กรุงเทพฯ--5 พ.ย.--คิธ แอนด์ คินฯ
ดั๊บเบิ้ล เอ เปิดตัวแคมเปญ “ปลูกปุ๊บ ก็ได้ออมปั๊บ” ปล่อยหนังโฆษณาต้นกระดาษชุดใหม่ 3 ซีรีส์ หวังกระตุ้นเกษตรกรไทยเปลี่ยนคันนาเป็นเงินออม สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับพื้นที่ว่างของตนเอง และล่าสุดจับมือธนาคารกรุงไทย ปล่อยสินเชื่อ “KTB Micro Bank” เพื่อเกษตรกรผู้ปลูกและดูแลต้นกระดาษ วงเงิน 500 ล้านบาท เพื่อช่วยแก้ปัญหาหนี้นอกระบบและเป็นแหล่งทุนหมุนเวียนให้เกษตรกร เพียงเข้าร่วมโครงการปลูกต้นกระดาษตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป สามารถขอสินเชื่อได้รายละ 200,000 บาท
นายชาญวิทย์ จารุสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ดั๊บเบิ้ล เอ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปลายปีนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้เปิดตัวแคมเปญ “ปลูกปุ๊บ ก็ได้ออมปั๊บ” ด้วยงบกว่า 40 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาใช้พื้นที่ว่างบนคันนามาสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นรายได้เสริมให้กับครอบครัว โดยมี คุณปอ ทฤษฎี สหวงษ์ พระเอกมาดเข้ม มาเป็นพรีเซนเตอร์ ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ต้นกระดาษ ซึ่งจะมีหนังโฆษณาทั้งหมด 3 ชุด คือ ขายตรง (Direct sale) , เอทีเอ็ม(ATM)และตู้เซฟ (Safe) นอกจากนี้ยังมีแผนรณรงค์ในส่วนของ Below the line ทั้งสื่อวิทยุ โปสเตอร์ แผ่นพับ Banner และ Mobile Van ครอบคลุมพื้นที่ส่งเสริมกว่า 61 จังหวัดทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายให้เกษตรกรทั้งสมาชิกเดิมและสมาชิกใหม่ ร่วมปลูกในปีหน้าไม่น้อยกว่า 200 ล้านต้น
จุดเด่นของแคมเปญปลูกปุ๊บ ก็ได้ออมปั๊บ คือ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการเปลี่ยนคันนาเป็นเงินออมในแคมเปญใหม่นี้ จะได้รับรายได้เสริมเร็วขึ้น จากเดิมที่เกษตรกรจะได้รับรายได้จากการปลูกและดูแลต้นกระดาษในอัตรา 30 บาทต่อต้น ต่อเมื่อต้นกระดาษมีอายุครบ 3 ปีแล้วเท่านั้น สำหรับแคมเปญใหม่นี้ เกษตรกรสามารถขอเลือกรับรายได้ล่วงหน้า 3-6 % ของผลตอบแทนทั้งหมดภายหลังการนำกล้าต้นกระดาษปลูกลงดินแล้วเสร็จ เช่น หากนำต้นกระดาษไปปลูก 1,000 ต้น เกษตรกรสามารถขอเลือกรับรายได้ล่วงหน้าเป็นค่าปลูกได้ประมาณ 1,000 หรือ 2,000 บาท และเมื่อต้นกระดาษอายุครบ 3 ปี ก็จะได้รับผลตอบแทนที่เหลืออีก 29,000 หรือ 28,000 บาท รวมรับผลตอบแทน 30,000 บาทต่อ 1,000 ต้น
นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย เพื่อเปิดตัวสินเชื่อ “KTB Micro Bank” เพื่อให้เกษตรกรผู้ปลูกและดูแลต้นกระดาษ สามารถนำสัญญาส่งเสริมปลูกต้นกระดาษที่มีอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป มาใช้ในการขอสินเชื่อกับธนาคาร เพื่อเป็นทางเลือกทางการเงินแก่เกษตรกรในการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบที่มีภาระดอกเบี้ยสูง ซึ่งจากการสำรวจร่วมกับธนาคารกรุงไทยพบว่า ยังมีเกษตรกรเป็นจำนวนมากที่ประสบปัญหาดังกล่าว ทั้งนี้คุณสมบัติของเกษตรกรที่สนใจเข้าร่วมคือ ต้องเป็นเกษตรกรที่ลงทะเบียนเป็นสมาชิกปลูกต้นกระดาษกับดั๊บเบิ้ล เอ รวมทั้งมีการดูแลรักษาต้นกระดาษมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี โดยบริษัทฯ จะเป็นผู้ออกหนังสือรับรองจำนวนต้นกระดาษให้กับเกษตรกรเพื่อใช้ในการขอสินเชื่อ
นายธีรินทร์ เต่าทอง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่ม กลุ่มรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์และโครงการภาครัฐ สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารตระหนักถึงความสำคัญในการสนับสนุนด้านการเงินแก่ลูกค้าระดับฐานรากของประเทศ ให้สามารถเข้าถึงแหล่งทุน ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เพื่อช่วยลดปัญหาการกู้เงินนอกระบบ และทำให้ผู้ค้ารายย่อยมีต้นทุนการค้าที่ต่ำลง รวมทั้งสร้างรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้ารายย่อยในภาคเกษตร โดยธนาคารได้ร่วมกับดั๊บเบิ้ล เอ ในการสนับสนุนสินเชื่อแก่เกษตรกร เพื่อนำไปเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการปลูกและดูแลต้นกระดาษ รวมทั้งช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการดำรงชีพ ภายใต้โครงการ “สินเชื่อ KTB Micro Bank เพื่อเกษตรกรผู้ปลูกและดูแลต้นกระดาษ” โดยเกษตรกรที่ดูแลต้นกระดาษตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไปและได้รับการคัดเลือก สามารถขอสินเชื่อวงเงินรายละไม่เกิน 200,000 บาท ระยะเวลาผ่อนชำระภายใน 26 เดือน โดยติดต่อขอสินเชื่อได้ที่ทุกสาขาของธนาคารกรุงไทยกว่า 1,000 แห่งทั่วประเทศ
นอกจากนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ยังเปิดโอกาสให้เกษตรกรเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนคันนาเป็นเงินออมในระยะยาวเพิ่มขึ้น โดยมีทั้งรูปแบบการเข้าร่วมแบบ 9 ปี 15 ปีและ 30 ปี (ตัดฟันรอบละ 3 ปี) เพื่อเป็นสร้างรายได้อย่างยั่งยืน เพราะยิ่งปลูกระยะยาว เงินออมก็ยิ่งเพิ่มค่า และเป็นการใช้พื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์ ช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวแหล่งดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์ ลดโลกร้อนอีกด้วย รวมทั้งเปิดรับสมัครเกษตรกร 100,000 ราย เข้าร่วมเป็น “ตัวแทนต้นกระดาษ” เพื่อเป็นอาชีพเสริมสร้างรายได้เพิ่มให้กับครอบครัว โดยมี 6 งานหลักให้เลือก คือ งานส่งเสริม/แนะนำ, งานบรรทุกขนส่งกล้าไม้, งานปลูกกล้าไม้, งานเก็บเกี่ยว-ขนบรรทุก, งานซื้อไม้เหมาแปลง และงานตรวจแปลงไม้ เกษตรกรหรือผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการ หรือต้องการสมัครเป็นตัวแทนต้นกระดาษ สอบถามได้ที่ โทร.1759 กด 5