กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์
ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,684 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,690 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 31.16 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท และกลับมาปิดที่ 24,550 บาท กับ 24,650 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,185 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,916 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 93 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท เพิ่มขึ้น 1.8 % แบบ 10 บาท เพิ่มขึ้น 1.6 % Silver Futures ลดลง 5 % GFZ12 ปิด 24,900 บาท และ GFG12 ปิด 23,030 บาท GF10Z12 ปิดที่ 24,900 บาท GF10G12 ปิดที่ 25,030 บาท SVZ12 ปิดที่ 967 บาท
สัญญา Comex ปิดเพิ่มขึ้น 31.8 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,715 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดเพิ่มขึ้น 90.6 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 32.034 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,334.49 ตัน (ซื้อเข้า 2.11 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดเพิ่มขึ้น 3.06ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 88.71 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดบวก 133.24 จุด ปิดที่ 13,245.68 จุด
Ratio Gold / Silver เท่ากับ 54 ต่อ 1
ข่าวที่สำคัญ
TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC
ในช่วงตลาดลอนดอนราคาทองคำมีการเคลื่อนไหวใกล้กับระดับสูงสุดในรอบวันแต่ยังคงอยู่ในกรอบประมาณ 1,690 เหรียญด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง ภายหลังต่อมาในตลาดนิวยอร์กราคาทองคำสามารถฝ่าทะลุแนวต้านที่ระดับ 1,700 เหรียญได้ อันเนื่องมาจากเทรดเดอร์ต่างคาดการณ์ว่า นายบารัก โอบามาจะได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง ซึ่งนั่นหมายถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมจากธนาคารกลางสหรัฐ ทั้งนี้ ราคาทองคำก็ยังมีการดีดกลับทางเทคนิคจากระดับแนวรับด้านล่าง โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวสูงขึ้น 31.8 เหรียญ หรือประมาณ 2% ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,715 เหรียญ ซึ่งการปรับตัวขึ้นของราคาทองคำโดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นหลังจากที่ผ่านช่วงหลังเที่ยงคืนไปแล้ว ด้วยปริมาณการซื้อขายเกือบ 10% เหนือค่าเฉลี่ย 250 วัน
หลังจากการซื้อขายมีการปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยในช่วงบ่าย ราคาทองคำมีการปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วทันที 20 เหรียญ เนื่องจากเทรดเดอร์ทองคำบางรายและกลุ่มผู้จัดการเงินทุนเรียกการพุ่งขึ้นของราคาครั้งนี้ว่า “An Obama Rally” ที่มีการคาดการณ์กันว่า พรรคเดโมแครตจะได้รับเวลาต่ออีก 4 ปีจากทำเนียบขาว ที่อาจก่อให้เกิดการขยายเวลาของการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากเฟด
ในขณะที่มีความเป็นไปได้ว่า การปรับตัวสูงขึ้นของราคาทองคำไม่มีอะไรมากไปกว่าการ breakout ทางเทคนิคและการเข้าซื้อจากโมเมนตัมหลังจากที่ราคาทองคำสามารถทะลุผ่านระดับ 1,700 เหรียญขึ้นไปได้ ซึ่งนักลงทุนในตลาดบางรายคาดการณ์ว่าการปรับตัวสูงขึ้นในครั้งนี้มีผลเกี่ยวเนื่องมาจากการเลือกตั้ง โดยไม่ว่าใครจะได้รับการเลือกตั้งจะต้องพบกับประเด็นที่ต้องแก้ไขอย่างหนัก อันประกอบด้วยภาวะคนว่างงานที่อยู่ในระดับสูง อัตราการเติบโตของเศรษฐกิจที่ยังคงซบเซา และภาวะ Fiscal Cliff ซึ่งปัญหาต่างๆ ดังกล่าวจะมีผลกระทบโดยตรงต่อราคาทองคำและตลาดหุ้น
US-based trader กล่าวว่า ตลาดต่างๆ อาจกำลังคาดเดาว่านายโอบามาจะเป็นผู้ชนะ ซึ่งนั่นจะเป็นการอธิบายการขึ้นของราคาทองคำได้เป็นอย่างดี ซึ่งการตัดสินตามธรรมเนียมจะเป็นในทำนองที่ว่า ราคาทองคำจะปรับตัวสูงขึ้นหากนายโอบามาชนะ ในขณะที่ราคาทองคำจะปรับตัวลดลงหายนายรอมนีย์เป็นฝ่ายชนะ โดยราคาทองคำอาจยังไม่เปิดเผยชัยชนะที่แท้จริง เป็นเพียงแค่ความรู้สึกว่านายโอบามากำลังปฏิบัติหน้าที่ได้ดีในช่วงก่อนหน้านี้ แต่ก็น่าต้องระมัดระวังสำหรับการสนใจในเรื่องนี้จนเกินไป เนื่องจากภาวะทางการเมืองสามารถทำให้ผู้คนและตลาดต่างๆ ปฏิบัติตนอย่างไม่มีเหตุผลและดำเนินหนทางผิดแปลกไปจากที่ควรจะเป็น
นายอาเจย์ คูมาร์จากคีเดียร์ คอมโมดิตี้ส์ เห็นด้วยว่า การชนะของนายโอบามาดูเหมือนจะเป็นผลบวกของราคาทองคำ เนื่องจากอาจเป็นการปูทางให้รัฐบาลมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นและมีการผ่อนคลายนโยบายทางการคลังจากเฟด อย่างไรก็ตาม หากนายรอมนีย์เป็นฝ่ายชนะอาจส่งผลให้มีการบังคับเทขายทองคำ และสิ่งนี้อาจเป็นตัวบ่งชี้ว่า การใช้จ่ายภาครัฐบาลและการกระตุ้นเศรษฐกิจอาจลดลง
นอกจากนี้ การฟื้นตัวของราคาน้ำมันดิบและตลาดหุ้นสหรัฐก็เป็นส่วนสนับสนุนราคาทองคำเช่นกัน โดยนักวิเคราะห์บางรายยังได้อ้างถึงแรงเข้าซื้อทางเทคนิคหลังจากที่ทองคำมีการรีบาวน์จากแนวรับที่เส้นค่าเฉลี่ย 100 วันในช่วงไม่กี่วันทำการที่ผ่านมา โดยพวกเขากล่าวว่า ราคาทองคำจะมีการขึ้นอยู่แล้วจากสัญญาณกราฟต่างๆ หลังจากที่มีการปรับตัวลดลงล่าสุดได้ส่งผลให้ราคาลงไปใกล้กับระดับต่ำสุดที่ประมาณ 1,660 เหรียญ
นายโจนาธาน โจสเซ็น COMEX gold options floor trader กล่าวว่า ราคาทองคำมีการฟื้นตัวในสภาวะ Oversold เนื่องจากโพลสำรวจก่อนหน้านี้ชี้ให้เห็นว่านายโอบามาจะเป็นฝ่ายได้รับชัยชนะ และนั่นจึงเป็นการกระตุ้นความหวังของนายเบอร์นันเกและการกระตุ้นเศรษฐกิจจากเฟด อย่างไรก็ตามนักสังเกตการณ์ในตลาดบางรายระบุว่า การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้นวอลสตรีทมีผลมาจากการคาดการณ์ที่ว่านายมิตต์ รอมนีย์อาจประสบความสำเร็จและได้รับชัยชนะอย่างน่าประหลาดใจ
เมื่อวานนี้กลุ่มผู้ประท้วงชาวกรีซหลายแสนคนได้เริ่มต้นทำการประท้วงเป็นเวลา 48 ชั่วโมงต่อการเสนอการใช้มาตรการรัดเข็มขัดครั้งใหม่ที่จะส่งผลให้เกิดการตัดลดค่าแรงและเบี้ยบำนาญลง ในขณะที่กลุ่มผู้นำยูโรโซนได้ให้ระยะเวลากับพวกเขาเองเป็นเวลา 3 สัปดาห์เพื่อจะสรุปแผนการช่วยเหลือทางการเงินของกรีซ
ในช่วงเช้านี้ราคาทองคำปรับตัวลดลงเล็กน้อย ในขณะที่นักลงทุนต่างกำลังรอผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ซึ่งราคาทองคำจะได้รับประโยชน์หากนายบารัก โอบามาเป็นฝ่ายชนะ
ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน
- ไม่มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ
ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้
- Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -2.0M คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.8M
