กรุงเทพฯ--22 ก.ย.--ไฟว์สตาร์ โปรดักชั่น
สัมภาษณ์ ภาณุ สุวรรณโณ : อู รับบทเป็น การิน ในอุกกาบาต
- อุกกาบาตมันน่าสนใจตรงไหน อูถึงได้เข้ามาร่วมงานตรงนี้กับคุณบัณฑิต
คือมีอยู่ช่วงหนึ่งเข้าไปหาอาบัณฑิตที่บ้าน อาก็ถามว่าสนใจงานที่มีความแปลก ความใหม่บ้างไหม อาก็เล่าให้ฟังว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนที่มีพลังภายในพิเศษ ซึ่งเป็นผลที่ได้มาจากธรรมชาติ แต่เรื่องนี้เล่นร้ายเลยนะ สนใจไหม?
- เป็นร้ายเรื่องแรกเลยรึเปล่า
เป็นเรื่องแรกครับ ที่รับเล่น แค่มันยังไม่ได้ออกอากาศเท่านั้นเอง คือตอนนั้นก็สนใจอยู่เป็นทุนเดิมอยู่แล้วเพราะยังไม่เคยเล่นบทนี้ และอีกอย่างบทที่เคยเล่นก็เริ่มซ้ำๆ ยิ่งเล่นอะไรที่ซ้ำๆ กันคล้ายๆ จะหมดไฟเอา อยากเปลี่ยนดูบ้างคือผมเป็นคนที่ชอบอะไรที่ใหม่ๆ ด้วย ก็ตอบตกลงเลย และเรื่องนี้มันค่อนข้างแฟนตาซีด้วย
- ตอนแรกที่เรารับรู้ว่าบทการินเป็นตัวร้ายอูตีความจากบทยังไงถึงความร้ายกาจของการิน
คือ ตัวการินเป็นคนที่มีพลังจิต มีความพิเศษ การตีความจากบทเราก็ต้องอาศัยจินตนาการอย่างมาก ประกอบกับผมไม่ได้เล่นช่วงแรกๆ ที่เป็นเด็กการรับรู้ข้องมูลตรงนั้นต้องอาศัยการพูดคุยกับอาบัณฑิต และทีมงานด้วย อาก็จะเล่าให้ฟังถึงที่มา-ที่ไปของตัวการินว่าเป็นมายังไง ทำไมถึงมีพลังพิเศษนี้ได้ มันเกิดขึ้นมาจากอะไร ตัวการินตอนที่เกิดมามีลูกอุกกาบาตมาตกตอนที่แม่ของเขาจะคลอดตัวเขา แต่ยังไม่ทันเกิดแม่ตายก่อน ก็มีฝรั่งที่เป็นมิชชั่นนารีมาผ่าท้องเอาตัวการินออกมา แล้วก็เอาไปเลี้ยง ในเรื่องจะมีคาแรกเตอร์ที่ดูน่ากลัวมีใส่คอนแทรกสีเขียวและสีเทา สีเขียวจะอยู่ในช่วงที่ยังไม่มีพลังมาก หรือยังไม่ได้ใช้พลังหรือจะฆ่าใคร คืออยู่ในช่วงปกติตาจะสีเขียวตลอด พอเริ่มที่จะร้าย เริ่มที่จะฆ่าคนโดยใช้สื่อของละครเล่ คือจะทำเป็นเหมือนพวกมาเล่นละครเล่ในหมู่บ้านและจากนั้นก็จะใช้พลังจิตสะกดจิตและก็ฆ่าคนทั้งหมู่บ้าน ตรงนี้จะเริ่มมีสีผิวที่เข้มขึ้น ตาก็จะใส่คอนแทรกสีเทา เพื่อให้ดูน่ากล้วมากขึ้น
- เรื่องนี้มีแอ็คชั่นต่อสู้ด้วย สำหรับอูแล้วเป็นหนังแอ็คชั่นเรื่องแรกด้วยรึเปล่า
