สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันศุกร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Friday November 2, 2012 10:39 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,719 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,715 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.72 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,900 บาท กับ 25,000 บาท และกลับมาปิดที่ 25,000 บาท กับ 25,100 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,649 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 9,722 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 76 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 5% แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 4 % Silver Futures ลดลง 2 % GFZ12 ปิด 25,260 บาท และ GFG12 ปิด 25,400 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,260 บาท GF10G12 ปิดที่ 25,400 บาท SVZ12 ปิดที่ 997 สัญญา Comex ปิดลดลง 3.6 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,715.50 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 6.80 เซนต์ ปิดที่ระดับ 32.248 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,336.30 ตัน (คงทองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 85 เซนต์/บาร์เรล ปิดที่ระดับ 87.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้น 136.16 จุด ปิดที่ 13,232.62 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 53 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC ราคาทองคำปรับตัวลดลงในช่วงการซื้อขายเมื่อคืนนี้จากการรายงานตัวเลข ADP Non-Farm Employment Change ของสหรัฐออกมาดีขึ้นที่ระดับ 158,000 ตำแหน่ง มากกว่าการคาดการณ์ที่ 138,000 ตำแหน่ง รวมไปถึงการประกาศตัวเลข Unemployment Claims ที่พบว่าคนว่างงานในสหรัฐปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 363,000 ตำแหน่ง จากระดับครั้งก่อนที่ 372,000 ตำแหน่ง โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 3.6 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,715.5 เหรียญ/ออนซ์ ทั้งนี้จุดสนใจของสัปดาห์จะอยู่ที่การประกาศตัวเลข Non-Farm Payrolls ของสหรัฐในวันนี้ โดยมีการคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการจ้างงานนอกภาคการเกษตรเพิ่มขึ้น 123,000 ตำแหน่งในเดือนตุลาคม และอัตราการว่างงานดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 7.9% จากระดับ 7.8% นายเบอร์นาร์ด ดาดา นักวิเคราะห์จากนาทิซิส กล่าวว่า ก่อนการเลือกตั้งในวันอังคารที่จะถึงนี้ การประกาศตัวเลข Non-Farm Payrolls จะเป็นจุดที่นักลงทุนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งสหรัฐจะเผชิญกับภาวะ Fiscal Cliff ในอีก 2 เดือนข้างหน้า และหากมีการให้ความกังวลกับเรื่องนี้มากเท่าไรจะยิ่งส่งผลให้ราคาทองคำได้รับประโยชน์มากเท่านั้น ด้วยการกระตุ้นเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐที่ขึ้นอยู่กับสภาพตลาดแรงงาน จึงทำให้การประกาศตัวเลข Non-Farm Payrolls เป็นที่น่าจับตาอย่างใกล้ชิด คอมเมิร์ซแบงก์ กล่าวในรายงานว่า มาตรการ Operation Twist ที่กำลังมีอยู่ในขณะนี้จะหมดอายุในสิ้นปีนี้ ดังนั้นจึงเป็นการบังคับให้เฟดต้องตัดสินใจในการประชุมเดือนธันวาคมว่าจะมีการอัดฉีดสภาพคล่องต่อเพิ่มเติมเข้าสู่เศรษฐกิจหรือไม่ ซึ่งนั่นหมายถึงว่า หากมีการประกาศตัวเลขออกมาน่าผิดหวังจะเป็นเหตุให้เกิดการคาดหวังว่าจะมีการใช้มาตรการ QE3 ไปจนถึงสิ้นปี ซึ่งนั่นจะกดดันค่าเงินดอลลาร์ ในทางกลับกัน หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดีจะเป็นการลดความเป็นไปได้ในเรื่องดังกล่าว นอกจากนี้ ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอาจเกิดความผันผวนของราคามากขึ้น เนื่องจากในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายนจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งภาวะ Fiscal Cliff เข้ามาอยู่ในประเด็นความสนใจ ซึ่งราคาทองคำได้รับผลประโยชน์จากความกังวลที่ว่า สหรัฐจะเผชิญกับภาวะ Fiscal Cliff หากกลุ่มผู้กำหนดกฎหมายล้มเหลวที่จะป้องกันไม่ให้เกิดการเพิ่มภาษีและลดการใช้จ่ายภาคสาธารณะ ซึ่งจะมีการเริ่มต้นใช้ในปีหน้า รวมไปถึงการเปลี่ยนผู้นำของประเทศจีนที่มีกำหนดการในวันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายนก็เป็นความสนใจอีกเหตุการณ์หนึ่งเช่นกัน ปริมาณความต้องการทองคำในอินเดียลดลงไป เมื่อธนาคารกลางอินเดียได้ร่างแผนที่จะจำกัดเงินกู้ของธนาคารสำหรับการซื้อทองคำ นักวิเคราะห์ทางเทคนิคจากรอยเตอร์ชี้ให้เห็นว่า ราคาทองคำอาจมีการรีบาวน์อย่างมีขอบเขตไปสู่ระดับ 1,736 เหรียญ/ออนซ์ เนื่องจากมีตัวบ่งชี้โดย Falling Channel และ Fibonacci Retracement ในขณะที่ทางสกอเธียกล่าวในรายงานว่า ราคาทองคำกำลังเผชิญกับแนวต้านที่ระดับ 1,721 เหรียญ ในขณะที่แนวรับอยู่ที่ระดับ 1,693 เหรียญ ซึ่งเป็นจุด 38.2% retracement คือแนวขาขึ้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม และแนวรับถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1,661 เหรียญ ซึ่งเป็นระดับ 50% retracement ทางด้านตลาดทองคำแท่ง เทรดเดอร์ต่างๆ ในอินเดียดูจะยังคงอยู่นอกตลาด เพื่อรอการปรับฐานของราคาและจึงค่อยเข้าช้อนซื้อ โดยกลุ่มที่มีการเก็งกำไรในราคาที่สูงมีการคาดการณ์ว่า ปริมาณความต้องการทองคำของอินเดียจะปรับตัวสูงขึ้นในเดือนนี้เนื่องจากเทศกาลดิวาลี ซึ่ง HSBC กล่าวในรายงานว่า ราคาทองคำอาจได้รับการสนับสนุนจากเทศกาลของอินเดียก่อนถึงช่วงเทศกาลดิวาลีและช่วงเทศกาลแต่งงานของอินเดีย กลุ่มผู้สนับสนุนอุตสาหกรรมกล่าวว่า บริษัททองคำต่างๆ ของประเทศรัสเซียได้เพิ่มการผลิตทองคำ 3.1% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2012 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - ADP Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 162K คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 138 K ตัวเลขจริงที่ออก 158 K - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 369K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 371 K ตัวเลขจริงที่ออกมา 363 K - CB Consumer Confidence ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 70.3 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 72.4 ตัวเลขจริงที่ออกมา 72.2 - ISM Manufacturing PMI ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 51.5 ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 51.2 ตัวเลขจริงที่ออกมา 51.7 ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Non-Farm Employment Change ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 114 K ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 123 K - Unemployment Rate ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 7.8 % ตัวเลขที่คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 7.9% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำเมื่อวานมีการซื้อขายค่อนข้างคึกคักในช่วงตลาดลอนดอน โดยเปิดตลาดที่ระดับ 1,719 เหรียญ และราคาค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นโดยตลอด ขึ้นไปทำจุดสูงสุดประมาณ 1,727 เหรียญ และมีแรงเทขายทำกำไรในตลาด COMEX หลังจากที่ตัวเลข ADP Non-Farm Payrolls ออกมาดีกว่าที่คาด และตัวเลขอื่นๆ โดยภาพรวมออกมาค่อนข้างดีในภาคการผลิตของสหรัฐ ทำให้มีแรงเทขายทำกำไรและมีการแข็งค่าของเงินดอลลาร์อย่างรวดเร็ว จนมีแรงเทขายทองคำทำให้ราคาทองคำลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,712 เหรียญ และปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1715.5 เหรียญ MTS Gold วิเคราะห์ทางเทคนิคได้ว่า ราคาทองคำยังอยู่ในช่วงของการสะสมพลัง โดยเคลื่อนไหวในกรอบ 1,710 — 1,725 เหรียญ โดยให้ระวังตัวเลข Non-Farm Payrolls ที่จะประกาศในคืนนี้ซึ่งน่าจะส่งผลในเชิงจิตวิทยาของตลาด ยังมองว่า ให้ระวังเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นคล้ายกับวันศุกร์ที่แล้ว ที่ตัวเลขออกมาดี และตลาดอาจรับรู้ไปแล้ว ส่งผลให้ราคาทองคำมาดีดกลับในภายหลัง ซึ่งก็มีความเป็นไปได้เช่นกัน Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,180 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,360 บาท Gold Futures G12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,300 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,500 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,010 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวการณ์แกว่งตัวในกรอบ 1,710 — 1,725 เหรียญ เป็นลักษณะของการทำกำไรตามการแกว่งของราคา นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) เก็งกำไรในกรอบการแกว่งตัว ถือครองพอร์ท 40% รอจังหวะเข้าช้อนซื้อและขายทำกำไรเป็นช่วงๆ เท่านั้น นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง รอเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาบริเวณ 1,710 เหรียญ ถือครองพอร์ท 50 - 60% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