทุกอย่างและประสบความสำเร็จในการทำภาพยนตร์ศิลปะการต่อสู้แบบดราม่า ภาพยนตร์เรื่องนี้เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองเวนิซปี 1994 และในระหว่างการพักก่อนที่จะมีการสร้างภาพยนตร์เรื่อง Ashes of Time นั้น หว่อง ก็ได้ กำกับการแสดงภาพยนตร์เรื่อง Chungking Express ซึ่งต่อมาได้รับความนิยมในหลายประเทศ ภาพยนตร์เรื่องนี้ยังเป็นเรื่องแรกของเขาที่มีการจัดจำหน่ายไปทั่วโลก จากนั้นเขาได้สร้างเรื่อง Fallen Angels ภาพยนตร์ที่ตัวเขาเรียนว่าเป็น “การทดลอง” ซึ่งได้เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์ที่กรุงโตรอนโต้ปี 1995
ภาพยนตร์เรื่องต่อมาของผู้กำกับการแสดงหว่องคือเรื่อง Happy Together ซึ่งได้เปิดตัวในงานเทศกาลภาพยนตร์เมือง คานส์ในปี 1997และเขาได้รับรางวัลผู้กำกับการแสดงยอดเยี่ยมจากเรื่องนี้ ในปี 2000 ภาพยนตร์ของเขาเรื่อง In The Mood for Love ก็ได้เปิดตัวเพื่อเข้าประกวดในงานเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ซึ่งเป็นงานที่เขาได้รับรางวัลหลายต่อหลายรางวัล รวมทั้งดาราแสดงนำยอดเยี่ยมฝ่ายชายสำหรับโทนี่ เหลียงด้วย
การสร้างภาพยนตร์ของหว่อง กา ไวยังยังเป็นตัวอย่างให้กับสาธารณะชนและในสังคมของผู้สร้างสรร เพราะเหตุผลที่ว่าเขามีความสามารถในการรวบรวมดาราชั้นนำของภาคพื้นเอเซีย ซึ่งรวมไปถึง จีน ฮ่องกง ไต้หวันและญี่ปุ่นให้เข้ามามีส่วนร่วมในภาพยนตร์หนึ่งเรื่องได้ มันเป็นเหมือนความลี้ลับของเขาที่ยังคงความเป็นตัวตนของตัวเขาเอาไว้ อย่างเช่นว่าจะไม่มีใครได้เห็นเขาโดยไม่สวมแว่นกันแดด; หว่อง กา ไวจะเฉลยความลับนี้ในงานเปิดตัวภาพยตร์ของเขาเท่านั้น
อันที่จริงแล้ว หว่อง ได้หยุดถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง 2046 เป็นระยะเวลาหนึ่งเพราะมีงานถ่ายทำอื่นเข้ามารวมทั้งหนังสั้นออนไลน์ของ BMW เรื่อง The Hire เป็นโปรเจ็คที่มีหลายผู้กำกับการแสดงอาทิ อั้ง ลี่ จอห์น วู และจอห์น แฟรงเคนไฮม์เมอร์ ได้เข้ามามีส่วนร่วม และยิ่งกว่านั้นหว่องยังได้ทำงานให้กับมิวสิควิดีโอของ ดีเจ ชาร์โดว์เพลง Six Days โดยที่เขาได้กำกับการแสดงส่วนหนึ่งของภาพยนตร์นี้ และเรื่อง Eros ซึ่ง กง ลี่ และ ชาง เชงร่วมแสดงด้วย โดยมหากาพย์ส่วนอื่นกำกับการแสดงโดยไมเคิล เองเจิ้ลโล แอนโตนิโอนี่และ สตีเว่น โซเดอร์เบิร์ก
2046 - ผู้กำกับฝ่ายศิลป์และลำดับภาพ
ภาพยนตร์เรื่อง 2046 นี้มีผู้กำกับฝ่ายศิลป์และผู้กำกับภาพผู้เป็นเสมือนตำนานของวงการคือ วิลเลี่ยม ชาง ซุก ปิง ชางเป็นที่รู้จักมานานว่าเป็นเหมือนหนึ่งขุมพลังให้กับวงการหนังของฮ่องกงและยังมีชื่อเสียงจากวงการภาพยนตร์ข้ามชาติอีกด้วย ถึงแม้ว่าหน้าที่หลักของเขาในภาพยนตร์เรื่อง 2046 นี้จะเป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์และผู้กำกับภาพ เขายังได้มีส่วนร่วมงานสำคัญในขึ้นตอนการทำภาพยนตร์อีกด้วย ความทุ่มเทของเขาให้กับงานของหว่องในภาพยนตร์เรื่องแรกของเขานั้นได้รับการยอมรับ นิตยสารซิตี้ แมกกาซีนได้ให้ชื่อว่า ชาง เป็นหนึ่งในร้อยบุคคลที่สำคัญที่สุดในงานทำภาพยนตร์สมัยใหม่ของฮ่องกง นิตยสารนี้บรรยายว่าเชงเป็นผู้ก่อกำเนิดศิลปะการทำภาพยตร์สมัยใหม่ให้กับวงการภาพยตร์ของฮ่องกง
เขาได้ทำงานในวงการภาพยนตร์มากว่า 20 ปี ชางได้สร้างสรรงานที่โดดเด่นมากมายร่วมกับผู้กับกำกับการแสดงหลายท่านอาทิเรื่อง Red Dust ให้กับ ยาน หาว เรื่อง Peach Blossom Land โดย สแตน ไล และเรื่อง Zu Warriors from the Magic Mountain โดย ซุย ฮาร์ค เขายังได้ร่วมงานกับผู้กำกับการแสดงที่มีชื่อเสียงคือ สแตนลี่ย์ กวาน และยังจะได้ร่วมงานกับ เจน แลม และ อีริค น็อท อย่างไรก็ตามผลงานที่ดีที่สุดของเขายังได้รับการพิจารณาว่าอยู่ในภาพยนตร์หลายเรื่องของหว่อง เริ่มภาพยนตร์เรื่องแรกของหว่อง คือเรื่อง As Tear Go By จางยังได้ทำงานกับหว่องมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งภาพยตร์ที่เขาได้ทำมี; เรื่อง Days of Being Wild เรื่อง Ashes of Time เรื่อง Chungking Express เรื่อง Happy Together เรื่อง Fallen Angels และเรื่อง In the Mood for Love ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ภาพยตร์เหล่านี้ที่ให้ชางได้รับ4 รางวัลจากฮ่องกง ฟิล์ม อวอร์ดและสองรางวัลม้าทองคำจากประเทศ ไต้หวัน ยิ่งกว่านั้น ชางยังได้รับรางวัลเทคนิคพิเศษจากเทศกาลภาพยนตร์ที่เมืองคานส์จากผลงานของเขาในเรื่อง In The Mood for Love
ในช่วงระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา วิลเลี่ยม ชาง หว่อง กา ไว และ คริสโตเฟอร์ ดอล์ย ได้ต่อสู้เพื่อปรับปรุงมาตรฐานของวงการภาพยนตร์ฮ่องกงให้ดีขึ้น ชางได้ทุ่มเทให้กับการคิดค้น ผลกระทบของการให้แสงเงาในภาพยนตร์ และไม่เป็นที่สงสัยเลยว่าชางเป็นผู้กำกับฝ่ายศิลป์ที่ได้รับความนิยม ประสบความสำเร็จและเป็นที่ต้องการของวงการภาพยนตร์ของฮองกงทีเดียว
2046 - การถ่ายภาพ
คริสโตเฟอร์ ดอล์ย เกิดในชนบทของซิดนี่ย์ คริส ดอล์ย ได้เดินทางรอบโลกก่อนที่จะได้สมญานามเป็นชื่อจีนว่า ดู คีเฟง (“Like the wind”) จากอาจารญ์ผู้สอนในฮ่องกงและได้กลายมาเป็นตากล้องที่ไต้หวัน ผลงานทางถ่ายภาพยนตร์เรื่องแรกของเขาคืองานของ เอ็ดเวิร์ด หยางเรื่อง That Day, On the Beach และตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาเขาก็ได้ร่วมงานกับผู้กำกับการแสดงที่มีชื่อเสียงอย่างเช่น เชง ไคจี สแตนลี่ย์ กวาน ปาร์ค คิ-ยอง ฟิลิป นอยซ์ กัส แวง แซง แบร์รี่ เลวินสันและ เป็นเอก รัตนเรือง เขายังได้ร่วมงานกับหว่อง กา ไว อย่างสม่ำเสมอตั้งแต่เรื่อง Days of Being Wild และร่วมงานในเรื่อง Ashes of Time เรื่อง Chungking Express เรื่อง Fallen Angels เรื่อง Happy Together เรื่อง In The Mood for Love และปัจจุบัน เรื่อง 2046
กวาน ปุน เหลียง
เขาเป็นศิลปินที่ทำงานให้กับสื่อผสม กวาน ปุน เหลียงเริ่มงานถ่ายทำภาพยนตร์ให้กับ สแตนลี่ย์ กวานเรื่อง Hold You Tight และยังได้ถ่ายภาพให้ภาพยนตร์ของสแตนลี่ย์กวานอีกในเรื่อง The Island Tale และงานภาพยนตร์อีกสองเรื่องให้กับ แอน ฮุย เรื่อง July Rhapsody และเรื่อง Goddess of Mercy และในขณะที่ทำงานส่วนตัวของเขาเองนั้นเขายังได้ร่วมกำกับภาพยนตร์สารคดีเรื่อง Buenos Aires Zero Degree: เบื้องหลังการถ่ายทำ Happy Together
ลาย หยิว ฟาย
