กรุงเทพฯ--9 พ.ย.--มีเดีย แพลนเนอร์ คอนซัลแทนท์
บมจ.คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ โชว์ผลงานไตรมาส 3 กำไร 21.51 ล้านบาท เพิ่ม 10% จากช่วงเดียวกันปีก่อน รายได้ 220.43 ล้านบาท ส่วน 9 เดือนเก็บรายได้ 539.34 ล้านบาท กำไร 28.16 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.70% และ 8.63% ตามลำดับ ยิ้มรับออเดอร์ต่างประเทศเกินคาด มั่นใจเพิ่มสัดส่วนเป็น 25% ปีนี้ ส่วนยอดขายในประเทศยังดีต่อเนื่อง เหตุโรงงานส่วนขยายผลิตหม้อแปลงหลากหลาย และเพิ่มกำลังการผลิต มั่นใจทั้งปีรายได้ยังโต 15% ตามแผน
นางสาวโชติกา ชุมภูนท์ ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด(มหาชน) หรือ QTC เปิดเผยว่า ผลประกอบการในไตรมาส 3/2555 บริษัทฯมีรายได้ 220.43 ล้านบาท และกำไร 21.51 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.89% และ 10% ตามลำดับ จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 202.43 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 19.56 ล้านบาท โดยไตรมาส 3 บริษัทฯมีรายได้จากการขายสินค้าเพิ่มขึ้น แบ่งเป็นยอดขายในประเทศ 171.70 ล้านบาท และยอดขายต่างประเทศ 41.20 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ 9 เดือน บริษัทฯมีรายได้อยู่ที่ 539.34 ล้านบาท กำไร 28.16 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯยังคงมีรายได้หลักจากการผลิตตามคำสั่งซื้อทั้งในประเทศและต่างประเทศ เมื่อรายได้ทั้งหมดประกอบกันจะส่งผลให้ยอดขายบริษัทฯมีความแข็งแกร่ง และกำไรที่มั่นคง โดยการดำเนินงานในช่วงที่เหลือของปี 2555 บริษัทฯยังคงมีงานในมือ (Backlog) มูลค่าไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทที่ช่วยสนับสนุนให้รายได้ของบริษัทฯในปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15%
นางสาวโชติกา กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้บริษัทฯสามารถผลิตหม้อแปลงได้หลากหลาย สามารถตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขนาดใหญ่พิเศษที่ราคาสูงที่ใช้ในอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ หรือหม้อแปลงขนาดเล็กที่ต้องการการผลิตจำนวนมากเพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากหมู่บ้านจัดสรร โดยโรงงานส่วนต่อขยายที่ช่วยเพิ่มการผลิตเป็น 1,000,000 KVA ต่อปี ช่วยเพิ่มฐานรายได้ที่ดีในอนาคตให้กับบริษัทฯ
ขณะที่ตลาดต่างประเทศ QTC มีพันธมิตรตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ที่แข็งแกร่ง ในหลายประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ยังมีการร่วมทุนและขาย technical knowhow กับคู่ค้า เช่น ลาวและพม่า และในอนาคตยังคงหาโอกาสที่จะเข้าไปทำการตลาดในประเทศที่มีอัตราการเติบโตด้านความต้องการใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเป็นเป้าหมายที่บริษัทฯต้องการเจาะตลาด AEC ซึ่งสอดคล้องกับแผนธุรกิจที่วางไว้อย่างเป็นระบบ
“ที่ผ่านมารายได้ และกำไรของบริษัทฯในการจำหน่ายสินค้าไปยังตลาดต่างประเทศมีการเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขยายตลาดต่างประเทศมากยิ่งขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯต้องมีการศึกษา และมองหาช่องทางมากขึ้น เพื่อเป็นโอกาสในการสร้างรายได้ รวมถึงสามารถเพิ่มสัดส่วนการจำหน่ายต่างประเทศจาก 15% เป็น 25% ตามแผนที่วางไว้”นางสาวโชติกา กล่าว