กรุงเทพฯ--2 พ.ย.--อาซิแอม เบอร์สัน-มาร์สเตลเลอร์
บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) ประกาศศักยภาพความเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์คุณภาพ พลิกวงการเครื่องดื่มในประเทศไทยครั้งประวัติศาสตร์ ด้วยการแจ้งเกิด “เอส” (est) แบรนด์น้ำอัดลมคุณภาพสากล ส่งทัพผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมยกแผงภายใต้กลยุทธ์แบรนด์เดียว เดินหน้าสร้างความเป็นเจ้าตลาด “โฆษณาให้ถึงใจ ขายให้ถึงตัว” ดึงพลังคน-ผลิต-โลจิสติกส์-พันธมิตร เจาะฐานลูกค้า-ผู้บริโภค ประเดิมส่ง “เอส โคล่า” เป็นทัพหน้าสร้างปรากฏการณ์สุดขั้วทั่วประเทศ พร้อมเสริมทัพความสุดขั้วด้วยน้ำสีและน้ำขาวเร็วๆ นี้ ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 8,000 ล้านบาท
นายสมชาย บุลสุข ประธานคณะเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “วันนี้เป็นจุดเริ่มต้นประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของเสริมสุข ย่างเข้าทศวรรษที่ 6 พร้อมๆ กับเป็นการพลิกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของวงการเครื่องดื่มในเมืองไทย ด้วยการสร้างแบรนด์น้ำอัดลม “เอส” คุณภาพมาตรฐานสากล ตอกย้ำทิศทางการเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำอัดลมของเราเอง พร้อมขับเคลื่อนแบรนด์ “เอส” ให้ติดตลาดด้วยกลยุทธ์ “โฆษณาให้ถึงใจ ขายให้ถึงตัว” ที่นำพาเสริมสุขไปสู่ความสำเร็จเป็นเจ้าตลาดมากมาย และเป็นหัวใจในการปฏิบัติงานที่เรายึดมั่นมาจนถึงทุกวันนี้”
ดีเดย์ “ลังแรก บาทแรก” พิสูจน์ฝีมือเสริมสุขด้วยเดิมพันตลาดน้ำอัดลม 38,000 ล้าน
นายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การส่งแบรนด์น้ำอัดลม “เอส” ออกสู่ตลาดในวันนี้ เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญไม่ใช่เฉพาะเสริมสุขเท่านั้น แต่เป็นจุดเปลี่ยนของวงการเครื่องดื่มในประเทศไทย และเป็นความท้าทายบทใหม่ที่จะพิสูจน์ฝีมือของเสริมสุขที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญมากว่า 59 ปีในการเจาะตลาดน้ำอัดลมมูลค่า 38,000 ล้านบาท เสริมสุขจะเดินเกมรุกตลาดน้ำอัดลมทุกเซ็กเม้นท์ด้วยกลยุทธ์ภายใต้แบรนด์เดียว เปิดตลาดน้ำอัดลมทุกกลุ่มทั้งน้ำดำ น้ำสี และน้ำขาว เพื่อสร้างแบรนด์ “เอส” ให้ติดตลาดอย่างแข็งแกร่งในเวลาอันสั้น”เสริมสุขดีเดย์การขาย “ลังแรก บาทแรก” ด้วยน้ำอัดลม “เอส โคล่า” เพื่อสร้างปรากฏการณ์สุดขั้วให้กับคนไทยในวันนี้ และจะเสริมทัพด้วยน้ำสีและน้ำขาว เพื่อเติมความสุขทุกโอกาสให้กับคนไทยทั่วประเทศอย่างต่อเนื่อง
นายฐิติวุฒิ์กล่าวต่อไปว่า “ด้วยประสบการณ์ในตลาดน้ำอัดลมมาเกือบ 6 ทศวรรษ ทำให้เสริมสุขมีแต้มต่อในการพัฒนาน้ำอัดลม “เอส” ให้มีความโดดเด่นในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนารสชาติที่ถูกปากคนไทยมากที่สุด ประกอบกับการคิดค้นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ใหม่ 2 ขนาดเป็นครั้งแรกในตลาด คือ ขวดแก้ว 12 ออนซ์สำหรับดื่มคนเดียว และ PET 1 ลิตร สำหรับดื่มหลายคน พร้อมทั้งฐานร้านค้ากว่า 200,000 ร้านทั่วประเทศที่จะทำให้สินค้าของเราเข้าถึงผู้บริโภคในทุกๆ พื้นที่”
ระเบิด 5 ปรากฏการณ์สุดขั้วทั่วประเทศ ดันยอดขายปีแรกทะลุ 8,000 ล้าน
สุดขั้วที่ 1 แบรนด์ต้องโดนสุดขั้ว
