กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--ธนาคารกสิกรไทย
กสิกรไทย หนุนสินเชื่อผู้รับเหมาก่อสร้าง เพิ่มสภาพคล่องรับตลาดอสังหาฯ บูม ประเดิมผู้รับเหมาในเครือศุภาลัยเพื่อรองรับการขยายโครงการอย่างต่อเนื่องในอนาคตให้วงเงินสูงสุด 10% ของยอดขาย นาน 2 ปี ทราบผลอนุมัติใน 2 วัน
นายวศิน วณิชย์วรนันต์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันที่อยู่อาศัยมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เนื่องจากความต้องการที่อยู่อาศัยในรูปแบบต่าง ๆ ของตลาดยังมีอยู่มาก ทำให้บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำต้องขยายโครงการที่อยู่อาศัยทั้งบ้านเดี่ยว ทาวเฮ้าส์ และคอนโดมิเนียมในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองหลักอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการขยายโครงการที่อยู่อาศัยอย่างรวดเร็วได้ส่งผลกระทบต่อผู้รับเหมาก่อสร้างขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีเงินทุนหมุนเวียนจำกัด ในการที่จะซื้อวัสดุเพื่อดำเนินการก่อสร้างโครงการให้เสร็จตามสัญญากับบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์
ดังนั้นธนาคารกสิกรไทย จึงเปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อผู้ประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องให้แก่ผู้รับเหมาที่อยู่เครือข่ายซัพพลายเชนของบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขนาดใหญ่ ให้มีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอเพื่อรองรับการรับเหมาก่อสร้างโครงการสร้างที่อยู่อาศัยโครงการใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น โดยธนาคารกสิกรไทยร่วมกับบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เป็นรายแรกในการเปิดโครงการฯ เพื่อสนับสนุนสินเชื่อแบบไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันแก่ผู้ประกอบการธุรกิจรับเหมาก่อสร้างทั่วประเทศที่ได้รับการคัดเลือกจากบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดยธนาคารจะให้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 10% ของยอดขายปีล่าสุดของผู้รับเหมาก่อสร้าง หรือในวงเงินสูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย คิดอัตราดอกเบี้ย MRR+3.0% ต่อปี ระยะเวลาปล่อยกู้ 2 ปี ซึ่งผู้รับเหมาจะทราบผลการอนุมัติภายใน 48 ชั่วโมง และสามารถใช้วงเงินได้ภายใน 7 วัน
ด้านนายอธิป พีชานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย จัดโครงการดังกล่าวขึ้นเพื่อสนับสนุนให้ผู้รับเหมารายย่อยมีเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินงานอย่างยั่งยืน โดยเพิ่มสภาพคล่องให้ผู้รับเหมาที่รับเหมาก่อสร้างโครงการของบริษัทฯ สามารถทำงานได้แล้วเสร็จตามวันที่กำหนด ส่งผลให้บริษัทฯ ส่งมอบที่อยู่อาศัยให้ลูกค้าได้ทันตามกำหนดเวลา สามารถรองรับการขยายงานในอนาคตและยังช่วยลดปัญหาเงินกู้นอกระบบของผู้รับเหมารายย่อยและลดปัญหาหนี้เสียในระบบสถานบันการเงินอีกด้วย
ทั้งนี้ บริษัทฯ กำลังขยายงานในพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และต่างจังหวัดอย่างต่อเนื่อง โดยสามารถรับสมัครผู้รับเหมารายย่อยจำนวนไม่จำกัด ทั้งงานถมดิน งานสาธารณูปโภค งานก่อสร้างบ้าน งานภูมิทัศน์ และงานซ่อมบำรุง ในทุกพื้นที่ของประเทศ ผู้รับเหมาที่สนใจร่วมโครงการฯ สามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ (02) 725-8888 ต่อ 310
นายวศิน กล่าวในตอนท้ายว่า การดำเนินธุรกิจให้สามารถยืนหยัดอยู่ได้อย่างมั่นคง จำเป็นต้องอาศัยแรงสนับสนุนจากพันธมิตรที่มีคุณภาพเพื่อให้สามารถรับมือกับการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น การพัฒนาโครงการต่าง ๆ ของธนาคารจึงมุ่งเน้นไปที่การส่งเสริมธุรกิจของลูกค้าในลักษณะ Value Chain คือช่วยสนับสนุนในทุกธุรกิจให้เชื่อมโยงกัน นอกเหนือไปจากสินเชื่อที่เป็นเงินทุนในการต่อยอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเป็น Trusted Partner ของลูกค้า ในการช่วยประสานให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างคล่องตัว ด้วยบริการในด้านอื่น ๆ เช่น Cash Management หรือเป็นที่ปรึกษาในการดำเนินธุรกิจของลูกค้า ซึ่งจะทำให้ลูกค้ามีโอกาสประสบความสำเร็จในภาวะของการแข่งขันที่สูงขึ้นได้