วิเคราะห์ทางเทคนิค
Gold — ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงตลาด COMEX โดยในช่วงต้นตลาดราคาทองคำสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,690 เหรียญได้ และค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นจนมาทะลุระดับ 1,700 เหรียญ ช่วงปลายตลาด COMEX และทำให้เกิดแรงซื้อในลักษณะ Short Covering อย่างมากในตลาด ทำให้ราคาทองคำพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วไปทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,718 เหรียญ และกลับมาปิดที่ตลาด COMEX ที่ระดับประมาณ 1,715 เหรียญ โดยที่ตลาดมีความคาดหวังว่า ผลการเลือกตั้งนายโอบามาน่าจะชนะการเลือกตั้ง ทำให้มีผลตอบรับในตลาดหุ้นดาวโจนส์ปรับตัวสูงขึ้น 133.24 จุด และน้ำมันก็ปรับตัวสูงขึ้น 3.06 เหรียญ เมื่อวานนี้กองทุน SPDR มีการซื้อเข้าประมาณ 2.11 ตัน ถือครองทองคำที่ระดับ 1,334.492 ตัน การที่ราคาทองคำสามารถกลับมายืนอยู่เหนือระดับ 1,700 เหรียญได้อีกครั้งถือว่าเป็นผลทางจิตวิทยาจากการคาดหวังว่านายโอบามาจะไดรับชัยชนะ เมื่อวานนี้เงินยูโรดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยจากระดับ 1.2877 ดอลลาร์/ยูโร โดยยูโรดีดกลับมาเล็กน้อยที่ระดับ 1.2807 ในช่วงปลายตลาด อย่างไรก็ดีเมื่อวานนี้ทองคำถือว่าเป็นตัววิ่งได้ในตลาดค่อนข้างมาก วิเคราะห์ได้ว่าราคาทองคำยังมีความผันผวนตามกระแสข่าว ซึ่งถ้านายโอบามาชนะการเลือกตั้งน่าจะมีผลบวกต่อทองคำและตลาดหุ้น จากมาตรการ QE3 และการอัดฉีดเม็ดเงินเข้ามาในตลาด อย่างไรก็ตาม หากนายรอมนีย์เป็นฝ่ายชนะราคาทองคำในช่วงต้นอาจจะถูกกดดันให้ปรับตัวลดลง โดยเราคงจะทราบผลการเลือกตั้งประมาณช่วงบ่ายวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย ซึ่งคำแนะนำยังคงเป็นการให้เล่นตามสภาวะการแกว่งตัวของตลาดทองคำ แนะนำให้เก็งกำไรแบบเข้าเร็วออกเร็วในระยะเป็นรายวัน กรอบแนวรับด้านล่างจะอยู่ที่ระดับ 1,690 เหรียญ ส่วนแนวต้านด้านบนที่ระดับ 1,725 เหรียญ ซึ่งถ้าทะลุระดับ 1,725 เหรียญขึ้นไปได้ ทองคำจะเข้าสู่ขาขึ้นอย่างชัดเจน จะเห็นได้ว่า Oscillator ต่างๆ ในรายวันเริ่มมีสัญญาณการกลับตัว อย่างไรก็ดีถ้าราคาทองคำยังอยู่ต่ำกว่าระดับ 1,720 เหรียญ ก็ยังถือว่า ทิศทางแนวโน้มมีโอกาสปรับตัวลงได้อยู่บ้าง ยังถือว่าเป็นขาลงจนกว่าราคาทองคำจะยืนอยู่เหนือระดับ 1,725 เหรียญขึ้นไป
Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 24,930 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,130 บาท
Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,280 บาท
Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,010 บาท
คำแนะนำ
สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade)
เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,700 — 1,720 เหรียญ คงต้องติดตามข่าวผลการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิด
นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade)
แนะนำให้รอความชัดเจนของทิศทางตลาดก่อนซื้อเพิ่ม ถือครองพอร์ทประมาณ 5-10% รอซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว
นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง
รอจังหวะเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น ถือครองพอร์ทประมาณ 30%
บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง