บลจ.กรุงไทยบุก ETF หุ้นกลุ่ม BANK ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ IPO 1 - 9 พ.ย.นี้

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 1, 2012 11:58 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--บลจ.กรุงไทย บลจ.กรุงไทยมั่นใจตลาดการลงทุนใน ETF ส่งกองทุนเปิด KTAM SET Banking ETF Tracker ประเดิมกองทุน ETF ที่อ้างอิงหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ กองแรกของประเทศไทย นายสมชัย บุญนำศิริ กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมเปิดจำหน่ายกองทุนเปิด KTAM SET Banking ETF Tracker ภายใต้รหัส “EBANK” ซึ่งเป็นกองทุนรวมอีทีเอฟที่อ้างอิงกับดัชนี “SET Banking Sector Index” กองทุนแรกของประเทศไทย โดยมีช่วงการเสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ระหว่างวันที่ 1 — 9 พฤศจิกายน 2555 มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท ลงทุนขั้นต่ำ 5,000 บาท (เพิ่มขึ้นป็นทวีคูณของ 1,000 บาท) กองทุนมีนโยบายเน้นลงทุนในหลักทรัพย์ที่เป็นส่วนประกอบของดัชนี SET Banking Sector Index ทั้งนี้ กองทุนจะเข้าจดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2555 โดยใช้ชื่อย่อในตลาดหลักทรัพย์ว่า “EBANK” จุดเด่นของกองทุน EBANK คือ ผู้ลงทุนมีโอกาสรับผลตอบแทนเคลื่อนไหวตามดัชนี SET Banking Sector Index หลังหักค่าใช้จ่ายของกองทุน โดยให้ความคล่องตัวในการซื้อขายแบบ Real Time ตามราคาในกระดานของตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วยราคาต่อหน่วยคิดเป็นเงินเพียงประมาณ 5 บาท และสามารถทราบราคาซื้อขายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอราคาปิดสิ้นวันเหมือนกองทุนรวมอื่นๆ นอกจากนี้ กองทุนยังมีนโยบายจ่ายเงินปันผลได้ไม่เกิน 4 ครั้งต่อปี และมีบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดูแลสภาพคล่อง ดัชนี SET Banking Sector Index ประกอบด้วยหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันประกอบด้วยหุ้นบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับธนาคารพาณิชย์ 11 แห่งได้แก่ BAY BBL CIMBT KBANK KK KTB LHBANK SCB TCAP TISCO TMB โดยแบ่งอัตราส่วนตามมูลค่าตลาด และปัจจุบัน SET Banking Sector Index คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 20% ของดัชนี SET Index ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2555 ดัชนี SET Index ปรับตัวเพิ่มขึ้น 26.67% ในขณะที่ดัชนีของหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวเพิ่มขึ้น 36.06% โดยคาดว่าทางกลุ่มธนาคารน่าจะยังได้รับอานิสงส์จากสินเชื่อรายย่อยที่เติบโตได้ดีทั้งจากสินเชื่อรายย่อย และสินเชื่อ SME โดยสินเชื่อรายย่อยนั้นคาดว่าจะได้รับแรงหนุนจากทั้งนโยบายรถคันแรก และบ้านหลังแรก ขณะที่ SME ก็ยังเติบโตได้ดีจากอุปสงค์ภายในประเทศที่ดีขึ้นจากนโยบายการขึ้นเงินเดือนและค่าแรงขั้นต่ำ อีกทั้งการลดอัตราภาษีนิติบุคคลลดลงเหลือ 23% ในปี 2555 และ 20% ในปี 2556 เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะผลักดันให้ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารดีขึ้นอีกด้วย ผู้สนใจลงทุนสามารถติดต่อขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ธนาคารกรุงไทย ทุกสาขาทั่วประเทศ และผู้ร่วมค้าหน่วยลงทุนที่ได้รับการแต่งตั้ง ได้แก่ บล.เคที ซิมิโก้ จำกัด (มหาชน) บล.เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน) และผู้ขายหน่วยลงทุนได้แก่ บล.ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บล.คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บล.ซีไอเอ็มบี อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บล.เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่บลจ.กรุงไทย โทร 02-670-4900 กด 9

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