กรุงเทพฯ--7 พ.ย.--เวิรฟ
ซัมซุงจับมือเชลซี พาร์ทเนอร์ระดับโลกย้ำกลยุทธ์สปอร์ต สปอนเซอร์ ชิพ เปิดโอกาสให้ตัวแทนเยาวชนไทยเรียนรู้สุดยอดเคล็ดลับและเทคนิคแห่งกีฬาลูกหนัง รวมถึงทักษะฟุตบอลระดับมืออาชีพแบบเอ็กคลูซีฟจากผู้ฝึกสอนทีมฟุตบอลเยาวชนเชลซีภายใต้กิจกรรม “ซัมซุง — เชลซี เอฟซี ยูธ ฟุตบอล แคมป์”
นางจันทร์วิภา พิพัฒนกุล ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดองค์กร บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า “ซัมซุงยังคงเดินหน้าสานต่อกลยุทธ์สปอร์ต สปอนเซอร์ชิพ (Sport Sponsorship) อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดได้จับมือกับเชลซีทีมสโมสรฟุตบอลระดับโลกที่ซัมซุงให้การสนับสนุนในฐานะโกลบอล พาร์ทเนอร์ (Global Partner) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 จัดกิจกรรม ‘ซัมซุง — เชลซี เอฟซี ยูธ ฟุตบอล แคมป์ (Samsung — Chelsea FC Youth Football Camp)’ ระหว่างวันที่ 3 - 4 พฤศจิกายนนี้ โดยกิจกรรมนี้จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กและเยาวชนอายุระหว่าง 9 -13 ปีเข้าร่วมโครงการ โดยจะได้เรียนรู้เทคนิคและเคล็ดลับการเตะฟุตบอลระดับมืออาชีพจากผู้ฝึกสอนทีมเยาวชนเชลซี โดยกิจกรรมนี้ซัมซุงและเชลซีได้ร่วมกันจัดขึ้นในกว่า 20 ประเทศทั่วโลก”
สตีฟ วินเน็ตต์ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ศูนย์ฝึกสอนฟุตบอลเยาวชนชาย สโมสรฟุตบอลเชลซี เปิดเผยว่า “กิจกรรม ‘ซัมซุง — เชลซี เอฟซี ยูธ ฟุตบอล แคมป์’ ได้จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 20 โดยมูลนิธิเชลซี (Chelsea Foundation) โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนทั่วโลกได้รับการฝึกทักษะด้านกีฬาฟุตบอลจากมืออาชีพ เพื่อเป็นการส่งเสริมทักษะทางการกีฬาตลอดจนปลูกฝังความมีน้ำใจเป็นนักกีฬาตั้งแต่วัยเยาว์ เพื่อพัฒนาเติบโตเป็นนักกีฬาที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคต สำหรับในปีนี้ผมและทีมผู้ฝึกสอนรวมทั้งทีมนักเตะเยาวชนเชลซีเตรียมเดินทางไปกว่า 20 ประเทศทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยเพื่อสานต่อกิจกรรมนี้ ทั้งนี้เรามองว่าเด็กไทยมีศักยภาพไม่แพ้ชาติใดในโลก หากได้รับโอกาสในการฝึกสอนจากมืออาชีพแล้ว จะสามารถพัฒนาสู่การเป็นนักฟุตบอลระดับโลกได้ไม่ยาก”
นอกจากนี้ภายในงานยังได้รับเกียรติจากคู่แม่ลูกคนดัง ได้แก่ คุณแม่หมิว-ลลิตา ศศิประภา กับน้องแพลงตอนและน้องอีตัน และคุณแม่โบ — ชญาดา ลิ่วเฉลิมวงศ์ กับน้องอชิ ที่มาร่วมเรียนรู้เทคนิคการเตะฟุตบอลจากโค้ชคนดังอีกด้วย
“ซัมซุงเชื่อมั่นว่า ‘ซัมซุง — เชลซี เอฟซี ยูธ ฟุตบอล แคมป์’ จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ช่วยปูเส้นทางฝัน ด้านการกีฬาของเยาวชนไทยให้เป็นจริง ตลอดจนเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยต่อยอดและพัฒนาทักษะด้านกีฬาฟุตบอลของเด็กไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับสากลอีกด้วย” นางจันทร์วิภากล่าวสรุป