สมุนไพรสูตรต้นตำรับโบราณของจีน…สู่ทางเลือกใหม่จากวิถีธรรมชาติ

ข่าวทั่วไป Thursday November 1, 2012 14:07 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--แซนด์-เอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล เมื่อ 60 ปีผ่านมาเรื่องเล่าขานถึง อากง (ชิว เถ่า ซิน) ผู้เปิดตำนานยาสมุนไพรสูตรต้นตำรับโบราณจากจีน โดยเกิดอยู่ในแวดวงศาสตร์การแพทย์จีน ทั้งยังได้ฝึกบรือวิทยายุทธ์ศาสตร์ตำรายาต้นตำรับโบราณสูตรยาลับที่ซ่อนและสะสมในวัดเส้าหลินมานับพันปี ซึ่งที่นี่ถือว่าเป็นแหล่งที่รวมศาสตร์และศิลป์ประเภทต่างๆ อย่างลึกซึ้งและกว้างขวาง โดยเฉพาะด้านยาสมุนไพรที่มีประวัติอันเลื่องลือระดับโลก จนวิชาแก่กล้าตั้งแต่ครั้งวัยหนุ่ม แต่ด้วยในยุคนั้นความยากลำบากค่นแค้นที่บ้านเมืองจีนปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ อากงจึงหอบวิชาความรู้ตำราสูตรยาลับตั้งแต่สมัยราชวงศ์เซี่ย ซาง โจว จวบจนถึงราชวงศ์หมิง ซึ่งถือเป็นยุคตำราที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติยาสมุนไพรของจีน ซึ่งอากงได้สะสมประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมานานนับสิบปี แล้วข้ามน้ำข้ามทะเลสู่ผืนแผ่นดินไทย และมาเรียนรู้เป็นลูกมือร้านขายยาจีนที่รังสิต โดยในระหว่างนั้นไป-กลับเมืองไทยเมืองจีน เพื่อไปหาตำรับตำราเพิ่มเติม จนในที่สุดเมื่อทุกอย่างพร้อม อากงจึงไปเปิดร้านขายยาจีน ‘ ซิ่น อัน ตึ๊ง’ ที่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง เมื่อปี พ.ศ. 2495 จนมีชื่อเสียงไปทั่วทั้งจังหวัด ในฐานะต้นตำรับสูตรยาจีนคุณภาพ หลังจากสิ้นยุคอากง ต้นตำรับยาสมุนไพรจีนโบราณ ก็กลายเป็นมรดกตกทอดจากบรรพบุรุษสู่ทายาทรุ่นสอง โดย สุเพียร สุทธานุรักษ์ บุตรชายคนที่สี่ของอากง ได้เข้ามาสานต่อพร้อมศึกษาพัฒนาตำรับยาสมุนไพรจีนจนได้มาตรฐานระดับสากล “ผมชอบศิลปะ อยากจะเรียนด้านสถาปัตย์ แต่ตอนเด็กก็ต้องช่วยงานคุณพ่อ เวลามีคนมาซื้อยา เห็นคุณพ่อแมะ ท่านตรวจแล้วก็สั่งยา เห็นท่านหั่นยา อบยา ฆ่าเชื้อด้วยกรรมวิธีสมุนไพร บางทีก็รมกำมะถันเพื่อฆ่ามอด บางทีก็ผัดกับน้ำส้มสายชู บางครั้งก็รมครั่ง เพื่อตัดฤทธิ์ของยา ผมเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ได้ชอบด้านนี้ แต่มีอยู่อย่างหนึ่งที่ผมกลัวมากตั้งแต่เด็ก คือเวลาอย.(คณะกรรมการอาหารและยา) มาตรวจมาตรฐานแต่ละครั้ง ด้วยความที่ไม่รู้ เราก็ต้องเจอปัญหาบ้าง อย.มาทีไรผมสั่นไปหมด เพราะกลัวมากๆ พอดีพี่ชายอีกคนบอก รวมทั้งคนอื่นๆ ก็บอกว่าให้ไปเรียนด้านเภสัชที่ฟิลิปปินส์ และเรียนวิศวะเคมีด้วย ผมเลยจำเป็นต้องเรียนด้านนี้เพื่อให้รู้ เรียน 5 ปีจบก็ได้ใบประกอบโรคศิลป์ แล้วผมก็ไปเจอกับภรรยาซึ่งเขาเรียนด้านเภสัช จบที่จุฬาฯ และจบโท ด้านเภสัชโภชนศาสตร์ที่ธรรมศาสตร์ ก็เลยมาช่วยกันทำธุรกิจด้านยา จึงก่อตั้งบริษัท แซนด์-เอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด เมื่อปี พ.