สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday November 8, 2012 11:18 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,721 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,715 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.78 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,850 บาท กับ 24,950 บาท และกลับมาปิดที่ 24,950 บาท กับ 25,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 5,618 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 15,992 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 173 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 4.4 % แบบ 10 บาท ลดลง 8.5 % Silver Futures เพิ่มขึ้น 4.7 % GFZ12 ปิด 25,180 บาท และ GFG12 ปิด 25,310 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,180 บาท GF10G12 ปิดที่ 25,320 บาท SVZ12 ปิดที่ 975 บาท สัญญา Comex ปิดลดลง 1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,714 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 37.3 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 31.661 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,337.20 ตัน (ซื้อเข้า 2.71 ตัน) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 4.27ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 84.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลบ 312.95 จุด ปิดที่ 12,932.73 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 54 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC ราคาทองคำปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ หลังจากที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้เกือบ 1% อันเนื่องมาจากนายบารัก โอบามาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐเป็นสมัยที่ 2 ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเป็นตัวกดดันราคาทองคำ โดยสัญญาโกลด์ฟิวเจอร์สส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 1 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,714 เหรียญ/ออนซ์ ด้วยปริมาณการซื้อขายสูงถึง 270,000 ล็อต หรือ 53% เหนือค่าเฉลี่ย 250 วัน และถือเป็นระดับสูงสุดในรอบประมาณ 2 เดือน ลอนดอน เบส เทรดเดอร์กล่าวว่า เหตุใดราคาทองคำจึงปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้ ง่ายๆ ก็คือ ผู้คนต่างตื่นเต้นเกี่ยวกับการที่นายโอบามาได้รับเลือกตั้งให้เป็นประธานาธิบดีอีกครั้ง และรอคอยการฟื้นตัวของราคาทองคำกว่า 100 เหรียญมานาน และตอนนี้พวกเขาไม่ต้องรอคอยนานอีกต่อไป ซึ่งราคาทองคำสามารถเบรกแนวต้านทะลุระดับ 1,700 เหรียญได้ในช่วงคืนวันอังคาร หลังจากที่ ผลสำรวจ Exit Polls ชี้ให้เห็นว่า ผู้ท้าชิงจากพรรครีพับลิกัน นายมิตต์ รอมนีย์ จะพ่ายแพ้นายโอบาม่าการเลือกตั้งครั้งนี้ ชัยชนะของโอบามาถือเป็นผลบวกต่อราคาทองคำ และกดดันค่าเงินดอลลาร์ เนื่องจากนายโอบามาน่าจะให้นายเบน เบอร์นันเกดำรงตำแหน่งประธานเฟดคงเดิม และยังคงมีการใช้มาตรการ QE3 รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นพิเศษต่อไป อย่างไรก็ตาม นายโอบามามีเวลาเพียงเล็กน้อยเท่านั้นในการลิ้มรสชัยชนะ ซึ่งเขาจะเผชิญกับความท้าทายในการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน โดยที่การเผชิญหน้ากับปัญหาทางการคลังที่เริ่มปรากฏขึ้นมาลางๆ และการแบ่งแยกทางสภาคองเกรสที่ยังมีอยู่อาจปิดกั้นการเคลื่อนไหวของเขาในทุกทาง ความแตกต่างทางความคิดของสภาคองเกรสจะเปิดโอกาสให้เกิดการเจรจาเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะ Fiscal Cliff ที่อาจไม่เป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งเป็นความเสี่ยงที่จะกดดันให้เศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอยมากกว่านี้ โดยราคาทองคำได้รับผลกระทบจากแรงกดดันทางสภาพคล่องอย่างหนักนอกตลาด ซึ่งดัชน S&P 500 ลดลงมากกว่า 2% หลุดระดับ 1,400 จุดลงมาเป็นครั้งแรกในรอบมากกว่า 2 เดือน ในขณะที่สัญญาน้ำมันดิบก็ปรับตัวลดลงถึง 4.5% อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ค่าเงินยูโรแข็งค่าขึ้นไปอยู่ที่ระดับประมาณ 1.2876 ดอลลาร์/ยูโร ก็มีการปรับตัวอ่อนค่าลงมาเนื่องจากคณะกรรมาธิการยุโรปมีการลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจยุโรปลง โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนจะขยายตัว 0.1% ในปี 2013 และจะหดตัวในปีนี้ 0.4% อีกทั้งยังคาดการณ์จีดีพีของเยอรมนีจะขยายตัวเพียง 0.8% ในปี 2013 จากระดับก่อนหน้านี้ที่ 1.7% รวมไปถึงตัวเลขเศรษฐกิจผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีที่ออกมาลดลงมากกว่าที่คาดที่ระดับติดลบ 1.8% คาดการณ์ไว้ที่ระดับติดลบเพียง 0.4% นอกจากนี้ ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดร่วงลงกว่า 300 จุดจากแรงเทขายเมื่อวานนี้ซึ่งเป็นตัวขับเคลื่อนให้ตลาดหุ้นหลักๆ ของสหรัฐปรับตัวลดลงมากกว่า 2% จากผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ นายมาริโอ ดรากี ประธานอีซีบี กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การชะลอตัวของยูโรโซนกำลังส่งผลกระทบต่อเยอรมนี โดยเตือนว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาของเยอรมนีไม่ได้ปกป้องผลกระทบจากวิกฤติหนี้สินในยูโรโซน