ไม่ใช่เรื่องแรกที่แอ็คชั่น แต่ เป็นเรื่องที่ต้องขึ้นสลิง เพราะมันแอ็คชั่นจัดต้องสู้กับต็อก ขึ้นสลิงก็แปลกดีตื่นเต้นด้วย มันสูงนะ แรกๆจะกลัวตอนหลังเริ่มมีท่า แรกผมจะกลัวขอโดดเล่นก่อนเพื่อให้ชิน ท่ามันก็เลยออกมาไม่สวย พอโดประมาณครั้งที่ 3 ก็เริ่มลองโพสต์ท่าดูให้มันมีลีลาที่แปลกออกไป พอโดดไป 4 ครั้ง 5 ครั้งก็ได้ท่าที่สวยขึ้นเรียกว่ามีพัฒนาการที่ดีขึ้น และก็เจออุบัติเหตุด้วย เล่นๆอยู่ขาพลิก ตอนนั้นผมก็ต้องมีหยุดไป คือจะถ่ายแบบไม่ต้องเห็นขา และก็ฉากที่ต้องสู้กันที่ต้องเห็นขาก็จะเป็นขาคนอื่นแทน ไม่งันไม่ไหวคือเช้ามากมันบวมมากๆ ผมก็ไปให้เขานวดพอดีขึ้นก็มาถ่ายต่อ
- ร่วมงานกับอาบัณฑิตมากี่เรื่องแล้ว
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ 2 เรื่องแรกคือ 14 ตุลาสงครามประชาชนครับ สำหรับเรื่องนี้จะแตกต่างกันเยอะในเรื่องของบทบาทที่ได้รับและก็เนื้อหา แต่ในส่วนของการทำงานของอาบัณฑิตจะเหมือนเดิม คือจะให้นักแสดงครีเอทเอง แรกๆ เข้ามาใหม่ๆ อาจะบอกหมด พอมาหลังๆเริ่มให้เราคิดเอง จินตนาการเอาเอง อย่างสมมุติให้เราเดินไปที่ตู้ คือเดินธรรมดาก็ได้นะ อาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ถ้าเราเดินแบบมีการเคลื่อนไหว หรือใส่อารมณ์ไปด้วยให้มันดูน่ากลัวอาก็จะชอบมากกว่า คือมันก็แล้วแต่เรา แต่ถ้าเราไม่คิดหรือคิดไม่ออกอาก็จะบอกว่าไหนลองทำท่านี้ให้ดูหน่อยซิ ประมาณว่าอาบัณฑิตอยากให้เรามีส่วนร่วมด้วย ถ้าพูดถึงความดุก็มีบ้างเป็นบางช่วงแต่ผมเข้าใจนะเพราะอาเขาทำเองทุกอย่างตั้งแต่เขียนบทยันกำกับเอง พอไม่ได้อย่างที่คิดมันก็มีหงุดหงิดบ้าง พอจบงานก็ไม่มีอะไร กับทีมงานก็คุ้นเคยกันดีจะผูกพันกันมากตอน 14 ตุลาฯ เพราะเรื่องนั้นเกือบปีครับ
- พอจะทราบไหมว่าทำไมคุณบัณฑิตถึงอยากให้เราเล่นเป็นตัวร้าย
จริงๆ อาก็ไม่ได้บอกอะไร คงเป็นเพราะผมตาโต ตาดุมั้ง และแก่ก็คงอยากให้ผมเปลี่ยนรูปแบบการแสดงด้วยมันจะได้มีอะไรที่หลากหลายมากขึ้น
- ฉากไหนที่ยากและหนักใจสำหรับอู
จะเป็นฉากที่จะต้องเล่นกับเอฟเฟคต่างๆ เช่นพัดลม อย่างเวลาที่การินจะมา หรือจะไปจะต้องมีลมพายุ เขาก็จะใช้พัดลมตัวใหญ่ๆ เป่า แล้วเราต้องทำตาโตตลอด ห้ามหลับตา และมันจะแสบตามากๆ ยิ่งเราใส่คอนแทรกเลนส์เป็นอะไรที่ทรมานมากๆ วันหนึ่งผมจะหยอดตาเป็น 100 รอบ เรื่องนี้ฝุ่นใบไม้เยอะมากเพราะไม่ว่าการินจะเคลื่อนตัวไปหนก็จะมีใบไม้ พายุ มาด้วยตลอด เรื่องนี้จะใช้ใบไม้เยอะมากๆ แรกๆ ปัญหาจะอยู่ที่การใส่คอนแทรกเพราะใส่ไม่เป็น หลังๆ เริ่มเซี่ยนใส่ๆ ถอดๆ มีอีกฉากหนึ่งตอนที่ต่อสู้กันและก็จะมีกำแพงฟางใหญ่มาก ผมก็ต่อสู้ๆ กับพี่ต็อกเสร็จแล้วเสียหลักพุ่งชนใส่กำแพงฟาง ตรงที่อาเขาชี้จุดเอาไว้ พุ่งเลยจุดก็ไม่ได้ พอทะลุกำแพงฟางก็จะตกลงไปบนกองฟางที่เขากองเอาไว้ ทีนี้ถ้าเราลงไม่เป็นแขนก็อาจหักได้ คือเราจะต้องรู้จังหวะว่าจะโดดยังไง ให้ได้ภาพที่สวย ทะลุตรงจุด พร้อมกับมีท่าลงที่ไม่ทำให้เราบาดเจ็บ และตอนนั้นขาผมบวมด้วยก็จะเอาหลังลงก่อนจุกไปเลย ฉากนี้ผมว่ายากนะถ่ายตอนนั้นตั้ง 7 เทค กล่าวจะได้ดี ได้สวยก็น้วมเหมือนกัน
- ทำงานกับต็อกเป็นยังไงบ้างทราบว่าต้องเข้าฉากด้วยกันเยอะ
พี่ต็อกเขาจะขาบู๊อยู่แล้ว และก็แอคทีฟตลอด นั่งๆ อยู่ด้วยกันดีๆ หันไปอีกทีแก่จะขึ้นไปนั่ง บนต้นไม้
พี่ต็อกเขาจะคอยเตือน คอยบอกตลอดว่า อย่าลืมใส่รึยังกันกระแทก ต้องเซฟนะอย่าลืม อย่าทำเป็นเก่ง เดี๋ยวจะเดี้ยง คือพี่เขาเจอมาเยอะ เขาเล่นแอ็คชั่นมามากด้วย เขาก็จะคอยเตือน แต่บางทีเราก็แอบถอดบ้าง เพราะมันคันนะและก็อึกอัด
- และกับอุ้มเป็นยังไงบ้าง
กับอุ้มผมจะสงสารเขานะ เขาจะต้องท่าตัวดำทั้งเรื่อง อุ้มจะเป็นคนชอบแพ้ อย่างคืนนี้ถ่านเสร็จ เช้ามาหน้าอุ้มจะมีเม็ดขึ้นเต็มไปหมด วันไหนที่เขาไม่ต้องทาตัวจะดีใจมาก และในเรื่องอุ้มจะมีฉากสวยนิดเดียวเอง
- การทำงานส่วนไหนที่ประทับใจในเรื่องนี้
ประทับใจตรงที่เราได้ทำอะไรที่แปลกออกไป เหมือนเราได้มีการพัฒนาหาอะไรใหม่เข้ามาในชีวิต สนุกดี และมันก็เป็นหนังของอาบัณฑิตด้วย ผมว่าเรื่องนี้เล่นยากด้วย มันไม่ได้เล่นเฉพาะแค่สายตาและคำพูดเท่านั้น มันต้องรู้สึกออกมาจากข้างใน คือเราจะต้องเชื่อในสิ่งที่เราคิด และพูดออกไปว่าเป็นสิ่งที่ถูกต้อง ฝ่ายตรงข้ามของเราคือคนที่ผิด คิดผิดทำผิด แล้วท่าทีที่แสดงออกมามันก็จะดูร้าย และยิ่งมีเสื้อผ้าการแต่งกายมาประกอบแล้วยิ่งดูน่ากลัว ก็มีคนพูดเยอะนะครับว่าใส่คอนแทรกเลนส์แล้วเดี๋ยวหน้าจะหวานนะ แต่ใส่ออกมาแล้วมันก็ไม่ใช่ สำหรับฉากที่ประทับใจจะเป็นตอนที่แม่ของการินตายตอนจบ คือ การินใช้พลังจิตปลุกแม่ให้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ปลุกพี่ให้ฟื้น คือจะปลุกทุกอย่าง คือจริงๆ การินเป็นคนรักครอบครัวมาก เขาอยากให้ทุกคนมาอยู่รวมกัน ทั้งๆที่เป็นวิญญาณก็ยังอยากที่จะให้อยู่ ทียนี้เขาก็จะรอวันที่อุกกาบาตตกอีกครั้งเพื่อที่จะสามารถใช้พลังที่มีอยู่ทำให้แม่ฟื้นขึ้นมา พอฟื้นขึ้นมา หมอโอมก็เข้ามาทำลายไม่ให้มันเกิดขึ้น เพราะมันเป็นสิ่งที่ฝืนธรรมชาติก็เกิดการต่อสู้กัน