กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
‘ผลิตภัณฑ์ตราเพชร’ โชว์ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกสุดแกร่ง ยอดขายโต 5.31% กำไรสุทธิ 18.28% หลังประสบความสำเร็จด้านกลยุทธ์ Everything in One ที่เน้นสร้างความหลากหลายในผลิตภัณฑ์ตราเพชร รวมถึงเพิ่มศักยภาพขีดความสามารถด้านการแข่งขันทำตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผู้บริหารประกาศไตรมาส 4 ลุยเต็มสูบ รับปัจจัยบวกด้านตลาดวัสดุก่อสร้างในต่างจังหวัดโต หลังคลายกังวลน้ำท่วม เร่งขยายตลาดผ่านตัวแทนขายและร้านค้าปลีกวัสดุก่อสร้างขนาดใหญ่ คาดดันยอดขายโต 10%
นายอัศนี ชันทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัท ผลิตภัณฑ์ตราเพชร จำกัด (มหาชน) หรือ DRT ผู้ผลิตและจำหน่าย ผลิตภัณฑ์ระบบหลังคา ไม้สังเคราะห์ พื้นไม้ลามิเนต แผ่นบอร์ด ยิปซัม และบริการหลังการขาย ภายใต้ แบรนด์ ‘ตราเพชร’ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรกของปี 2555 (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,980.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.31% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ที่มีรายได้ 2,830.21 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 443.58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.28% เทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีกำไรสุทธิ 375.02 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2555 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 917.80 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 110.13 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ เพราะถือเป็นช่วงฤดูฝนที่การก่อสร้างอยู่ในภาวะชะลอตัว ขณะเดียวกันร้านค้าวัสดุก่อสร้างมีความกังวลต่อปัจจัยเศรษฐกิจ รวมถึงยังคงห่วงผลกระทบจากน้ำท่วมที่จะเกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง จึงลดปริมาณสต๊อกสินค้าให้เพียงพอต่อการขายเท่านั้น
“ภาพรวมยอดขายและกำไรในช่วง 9 เดือนแรก และในไตรมาส 3 ปีนี้ ถือว่ายังเป็นไปตามเป้าหมายที่ได้วางไว้ โดยมีปัจจัยหลักจากการสร้างความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ภายใต้กลยุทธ์ Everything in One ซึ่งมีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการเริ่มเดินเครื่องจักรสายการผลิต NT-10 ที่ช่วยเสริมศักยภาพทำตลาด รองรับการขยายตัวของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการบริหารงานที่ดี ทำให้แบรนด์ตราเพชรมีความแข็งแกร่งและได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีกำไรจากการขายที่ดินที่ไม่ใช้งานอีกด้วย” นายอัศนีกล่าว
ด้านนายสาธิต สุดบรรทัด รองกรรมการผู้จัดการสายการขายและการตลาด DRT กล่าวถึงแนวโน้มในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ว่า เชื่อว่า ยอดขายจะมีอัตราการขยายตัวที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากตลาดก่อสร้างในต่างจังหวัดที่เติบโตสูงขึ้น จากการเข้าไปลงทุนพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันร้านค้าวัสดุก่อสร้างรายเล็กได้คลายความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วม จึงเริ่มกลับมาสั่งซื้อสินค้าเพื่อ สต๊อกเพิ่มขึ้นรองรับความต้องการผู้บริโภค ส่งผลให้ความต้องการสินค้าในกลุ่มวัสดุก่อสร้างในช่วงไตรมาส 4 มีความคึกคักมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะส่งผลดีต่อผลการดำเนินงานของผลิตภัณฑ์ตราเพชรที่จะสร้างยอดขายให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ที่ 10%
สำหรับแผนการดำเนินงานในช่วงปลายปีนี้ บริษัทฯ ได้ตอกย้ำจุดแข็งด้านความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ตราเพชร ผ่านช่องทางร้านค้าวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่ และร้านค้าตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ตราเพชรกว่า 6,000 ราย พร้อมกันนี้ ยังได้เข้าไปช่วยปรับโฉมให้มีความทันสมัย ด้วยการเพิ่มชั้นวางสินค้าและจัดเรียงสินค้าให้มีความโดดเด่น เพื่อยกระดับสู่การเป็นร้านค้าวัสดุก่อสร้างสมัยใหม่มากขึ้น รองรับกับพฤติกรรมการซื้อสินค้าของผู้บริโภคที่นิยมเลือกซื้อวัสดุก่อสร้างจากร้านที่มีการตกแต่งหน้าร้านที่มีความทันสมัย
“ในไตรมาสสุดท้ายของปี เราเห็นสัญญาณที่ดีของการขยายตัวสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้าง เนื่องจากกำลังซื้อของลูกค้าเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญ ที่ทำให้ร้านค้าเริ่มเพิ่มปริมาณสั่งซื้อสินค้ามากขึ้น หลังจากคลายความกังวลต่อสถานการณ์น้ำท่วม ทำให้คาดว่า ภาพรวมยอดขายปีนี้จะสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสาธิตกล่าว