น้ำอัดลม “เอส” ชื่อจำง่าย โดนใจ สื่อถึงความเป็นที่สุด เมื่อ est ตามหลังคำใดก็หมายถึงความเป็นที่สุด เช่นB-est หมายถึง ดีที่สุด Cool-est หมายถึงเท่ที่สุด เย็นที่สุด ภายใต้แบรนด์คอนเซ็ปท์ “สุดขั้วในแบบคุณ” ต้นแบบดีเอ็นเอของวัยรุ่น เข้ามาเติมนิยามความสุดขั้ว กระตุกทุกต่อมซ่าส์ให้ตื่นตัว ทำอะไรทั้งที ต้องแสดงความเป็นที่สุดเหนือใคร ทั้งนี้เพื่อเจาะกลุ่มเป้าหมายวัยรุ่นที่ชอบทำอะไรให้สุดๆ ไม่หยุดยั้ง รวมทั้งผู้บริโภคที่เป็นแฟนน้ำอัดลมตัวยงที่ชอบสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ
สุดขั้วที่ 2 รสชาติถูกปากคนไทย
น้ำอัดลม “เอส” ในทุกเซ็กเม้นท์ได้รับการพัฒนารสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองและถูกปากโดนใจคนไทย ซึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้บริโภค พบว่าผู้บริโภคเกือบ 77% ชื่นชอบในรสชาติของน้ำอัดลม “เอส” และจะซื้อดื่มแน่นอน
สุดขั้วที่ 3 ขนาดหลากหลายตอบทุกไลฟ์สไตล์
เสริมสุขได้วางจำหน่ายน้ำอัดลม “เอส” ในบรรจุภัณฑ์ทั้ง 7 ขนาดเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคอย่างลงตัว โดย 2 นวัตกรรมบรรจุภัณฑ์เป็นครั้งแรกในตลาดและเป็นเอกลักษณ์ของเสริมสุข ได้แก่
1) ขวดแก้ว 12 ออนซ์ ราคา 8 บาท ขนาดพอเหมาะสำหรับดื่มคนเดียวในช่องทางร้านอาหาร และ 2) ขนาด PET1 ลิตร ราคา 20 บาท ขนาดคุ้มค่าดื่มได้หลายคน นอกจากนี้ ยังมี 3) คูลแฮนด์ 250 มล. ราคา 10 บาท ซื้อง่ายไม่ต้องทอนไม่ต้องคืนขวด 4) ขวด PET 455 มล. 12 บาท ขนาดพอเหมาะพกพาสะดวก 5) ขวด PET 480 มล.15 บาท จำหน่ายเฉพาะในร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น 6) กระป๋อง 325 มล. ราคา 14 บาท บรรจุภัณฑ์ยอดนิยมสำหรับคนชอบดื่มแช่เย็นๆ และ 7) ตู้กด Post Mix
สุดขั้วที่ 4 เกิดให้เปรี้ยงด้วยโฆษณาให้ถึงใจ
เสริมสุขจัดเต็มกลยุทธ์ทางการตลาดและปฏิบัติการสุดขั้วทุกช่องทางโดยใช้งบประมาณแจ้งเกิด 300 ล้านบาทช่วงเปิดตลาด เพื่อผลักดัน “เอส” ให้เป็นน้ำอัดลมยอดนิยมติดตลาด ด้วยการนำ 3 ไอดอลแม่เหล็กของวัยรุ่น“บี้-โตโน่-ไมค์” ที่สะท้อนดีเอ็นเอของแบรนด์ “เอส” ได้อย่างลงตัวเนื่องจากเป็นศิลปินที่ประสบความสำเร็จสุดขั้วจากความสามารถ “ดังเพราะฝีมือ ไม่ใช่หน้าตา” โดย บี้-สุกฤษฎิ์ สื่อถึงความเท่สุดขั้ว โตโน่-ภาคิน สื่อถึงความสนุกสุดขั้ว และ ไมค์-พิรัชต์ สื่อถึงความซ่าสุดขั้ว โดยประเดิมยิงภาพยนตร์โฆษณาและกิจกรรม Teaser ตามด้วยภาพยนตร์โฆษณาที่ลงทุนใช้เทคนิคถ่ายทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิคทั้งเรื่องเพื่อสร้างความสุดขั้วให้ผู้บริโภคได้สัมผัส พร้อมทั้งสื่อโซเชียลมีเดีย เจาะทุกกลุ่มเป้าหมายในเวลาสั้นผ่าน www.estthai.com และwww.facebook.com/estcola พร้อมทั้งสื่อสนับสนุนเต็มรูปแบบ นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรมแจกชิมเครื่องดื่ม “เอส” ให้กับกลุ่มเป้าหมาย 1 ล้านคนทั่วประเทศ
สุดขั้วที่ 5 ขายให้ถึงตัว
เสริมสุขอยู่ในวงการน้ำอัดลมมากว่า 59 ปี เรามีต้นทุนด้านคนที่มีประสบการณ์ การผลิต และระบบโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน 8,000 คน โรงงาน 5 แห่ง รถขาย 1,200 คัน และตู้เย็น 150,000 ตู้ และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้น คือ พันธมิตรและร้านค้ากว่า 200,000 แห่ง ที่ให้กำลังใจเสริมสุขมาโดยตลอดและพร้อมให้การสนับสนุนน้ำอัดลม “เอส” อย่างเต็มที่ ซึ่งจะทำให้น้ำอัดลม “เอส” เข้าถึงผู้บริโภคทุกพื้นที่ทั่วไทยได้ในทันทีนับตั้งแต่วันแรกที่ขาย
“ผมมั่นใจว่า ด้วยการสนับสนุนจากทุกฝ่าย ตลอดจนความสุดขั้วของสินค้า กิจกรรมการตลาดและปฏิบัติการขายที่ครบวงจร และศักยภาพของเสริมสุข จะเป็นปัจจัยผลักดันให้ “เอส” เป็นน้ำอัดลมขวัญใจคนไทย และสามารถบรรลุยอดขายปีแรก 8,000 ล้านบาทได้อย่างแน่นอน” นายฐิติวุฒิ์กล่าวทิ้งท้าย