กรุงเทพฯ--6 พ.ย.--ฟิทช์ เรทติ้งส์
บริษัท ฟิทช์ เรทติ้งส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศคงอันดับเครดิตภายในประเทศระยะสั้น (Short-term National Rating) ของโปรแกรมการออกตั๋วแลกเงินอายุไม่เกิน 270 วัน ซึ่งสามารถออกหมุนเวียนใหม่ได้ มูลค่าไม่เกินหนึ่งหมื่นสองพันล้านบาทของบริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) (ESSO) ที่ระดับ ‘F1(tha)’
ฟิทช์คาดว่าอัตราส่วนหนี้สินของ ESSO ที่วัดจากอัตราส่วนหนี้สินสุทธิที่ปรับปรุงแล้วต่อกำไรจากการดำเนินงานก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษี ค่าเสื่อม ค่าตัดจำหน่ายและค่าเช่า (Adjusted Net Debt/Operating EBITDAR) จะยังคงอยู่ในระดับสูงที่ประมาณ 3.5 เท่า ถึง 5.0 เท่า ในช่วงปี 2556 — 2559 เนื่องจากแนวโน้มของอุตสาหกรรมที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ แม้ว่าบริษัทฯจะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตที่สูงขึ้นและไม่มีค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนที่เป็นโครงการใหญ่ก็ตาม ฟิทช์คาดว่าธุรกิจการกลั่นน้ำมันและปิโตรเคมีจะยังคงได้รับแรงกดดันจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่อ่อนแอลงและกำลังการผลิตใหม่ในภูมิภาคในระยะ เวลาที่เหลือของปี 2555 และในปี 2556 อย่างไรก็ตามกระแสเงินสดจากการดำเนินงานหลังหักค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและเงินปันผลของ ESSO น่าจะเป็นบวกตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป
อันดับเครดิตของ ESSO สะท้อนถึงโรงกลั่นน้ำมันของบริษัทฯ ที่มีความซับซ้อนและมีความสามารถในการเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ที่สูง รวมถึงความได้เปรียบในการจัดหาน้ำมันดิบและวัตถุดิบในต้นทุนที่ต่ำโดยผ่านเครือข่ายของบริษัทแม่ ตลอดจนการดำเนินธุรกิจภายใต้เครื่องหมายการค้า “เอสโซ่” (Esso) ที่มีชื่อเสียงอันยาวนานในประเทศไทย อันดับเครดิตยังได้พิจารณาถึงการที่โรงกลั่นของบริษัทฯ มีการประสานเชื่อมโยงกันกับการผลิตพาราไซลีนซึ่งเป็นการเพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ ทำให้สายการผลิตมีการใช้ประโยชน์สูงสุด และยังเป็นการช่วยลดความผันผวนของรายได้จากการกลั่นน้ำมันได้บางส่วนอีกด้วย นอกจากนี้ ESSO ยังมีความแข็งแกร่งในธุรกิจการค้าปลีกน้ำมันสำเร็จรูป โดยมีสัดส่วนยอดขายต่อยอดขายทั้งหมดในตลาดประมาณร้อยละ 16 ซึ่งใหญ่เป็นอันดับสองในประเทศไทย
อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงการที่บริษัทฯ ได้รับการสนับสนุนในด้านการดำเนินธุรกิจและการเงินจากบริษัทแม่ซึ่งได้แก่ กลุ่มเอ็กซอนโมบิล บริษัทฯ ได้รับประโยชน์จากการใช้เครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลกของเอ็กซอนโมบิล ในการจัดหาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์น้ำมัน และสามารถใช้ประโยชน์จากการบริการด้านเทคโนโลยี และวิศวกรรม ทรัพยากรบุคคล และการวิจัยและพัฒนาของเอ็กซอนโมบิล เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทฯ กลุ่มเอ็กซอนโมบิลมีการให้วงเงินสำหรับเงินทุนหมุนเวียนแก่บริษัทฯ เป็นจำนวนห้าหมื่นสี่พันล้านบาท รวมถึงได้ให้เงินกู้ยืมจำนวน 5 พันล้านบาทแก่ ESSO
อย่างไรก็ตาม สถานะเครดิตของ ESSO ยังพิจารณารวมถึงความเสี่ยงจากความผันผวนที่สูงของราคาน้ำมันดิบ รายได้ค่าการกลั่น ตลอดจนส่วนต่างระหว่างราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมี ซึ่งอาจมีผลกระทบอย่างมากต่อรายได้ ความต้องการใช้เงินทุนหมุนเวียน และการสร้างกระแสเงินสดของบริษัทฯได้ นอกจากนี้ ESSO ยังมีความเสี่ยงจากการที่บริษัทฯ มีโรงกลั่นน้ำมันเพียงแห่งเดียว (Single-Site) อีกด้วย
ปัจจัยที่อาจมีผลกับอันดับเครดิตในอนาคต
ปัจจัยบวก:
-ความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่องและผลประกอบการที่มีความสม่ำเสมอตลอดช่วงวัฎจักรของอุตสาหกรรม รวมถึงการรักษาอัตราส่วนหนี้สินให้อยู่ในระดับที่ต่ำได้อย่างต่อเนื่อง
ปัจจัยลบ:
-สัดส่วนการถือหุ้นและการสนับสนุนที่น้อยลงจากกลุ่มเอ็กซอนโมบิล
-กระแสเงินสดจากการดำเนินงานหลังหักค่าใช้จ่ายเพื่อการลงทุนและเงินปันผลที่เป็นลบอย่างต่อเนื่อง
-ค่าการกลั่นและส่วนต่างระหว่างราคาวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ปิโตรเคมีเฉลี่ยที่ต่ำอย่างต่อเนื่อง การลงทุนที่สูงขึ้นโดยมีแหล่งเงินทุนจากการกู้ยืม ซึ่งทำให้อัตราส่วนหนี้สินอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง