กรุงเทพฯ--31 ต.ค.--ก.ล.ต.
ก.ล.ต. มีแนวคิดที่จะปรับปรุงหลักเกณฑ์การให้บุคคลอื่นปฏิบัติงานบางส่วนให้แก่บริษัทหลักทรัพย์และผู้ประกอบธุรกิจสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (outsource) เพื่อให้การกำกับดูแล outsource ในตลาดทุนเป็นมาตรฐานเดียวกันทุกธุรกิจ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน ลดต้นทุน และเพิ่มความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ผู้ประกอบธุรกิจไม่มีความชำนาญ โดย ก.ล.ต. อยู่ระหว่างเปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวจนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2555
ผู้ประกอบธุรกิจสามารถ outsource งานที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการประกอบธุรกิจ เช่น การจัดทำบทวิเคราะห์การบริหารความเสี่ยง หรือการจัดการลงทุนของกองทุนรวมและกองทุนส่วนบุคคล ซึ่งต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น มอบหมายให้จัดการลงทุนไม่เกินร้อยละ 20 ของสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของ บลจ. แต่ละแห่ง และต้องเปิดเผยให้ชัดเจนในโครงการจัดการกองทุนรวม หรือในกรณีกองทุนส่วนบุคคลต้องได้รับความยินยอมจากลูกค้า นอกจากนี้ ผู้ประกอบธุรกิจจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดด้วยเช่น ต้องมีนโยบายการจ้างและทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร มีแผนรองรับกรณีผู้รับมอบหมายดำเนินการไม่ได้ รวมทั้งต้องมีมาตรการป้องกันความขัดแย้งทางผลประโยชน์ เป็นต้น
สำหรับขั้นตอนการ outsource หากจะมอบหมายให้บุคคลที่กำหนด ผู้ประกอบธุรกิจเพียงแต่แจ้งให้ ก.ล.ต.ทราบล่วงหน้า 15 วันก่อนเริ่มดำเนินการ ซึ่งบุคคลที่กำหนด ได้แก่ บริษัทในเครือซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ ก.ล.ต. กำกับดูแล หรือสำนักงานสอบบัญชีที่มีผู้สอบบัญชีได้รับความเห็นชอบจาก ก.ล.ต. รวมทั้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือบริษัทย่อยที่ตลาดหลักทรัพย์ถือหุ้นไม่น้อยกว่าร้อยละ 75ส่วนการ outsource ให้บุคคลอื่น ผู้ประกอบธุรกิจต้องยื่นคำขอและจะเริ่มดำเนินการได้เมื่อ ก.ล.ต. อนุญาตแล้ว
ในการนี้ ก.ล.ต. ได้เผยแพร่เอกสารการแก้ไขหลักเกณฑ์ดังกล่าวและเปิดรับฟังความคิดเห็นไว้ที่เว็บไซต์ ก.ล.ต.www.sec.or.th จึงขอเชิญผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้ที่สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นได้ที่เว็บไซต์ดังกล่าว หรือทางโทรสารหมายเลข 0-2263-6311 หรือทาง e-mail ที่ rangrong@sec.or.th ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2555