ศ. 2542 ช่วยกันคิดค้นและปรับปรุงผลิตภัณฑ์ให้มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง จนได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากผู้บริโภคเสมอมา ในฐานะหนึ่งในผู้เชี่ยวชาญและรอบรู้ทางด้านยาสมุนไพรชั้นนำ” สุเพียร สุทธานุรักษ์ ประธาน บริษัท แซนด์-เอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าว ด้วยวิสัยทัศน์จากทางผู้บริหาร ทั้งเภสัชกรสุเพียรและภรรยา-เภสัชกรหญิง มันทนา สองแรงแข็งขันบุกบั่นและบุกเบิกตั้งแต่ปี 2542 ก่อตั้งกิจการและผลิตยาสมุนไพรชนิดแคปซูลจัดจำหน่ายภายใต้ตรา ‘ ช่อเขียวมะกอก’ ซึ่งมีความลึกซึ้งซ่อนไว้ด้วยความหมายที่ล้ำลึก... “ ผมและภรรยาจบเภสัชฯ จึงนำเอาสีประจำคณะเภสัชศาสตร์ คือ สีเขียวมะกอก หรือที่เรียกว่า โอลีฟ กรีน มาใช้ เพื่อเทิดทูนศาสตร์ที่ให้ความรู้แก่เรามา เหมือนว่าเราเป็นหนึ่งกิ่งก้านที่แตกสาขาออกไป และช่อเขียวมะกอกก็ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งชัยชนะ เห็นได้จากช่อมะกอกที่นำมอบให้แก่ผู้ชนะการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 'ช่อเขียวมะกอก' จึงมีความหมายอันทรงคุณค่า ” หลังจากนั้นได้พัฒนาปรับปรุงเรื่อยมา จนในปี 2549 ได้รับมาตรฐาน GMP ประเภทยาแคปซูล สู่ระบบมาตรฐานตามหลักเกณฑ์วิธีการที่ดีในการผลิตยาจากสมุนไพรในระดับภูมิภาคอาเซียน(Good Manufacturing Practice : GMP) เมื่อปี 2549 เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับสากล และเป็นที่ยอมรับจากผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งโรงงานยังได้รับการประสานงานจากทาง อย. ให้เป็นโรงงานต้นแบบเพื่อเป็นที่ศึกษาดูงาน จากทั้งภาครัฐและเอกชน พร้อมขยายสายการผลิตเพิ่มในประเภทยาครีมกับเจล และยาเม็ด จนได้มาตรฐาน GMP และในปัจจุบัน บริษัท แซนด์-เอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด มีผลิตภัณฑ์ยาสมุนไพรภายใต้ชื่อ ‘ ช่อเขียวมะกอก’ เพื่อเป็นการขยายตลาดสู่กลุ่มเป้าหมายที่หลากหลาย และตอบสนองแต่ละความต้องการได้กว้างขึ้น โดยแบ่งออกเป็น 3 แบรนด์หลัก คือ ชิว เถ่า ซิน : สมุนไพรจีนจากสูตรต้นตำรับเพื่อการรักษาโรคให้ได้ผล ตามหลักการแพทย์แบบแผนจีน ช่อเขียวมะกอก : สมุนไพรไทยแท้สูตรดั้งเดิม เพื่อการรักษาโรคแบบปลอดภัย ไม่มีผลข้างเคียงจากยา และ SAND-M : สมุนไพรจากธรรมชาติ สำหรับกลุ่มผู้บริโภคสมัยใหม่ที่ใส่ใจเรื่องการดูแลสุขภาพ ประธาน บริษัท แซนด์-เอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่า แซนด์-เอ็ม ก้าวรุกสร้างคุณภาพระดับสูง เพื่อประสิทธิผล และความปลอดภัยต่อการดูแลสุขภาพที่ดี โดยโรงงานของ Sand-M ได้รับการควบคุมดูแลเป็นอย่างดีด้วยเทคโนโลยีทันสมัย สะอาด ปลอดภัย “การวิวัฒนาการของยาจีน ได้ก้าวสู่ทิศทางแห่งโลกยุคปัจจุบันในการผลิตยาต้นตำรับสมุนไพรจีนโบราณที่สืบทอดประสบการณ์การผลิตที่มีมาแต่ดั้งเดิม ต้องปรับเปลี่ยน ด้วยทุกอย่างต้องเร่งรีบ ฉะนั้นจากยาต้มสมุนไพรจีน ก็ต้องปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย คือใช้ง่าย สะดวก จึงกลายมาเป็นประเภทยาแคปซูล ยาเม็ด ยาครีมกับเจล และผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ภายใต้ชื่อ ‘แซน-เอ็ม ( Sand-M )’ พร้อมต่อยอดให้ทายาทรุ่นที่ 3 ลูกสาวทั้งสองคนคือ ภญ. สุมรรษณา และ จิรัชยา ให้เข้ามาสานงานต่อ โดยมุ่งมั่นที่จะสร้างแบรนด์คุณภาพระดับโลก เพื่อเป็นแบรนด์ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์ทางเลือกเพื่อการดูแลสุขภาพในระดับภูมิภาค ...