โกลด์เทรดเดอร์อีกรายหนึ่งกล่าวว่า เมื่อวานนี้ sentiment ต่างๆ ดูอ่อนแรงลง แม้ว่าราคาทองคำจะปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบวัน แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายนักเมื่อเทียบกับสินทรัพย์เสี่ยงอื่นๆ สำหรับข่าวอื่นๆ ของทองคำ สมาคมค้าทองคำบอมเบย์คาดการณ์ว่า การนำเข้าทองคำของอิเดียในปีหน้าจะลดลงสู่ระดับ 550 ตันจากระดับ 650 ตันในปีนี้โดยประมาณ และจุดสูงสุดที่ระดับ 967 ตันในปี 2011 โดยเทรดเดอร์กล่าวว่า สิ่งนี้เป็นมุมมองที่ไม่ดีนักสำหรับทิศทางของราคาทองคำ และจะมีผลกระทบต่อตลาดท้องถิ่น แต่สิ่งหนึ่งที่เราควรต้องจดจำก็คือ อินเดียเป็นประเทศที่รักทองคำ ซึ่งอินเดียมีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่แข็งแกร่งกับทองคำ ปริมาณการถือครองทองคำของกองทุน Gold ETFs เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 75.027 ล้านออนซ์ในวันที่ 6 พฤศจิกายน หลังจากที่ปรับตัวลดลงเป็นระยะเวลา 2 วันก่อนหน้านี้ รัฐบาลกรีซไม่สนใจการประท้วงคัดค้านในการอนุมัติมาตรการรัดเข็มขัดที่จะเกิดขึ้นในวันนี้ โดยรัฐบาลกรีซมีการเปิดการลงมติด้วยจำนวนผู้ร่วมลงมติอย่างเบาบาง ในการอนุมัติต่อมาตรการรัดเข็มขัดหากจำเป็นต้องนำมาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาสำคัญทางการเงินและการหลีกเลี่ยงการล้มละลายที่จะเกิดขึ้นด้วย ถึงแม้ว่าจะเกิดความขัดแย้งภายในและมีการประท้วงอย่างรุนแรงเกิดขึ้นบริเวณรัฐสภานั่นเอง เมื่อวานนี้ นางอังเกลาร์ แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนีเรียกร้องให้กลุ่มผู้นำยุโรปยอมรับแผนสำหรับสหภาพการคลัง และการรวมกันทางเศรษฐกิจในเดือนหน้าที่สามารถผลักดันสนับสนุนให้ใช้งานได้ในอีก 2 — 3 ปีข้างหน้า นักลงทุนกำลังจับตาการประชุมของธนาคารกลางยุโรปในวันนี้ ซึ่งมีการคาดการณ์ว่าอีซีบีจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม เป็นการเลื่อนเวลาลดต้นทุนการกู้ยืมออกไป ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืน - Crude Oil Inventories ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -2.0M คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 1.8M ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ 1.8M ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Trade Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ -44.2B คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -44.9B - Unemployment Claims ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 363K คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 367K วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางการแกว่งตัวอย่างมาก หลังจากที่รับรู้ข่าวชัยชนะของการเลือกตั้งประธานาธิบของสหรัฐอเมริกา การที่นายโอบามาได้รับชัยชนะทำให้มีแรงซื้อกลับเข้ามาในตลาดทองคำอย่างหนาแน่น จนผลักดันให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นไปสู่จุดสูงสุดบริเวณ 1,729 เหรียญในช่วงบ่าย แต่แล้วก็ยังมีแรงเทขายอย่างหนาแน่นทำให้ราคาทองคำก็มีการปรับตัวร่วงลงมา จากความกังวลในสภาวะการเลือกตั้งที่ผู้สมัครทังสองคนได้คะแนนเสียงอยู่กันแทบจะคนละครึ่งของสหรัฐอเมริกา หมายความว่า โอกาสการที่จะเกิด Fiscal Cliff น่าจะยังมีสูงอยู่มาก ซึ่งจะเป็นผลบวกต่อทองคำ แต่เป็นผลลบต่อตลาดหุ้น ทำให้โดยภาพรวมตลาดหุ้นเมื่อวานปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลงมา 312.95 จุด หรือประมาณ 2.3% ทำให้ในช่วงการซื้อขายในตลาด COMEX มีแรงเทขายในทองคำอย่าหนาแน่นจนราคาลงมาทดสอบแนวรับด้านล่างอีกครั้งที่ระดับ 1,700 เหรียญ ลงมาทำจุดต่ำสุดที่ระดับประมาณ 1,704 เหรียญ ก่อนที่จะมีการดีดกลับขึ้นมาปิดตลาด COMEX ที่ระดับ ประมาณ1,714 เหรียญ จะเห็นถึงการแกว่งตัวอย่างมากของราคาทองคำ โดยที่ลักษณะกราฟทางเทคนิค Oscillator ในกราฟรายวัน MACD เริ่มจะส่งสัญญาณบวกบ้างแต่ยังไม่ได้กลับขึ้น โดยภาพหลักแนวโน้มราคาทองคำยังถือว่าเป็นแนวโน้มทิศทางขาลงจนกว่าราคาทองคำจะสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,730 เหรียญได้อย่างมั่นคง ดังนั้นยังคาดว่า เราอาจจะเห็นการแกว่งตัวของราคาทองคำในทิศทาง Sideways ในกรอบ 1,710 — 1,730 เหรียญได้ ยังแนะนำให้ขายทำกำไรบริเวณแนวต้านและเข้าช้อนซื้อในบริเวณแนวรับ Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,080 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,280 บาท Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,220 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,440 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 970 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,000 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,710 — 1,730 เหรียญ นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) เป็นลักษณะของการปรับเพิ่มพอร์ทขึ้นมาเป็น 30% ในการช้อนซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลง นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ช้อนซื้อเมื่อราคาปรับตัวลดลงเท่านั้น ถือครองพอร์ทประมาณ 30-40% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