แล้วทีนี้มันก็เกิดการผิดพลาดแม่ของการินก็โดนอุกกาบาตตายไป และก็โดนพี่รวมทั้งโดนตัวการินตายไปด้วย คือตายหมดทั้งครอบครัวผมว่ามันเศร้านะ คือการินพยายามทำทุกอย่างให้ครอบครัวคงอยู่แต่ว่าไม่สำเร็จ จริงการินจะเป็นคนที่เหงานะอยากมีครอบครัวเหมือนคนอื่น แต่ก็ไม่สามารถเขาเลยพยายามที่จะรั้งทุกอย่างเอาไว้
- ในเรื่องตัวการินจะมีความแค้นมากมาย คุณบัณฑิตอธิบายให้ฟังไหมว่าการินแค้นอะไรขนาดนั้น
ตอนแรกๆ จะงงมาก ที่นี้อาก็เลยบอกว่า ตัวการินมันพิเศษคือจะสามารถย้อนอดีตได้โดยใช้พลังที่ได้จากอุกกาบาต และย้อนกลับไปเห็นแม่ตอนที่กำลังจะคลอดตัวการินเองถูกรังแก ถูกไล่ออกจาหมู่บ้านแล้วไปเจอรถของแม่พี่ต็อกเล่นเป็นหมอโอมกำลังเดินทางไปคลอดหมอโอมที่สุขศาลา ทีนี้แม่ของการินก็โบกมือขอความช่วยเหลือแต่ก็ไม่ได้รับความช่วยเหลือ ที่นี้ก็ต้องไปคลอดการรินกลางป่าในสุสานโบราณ แล้วแม่ก็ตายไป ทำให้การินเกิดความรู้สึกว่าทำไมครอบครัวของหมอโอมไม่ดีกับแม่เรา การินเองก็เลยรู้สึกไม่ดี อันนี้เป็นความแค้นช่วงหนึ่งและ ที่นี้พอโตขึ้นคือการินจะมีพี่สาวอีกคนหนึ่งชื่อกันตา เจ้ามิชชั่นนารีที่ช่วยเรามาเลี้ยงดูการินกับพี่สาวมาตั้งแต่เด็กกลับมาทำไม่ดีอีก มาข่มขืนกันตาแต่ไม่สำเร็จนะ กันตาตกลงมาจากบ้านตายเสียก่อน ทีนี้มันก็เลยเป็นแค้นสะสม การินก็เลยยิ่งมีความรู้สึกว่าโลกนี้ไม่มีใครที่ดีเลย และบวกกับพลังที่มีอยู่เหนือมนุษย์ก็เลยยิ่งบ้าล้างแค้นใหญ่เลย คือการินจะมีความคิดอยู่ตลอดว่าคนไม่มีใครดี แม้แต่คนที่ดูเหมือนจะดี ช่วยเหลือเราแต่กับมาข่มขืนพี่สาวอีก คือการินเขาโดนกระทำเขาก็คิดว่าไม่มีความยุติธรรมสำหรับเขา และไม่มีใครที่ดีกับเขา นอกจากการินจะสามารถใช้พลังจิตในการย้อนอดีตแล้ว ยังสามารถสร้างภาพลวงตาได้อีก คือจะสามารถปลอมตัวเป็นคนโน้นคนนี้ได้ด้วยด้วยการใช้พลังจิต และการินก็จะมีสมุนเป็นอีกา เรื่องนี้จะมันส์มาก
- คิดว่าหนังเรื่องนี้คนดูจะได้รับอะไรกลับไป
ความสนุก ความบันเทิงอันแน่ๆ เพราะมันจะมีหลากหลายรสชาติมาก และอีกอย่างมันก็มีเรื่องของสัจจะธรรมเข้ามาเกี่ยวคืออย่าไปยึดติด มันไม่มีอะไรที่ยั่งยืน คงทน ถาวร อย่าไปอาฆาตแค้น ควรปล่อยว่างบ้าง
- เรื่องนี้ถ่ายนานแค่ไหน
ของผมจะเป็นป่าทั้งนั้น ถ่ายหนังกับอาไม่คอยได้เข้าเมืองเท่าไหร่ จะเป็นป่าตลอด ถ่ายนานประมาณ 3 เดือน
- มีบทไหนที่อยากเล่นและยังไม่ได้เล่น
