พม.เร่งผลักดัน “สามีลาช่วยภรรยาเลี้ยงลูก” ในภาคเอกชน เพื่อสร้างสัมพันธภาพในครอบครัว

ข่าวทั่วไป Thursday November 8, 2012 14:29 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--8 พ.ย.--พม. กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดย สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว(สค.) ผลักดันภาคเอกชนอนุญาตให้ผู้ชายลาเพื่อช่วยภรรยาดูแลบุตรหลังคลอด โดยอ้างอิงระเบียบว่าด้วยการลาของข้าราชการ เรื่อง การลาไปช่วยเหลือภรรยาที่คลอดบุตร ซึ่งอนุญาตให้ข้าราชการชายที่ประสงค์จะลาไปช่วยเหลือภรรยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่คลอดบุตร สามารถลาครั้งหนึ่งติดต่อกันได้ไม่เกิน ๑๕ วันทำการ หลังผ่านความเห็นชอบในหลักการ จากการประชุมคณะกรรมการนโนบายและยุทธศาสตร์การพัฒนาสถานภาพสตรีแห่งชาติ เมื่อต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา นายสมชาย เจริญอำนวยสุข ผู้อำนวยการสำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว เปิดเผยว่า สำนักงานกิจการสตรีฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ ขานรับนโยบายนี้ และพร้อมผลักดันให้เกิดผลเพื่อให้พนักงานชาย ในภาคเอกชนได้รับสิทธินี้ โดยจะขอความร่วมมือเครือข่ายการทำงานของสำนักงานกิจการสตรีฯ ในภาคธุรกิจ เป็นหน่วยงานนำร่องนำนโยบายนี้ไปใช้ก่อน เพราะการที่ผู้ชายได้ลาหยุดเพื่อไปดูแลภรรยาในช่วงหลังคลอดเป็นสิ่งที่ถูกต้องและเป็นผลดี ต่อความสัมพันธ์ในครอบครัว เป็นการสร้างความอบอุ่นและความเข้มแข็งให้กับครอบครัว ส่งผลต่อพัฒนาการที่ดีของเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ โดยสามีอาจช่วยภรรยาทำงานบ้าน ทำอาหาร ซักผ้าแทน หรือดูแลลูกในช่วงที่ภรรยาทำกิจวัตรส่วนตัวได้ ทำให้เด็กได้รับความอบอุ่นจากพ่อและแม่ อันเป็นรากฐานของการสร้างครอบครัวอบอุ่นให้กับสังคมไทย นายสมชาย กล่าวต่อว่า เรื่องนี้นับเป็นการปรับเปลี่ยนเจตคติของคนในสังคม ให้กลับมาทบทวนอีกครั้งว่าถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราต้องเลิกคิดว่างานบ้านและการเลี้ยงลูกเป็นหน้าที่ของผู้หญิงเท่านั้น โดยผู้หญิง ผู้ชายต่างก็มีบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบเหมือนๆกัน การเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจกันจะทำให้ครอบครัวเข้มแข็งและมีความสุขมากยิ่งขึ้น อยากให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ตลอดจนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นำเรื่องนี้ไปผลักให้เกิดการขับเคลื่อน ในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชนทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีการวางแผน กลยุทธ์ การส่งเสริมหรือการปฏิบัติอย่างไร เพื่อให้ข้าราชการและกลุ่มเป้าหมายทั้งผู้หญิงผู้ชายได้รับประโยชน์อย่างเสมอภาคกัน “นโนบายนี้นับเป็นนโยบายที่ดีมาก ผลที่เกิดขึ้นจะสร้างครอบครัวให้เข้มแข็ง เกิดความรัก ความผูกพันระหว่างพ่อ-แม่-ลูก ตั้งแต่แรกเกิด อันจะส่งผลต่อการพัฒนาสังคมในภาพรวม และเพื่อให้ภาคเอกชนให้ความร่วมมือ ภาครัฐอาจกำหนดสิทธิประโยชน์ในด้านต่างๆ อาทิ ลดภาษีให้กับภาคเอกชนที่ปฏิบัติตามนโยบายนี้ เพื่อให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ส่งผลกระทบต่อทุกฝ่าย ซึ่งสำนักงานกิจการสตรีฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะผลักดัน นโยบายนี้อย่างต่อเนื่องต่อไป” นายสมชาย กล่าว.

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