ลาย หยิว ฟาย เริ่มงานจากการเป็นผู้ช่วยให้กับสองผู้ถ่ายภาพยนตร์ชื่อดังของวงการหนังฮ่องกงคือ คริสโตเฟอร์ ดอล์ย และ แอนดรูว์ เลา เขายังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในตากล้องสำหรับสิทธิของเขาเองสำหรับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ ยู ลิ ไกว เรื่อง Love will Tear Us Apart ซึ่งได้ออกฉายและเข้าประกวดในงานเทศกาลภาพยตร์เมืองคานส์ในปี 1999 และได้รับรางวัลช่างภาพยอดเยี่ยมที่งานเทศกาลภาพยนตร์ที่กรุงสต๊อคโฮม ผลงานถ่ายทำภาพยนตร์ที่สร้างชื่อของเขารวมไปถึงภาพยนตร์ของ แอนดรูว์ เลาและ อลัน มัก เรื่อง Infernal Affairs (ซึ่งเขาได้รับการเสนอชื่อเข้ารับรางวัลในงาน ฮ่องกง ฟิลม์ อวอร์ด) และผลงานของ ยู ลิ ไกว เรื่อง All Tomorrow
2046 - ดนตรีประกอบ
ชิกุรุ อุเมบายาชิ
งานดนตรีอาชีพของ ชิกุรุ อุเมบายาชิเริ่มต้นเมื่อเขาได้เป็นหัวหน้าวงที่เป็นเหมือนตำนานดนตรีร๊อคคลื่นลูกใหม่ของญี่ปุ่นชื่อ เอ็กซ์ ในช่วงปี 1980 และเมื่อวง เอ็กซ์แยกวงในปี 1985 อุเมบายาชิก็เริ่มงานเขียนดนตรีประกอบภาพยนตร์ เขาได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วในปีเดียวกันสำหรับผลงานเพลง Sorekara และ Tomoyo Shizukani Nemure ซึ่งไดรับหลายรางวัลทางดนตรีในประเทศญี่ปุ่น และในช่วง 20 ปี ที่ผ่านมานี้ อุเมบายาชิได้แต่เพลงประกอบให้กับภาพยนตร์มากกว่า 30 เรื่อง และหนึ่งในนั้นเป็นภาพยนตร์ผลงานของ โมริตะ โยชิมิซึ เรื่อง And Then ผลงานของ โยอิชิ ซาอิเรื่อง Where is the Moon ผลงานของ โทนี่ อู เรื่อง The Christ of Nanjing ผลงานของ แคลอร์ ไร เรื่อง The Floating Landscape และผลงานของ จาคอบ ชุน เรื่อง Midnight Fly อุเมบายาชิได้รับรางวัล Best Original Theme Song - Golden Horse Awards ในปี 2001 จากเรื่อง MIDNIGHT FLY ซึ่งมีหลายเสียงให้ความเห็นว่าเป็นเพลงประกอบที่เข้ากันได้ดีกับภาพยนตร์ ซึ่งก่อให้เกิดและเป็นผลของความรู้สึกมหัศจรรย์ หลังจากที่ได้แต่งเพลงที่มีความโดดเด่นให้กับผู้กำกับการแสดง หว่อง ในเรื่อง In The Mood for Love อุเมบายาชิ ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ก่อนหน้าที่จะทำงานเรื่อง 2046 ไม่นาน เขาได้ทำงานให้กับ จาง อี้โหมว เรื่อง House of Flying Draggers
เพียร์ ราเบน
เพียร์ ราเบนเป็นที่รู้จักจากที่เขาได้แต่งเพลงประกอบภาพยนตร์ให้กับ เรนเนอร์ เวอร์เนอร์ ฟาสไบเนอร์ ในช่วงปี 60 เขาได้พบกับ ฟาสไบเนอร์และได้ร่วมงานกันรวมทั้งเรื่อง Love is Colder than Death เรื่อง Beware of a Holy Whore เรื่อง Chinesisches Roulette เรื่อง Gotter Der Pest เรื่อง Whity เรื่อง Katzelmacher และเรื่อง Berlin Alexanderplatz ในงานของ ฟาสไบเนอร์คือ The BRD Trilogy — Ehe Der Maria Braun เรื่อง Die เรื่อง Lola และ Sehnsucht Der Veronika Voss เรื่อง Die ผู้ชมชื่นชมในผลงานการแต่งเพลงของเขา ปี 2003 ในงาน เทศกาลภาพยนตร์ที่กรุงเบอร์ลิน เขาได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Berlinale Kamera ให้กับผลงานที่เขาแต่งให้กับภาพยนตร์เยอรมัน เพียร์ ราเบน ยังได้แต่งเพลงให้กับงานเปิดงานเทศกาลภาพยนตร์เบอร์ลิน แฟนแฟร์ซึ่งยังได้ใช้บรรเลงกันมาเกือบ 30 ปี
ผลงานของเขาในภาพยนตร์เรื่อง 2046 เป็นการร่วมงานครั้งแรกของเขากับ หว่อง กา ไว และยังได้เพิ่มเติมความพิเศษทางดนตรีให้กับภาพยนตร์อีกด้วย--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นท)--

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