อยากเล่นบทที่ต้องใช้จินตนาการของตัวเองเยอะๆ เช่น อาจจะเป็นใบ้พูดไม่ได้ และต้องใช้จินตนาการของตัวเอง คืออยากรู้ว่าตัวเองสามารถทำได้แค่ไหน ผมว่ามันท้าทายนะ
- หนังกับละครชอบแบบไหนมากกว่า
คือ 2 อย่างมันจะไม่เหมือนกันนะ ผมจะชอบหนังนะ อาจจะเป็นเพราะเรามาจากตรงนั้น มันเป็นฟิล์ม มันไปได้ทั่วโลก ไม่มีวันตาย มันมีเสน่ห์นะ มันจะต่างกับละครตรงนี้ ละครจะจบเร็ว หนังจะท้าทายด้วยนะเพราะฟิล์มค่อนข้างจะแพง เราก็ต้องไม่พลาดอาจะพูดบ่อยมากเลย ขอเทคเดียวนะ ผมว่ามันยาก
- เวลาที่เราทำงานและเกิดปัญหาต้องแก้ไขสถานการณ์อูมีเทคนิคอะไรเฉพาะบ้างไหม
อย่างแอ็คชั่นที่ต้องขึ้นสลิงอันนี้ไม่เท่าไหร่ และตรงที่ต้องมีเอฟเฟคเช่นระเบิด อันพลาดไม่ได้ต้องแม่นในเรื่องของจังหวะ ส่วนหนึ่งคือ เราต้องไม่ดื้อกับผู้กำกับ อย่าดื้อในใจ คืออาบัณฑิตเขาจะว่างไว้หมดแล้วนะ
- ตอนนี้มีโปรเจ็คอะไรใหม่ๆ
มีหนังอีกเรื่องหนึ่งมนตร์รักร้อยล้าน มีต้องร้องเพลงด้วย น่าจะเข้าก่อนอุกกาบาต ส่วนละครตอนนี้มีเรื่องเดียวเชลยบาป หลังจากนี้ยังไม่ทราบทางช่อง 7 เขาก็ดูๆ ให้ด้วย คือผมเซ็นสัญญากับช่อง 7 ไปแล้วยาว 5 ปี แต่ผมอาจจะเบรคๆ ตัวเองด้วยไม่งันมันจะไม่เป็นผลดีกับตัวเอง เพราะบางทีถ่ายเรารับบทอะไรที่มันซ้ำๆ กันมันจะดูไม่มีการพัฒนาจะน่าเบื่อ บางทีก็ต้องมีเวลาในการล้างคาแรคเตอร์เก่าๆ และหาอะไรใส่ใหม่ให้มีการพัฒนาขึ้น ผมว่าจะดีกว่า ผมว่าตัวผมก็ยังใหม่ๆ ในวงการนี้เพิ่งเข้าวงการได้ 3 ปี เองครับผมจะเริ่มจากหนังเรื่องแรก 14ตุลาฯ โรงแรมผี สาปเสือฯ ครูแก และอุกกาบาต ถึงจะมาเป็นละคร ตรงนี้อาบัณฑิตจะช่วยดูให้ด้วย ให้คำแนะนำ
- และอนาคตอยากทำอย่างอื่นอีกไหมที่นอกเหนือจากละคร หนัง
ผมอยากทำฟาร์มเกษตรเลี้ยงสัตว์อย่างพวกไก่ไข่ แต่ไม่ฆ่านะครับ จริงๆผมชอบตรงนี้ และก็เรียนมาด้วย ผมจบที่ มหาวิทยาลัยเอเชีย คณะวิศวกรรมศาสตร์ ทางด้านเครื่องกล แต่ก่อนที่จะเข้ามาเรียนวิศวะ ผมมีพื้นฐานทางด้านเกษตรอยู่ และที่บ้านก็ทำการเกษตรด้วย งานช่าง งานซ้อมผมก็เรียนไว้เพื่อมาพัฒนาทางด้านงานเกษตรมากกว่า ที่บ้านทำสวนผลไม้ แต่ผมคิดว่าผมจะทำเกษตรประยุคมากกว่า เป็นแบบเกษตรตามโครงการพระราชดำริ เหมือนพวกเกษตรพอเพียง ผมมองว่าอนาคตประเทศไทยจะเป็นประเทศที่เรียกว่าครัวโลก ส่งออกอาหาร เราก็เลยมองตรงนี้ด้วย ผมว่ามันน่าสนใจ--จบ--
--อินโฟเควสท์ (นห)--