กรุงเทพฯ--1 พ.ย.--เอ็กซ์ตร้าวาแกนซ่าพีอาร์
ครบวงจรทั้งหัวฉีดสเปรย์ หัวปั๊ม สำหรับผลิตภัณฑ์ที่บรรจุแก๊ส และไม่บรรจุแก๊ส รวมถึง บรรจุภัณฑ์ประเภทขวด PE, PP, PET ถังสี และแกลลอนน้ำมัน และกระบวนการผลิตเชิงบรรจุภัณฑ์ด้วยเทคโนโลยี IML (In-Mold Labeling) เจ้าเดียวในไทย ส่งผลโตต่อเนื่อง ตลอด 12 ปี คาดปีนี้โตจากปีที่ผ่านมากว่า 60% พร้อมเตรียมทุ่ม 300 ล้านบาท นำเข้านวัตกรรมการผลิต รองรับการเติบโต และอุตสาหกรรม รับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
เครือเอมกรุ๊ป กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมชั้นนำ ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิต และจัดจำหน่ายหัวฉีดสเปรย์ หัวปั๊ม สำหรับผลิตภัณฑ์ที่บรรจุแก๊ส และไม่บรรจุแก๊ส รวมถึงบรรจุภัณฑ์ประเภทขวด PE, PP, PET ถังสี แกลลอนน้ำมัน และกระบวนการเชิงบรรจุภัณฑ์ที่พร้อมสรรพด้วยเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย ได้มาตรฐานและห่วงใยสิ่งแวดล้อม จัดกิจกรรมนำสื่อมวลชนร่วมเยี่ยมชมกระบวนการผลิต ณ โรงงาน โดยมีพื้นที่รวมกว่า 18 ไร่ ตั้งอยู่ ณ ต.ท่าไข่ อ.เมืองฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา
นายดำรงพล วุฒิศิริ กรรมการและกรรมผู้จัดการ เครือเอมกรุ๊ป กล่าวว่า บริษัทฯ เริ่มก่อตั้งขึ้น โดยมีบริษัท เอมแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทแรก เมื่อปี พ.ศ. 2543 ทำธุรกิจขายหัวฉีดสเปรย์ หัวปั๊ม สำหรับผลิตภัณฑ์ที่บรรจุแก๊ส และไม่บรรจุแก๊ส รวมถึงบรรจุภัณฑ์ประเภทขวด PE PP และ PET รวมถึงถังสี แกลลอนน้ำมัน สำหรับอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ แล้วมีการพัฒนาต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่องสู่สินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์ อย่างครบวงจร โดยปัจจุบัน เครือเอมกรุ๊ป ประกอบด้วย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอมแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้า จัดจำหน่าย และกระจายสินค้า ด้าน บริษัท แอดวานซ์ อินโนเวชั่น แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ซึ่งเน้นในส่วนการผลิต และกระบวนการบรรจุภัณฑ์ต่างๆ และ บริษัท An Ich Minh Packing Trading and Service Co., Ltd. ประเทศเวียดนาม โดยเป็นผู้นำเข้า จัดจำหน่าย และกระจายสินค้าที่ประเทศเวียดนาม โดยในปัจจุบันรวมมีพนักงานทั้งสิ้น 300 คน
“ตลอด 12 ปี ที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นการทำธุรกิจบนพื้นฐานของการให้บริการที่ครบวงจร คือมาที่นี่สามารถได้รับสินค้าได้อย่างครบถ้วน และตรงตามความต้องการของลูกค้า ทำให้ลูกค้าได้รับความคุ้มค่าสูงสุดในเชิงวิศวกรรมและต้นทุน นอกจากนี้ ยังพัฒนาในส่วนของพาร์ทเนอร์ในด้านต่างๆ ที่ทำให้เรามีวัตถุดิบคุณภาพ ที่หลากหลาย และมีราคาที่เหมาะสมในเชิงการแข่งขัน ซึ่งส่งผลให้เรามีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมกว่า 500 รายในปัจจุบัน โดยเป็นบริษัทชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท I.P. MANUFACTURING Co., Ltd. บริษัท AUDACE INDUSTRIES Co., Ltd. บริษัท SHERWOOD CHEMICAL PCL. บริษัท BIO MANUFACTURING Co., Ltd. 5.OSOTSPA Co., Ltd. บริษัท U.R.CHEMICAL Co., Ltd. บริษัท BETTERWAY (THAILAND) Co., Ltd. และบริษัท GREENPACK Co., Ltd เป็นต้น โดยในปี 2555 คาดว่าจะมียอดขายโตขึ้นจากปีที่ผ่านมา 60%”
นายดำรงพล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนโรงงานและกระบวนการผลิต อยู่ในส่วนของ บริษัท แอดวานซ์ อินโนเวชั่น แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด แบ่งเป็นกระบวนการฉีด และกระบวนการเป่า ซึ่งถือว่าเป็นโรงงานที่ครบวงจร นอกจากนี้ ยังมีความโดดเด่นที่เทคโนโลยี IML หรือ In-Mold Labeling ซึ่งเป็นการใช้นวัตกรรมในการผลิตฟิล์มฉลากเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับบรรจุภัณฑ์ โดยถือเป็นผู้นำในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าว ซึ่งช่วยพัฒนาคุณภาพในเชิงบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ลดต้นทุน ลดเวลาในการผลิต ป้องกันการปลอมแปลงได้ นอกจากนี้ยังมีศักยภาพในการผลิตที่โดดเด่น ทั้ง Capacity ในการผลิตเป็นจำนวนมากในเวลาอันสั้น รวมถึงการ ให้ความสำคัญกับธุรกิจ SMEs ที่บริษัทฯ พร้อมจะช่วยเหลือในด้านบรรจุภัณฑ์เมื่อเป็นลูกค้า พร้อมกันนั้นยังเป็นโรงงานที่ห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม ไม่มีน้ำเสีย และปลอดสาร CFC
“ปัจจุบัน เรามีกำลังการผลิตรวม 180 ตัน/เดือน หรือประมาณ 2,100 ตันต่อปี และเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น เราได้ดำเนินการขยายศักยภาพอย่างเต็มรูปแบบ เช่น การลงทุนกว่า 300 ล้านบาท นำเข้านวัตกรรมด้านการผลิต ทั้งเครื่องเป่า และเครื่องฉีด ที่เป็น Hybrid ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยเราเป็นรายแรกในประเทศไทยที่สามารถใช้นวัตกรรมการผลิตดังกล่าวอย่างสมบูรณ์แบบ และโครงการก่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่ (Exclusive Plant) ที่จะเพิ่มการให้ความสำคัญของ GMP โดยมีมูลค่าโครงการ 400 ล้านบาท ที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2556 ซึ่งเชื่อว่าจะรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น หลังการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 นี้อีกด้วย” นายดำรงพล กล่าว ในตอนท้าย