ทำให้เราไม่หยุดยั้งที่จะพัฒนาต่อไปอย่างสม่ำเสมอ จึงได้ร่วมมือกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์แล็บจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่อื่นๆ อยู่ตลอดเวลา ทั้งนี้แซนด์-เอ็มได้ส่งออกสู่ระดับภูมิภาคอาเซียนแล้ว โดยส่งออกไปที่ ลาว พม่า แล้ว และการจะก้าวสู่เออีซีในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า เราได้เตรียมความพร้อมมานานแล้ว และมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพสูงขึ้นไปเรื่อยๆ เพื่อให้การผลิตของโรงงานทันสมัยสู่ระบบ PICS (The Pharmaceutical Inspection Conventions) อีกก้าวต่อไป” พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำการดูแลรักษาสุขภาพที่ดีว่า ทำร่างกายให้สมดุล โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ, รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพของตนเอง เช่น หากทานเจต้องเลือกทานให้ถูกต้อง ถ้าไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นโทษได้ เช่น เต้าหูทอดไม่ควร ควรนึ่งมากกว่า, รับประทานข้าวกล้อง เพราะมีสารอาหารและวิตามินมากมาย และอาหารจำพวกแป้งอย่าทานเยอะ เป็นต้น และการปฏิบัติตนสำคัญที่สุด คือ หากทำงานเครียด อย่าหักโหม หาทางพักผ่อนหรือรีแล็กซ์บ้าง พร้อมหมั่นหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องการดูแลสุขภาพตลอดเวลา โดยหาความรู้ได้จากสื่อต่างๆ ทั้งหนังสือและอินเตอร์เน็ต ถ้าร่างกายเจ็บป่วย ต้องเปิดใจยอมรับสุขภาพว่าป่วยจริง อย่าปล่อยทิ้งไว้ หรือหลอกตัวเอง ให้หาทางป้องกันรักษาตัวเองให้ดีให้หายขาด โดยไปพบแพทย์ หรือเภสัชกร พร้อมปรับเปลี่ยนปรับปรุงพฤติกรรมตนเองด้วย เช่น หากป่วยเป็นเบาหวาน ต้องควบคุมอาหารประเภทน้ำตาล เช่น น้ำอัดลม และผลไม้ที่ให้รสหวาน เช่น ส้มหวาน สับประรด ลำไย ลิ้นจี่ ควรงด แต่ให้รับประทาน แอ๊ปเปิ้ล ฝรั่ง หรือผลไม้ที่มีน้ำตาลน้อย มีกากใยสูง และมีวิตามินซี จะดีกว่า สำหรับข้าว ควรเลือกข้าวกล้อง หลีกเลี่ยงอาหารที่มีแป้งเพราะแป้งจะเปลี่ยนโมเลกุลเป็นน้ำตาล กรณีที่ป่วยเป็นโรคความดัน อย่ารับประทานเค็ม เผ็ด หรืออาหารที่ใส่ผงชูรส ควรหลีกเลี่ยง พร้อมปฏิบัติตนให้ถูกต้อง และถ้าป่วยเป็นโรคริดสีดวง อย่าปล่อยให้ท้องผูก รับประทานผัก-ผลไม้ให้มากขึ้น แต่ลดจำนวนอาหาร จำพวกเนื้อสัตว์ให้น้อยลง เป็นต้น และหากต้องรับประทานยา ควรจะเลือกให้ปลอดภัย และเพื่อการมีสุขภาพที่ดีขึ้น ต้องไปพบแพทย์ หรือเภสัชกรให้คำแนะนำหรือสั่งจ่ายยาให้ แต่การรับประทานยาจะเป็นตัวช่วยในการรักษาโรคได้ส่วนหนึ่ง แต่ต้องควบคุมพฤติกรรมของตนเอง หรือการปฏิบัติตัวต่อโรคนั้นๆ ด้วย ซึ่งแต่ละโรคก็จะมีอาหารเฉพาะกลุ่ม ควรเลือกให้ถูกต้องกับโรคและสุขภาพของเราด้วย “แซนด์-เอ็ม ทางเลือกใหม่จากวิถีธรรมชาติ (SAND-M Nature’ s Solution) อีกทางเลือกของการมีสุขภาพที่ดี เผยแพร่ข่าวในนาม : บริษัท แซนด์-เอ็ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด โทร. 02 883 3100, 02 434 1796 www.sandm.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