กรุงเทพฯ--12 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
GL ทำกำไรไตรมาส 3 โตพรวด 70% หลังได้ลูกค้าสินเชื่อรถจักรยานยนต์ใหม่เพิ่มตามแผนธุรกิจเชิงรุก และ การบริหารจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รุกหนักตลาดกัมพูชาเปิดสำนักงานขายใหม่กว่า 10 แห่ง หวังครอบคลุมทั่วประเทศภายในต้นปีหน้า เป็นก้าวแรกสู่ผู้นำในการให้บริการสินเชื่อรถจักรยานยนต์แห่งอาเซียน โดยยืนยันเป้าหมายภายในปี 58 การปล่อยสินเชื่อเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์จะขยายตัวอย่างก้าวกระโดดถึง 1,000,000 คัน
นายมิทซึจิ โคโนชิตะ ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL หนึ่งในผู้นำบริษัทที่ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2555 (ก.ค.-ก.ย) บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 105.97 ล้านบาท เติบโตอย่างก้าวกระโดดถึง 70.91% จากไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 62 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวม 262.21 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 19% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2554 และเมื่อรวมทั้ง 9 เดือนแรกของปี 2555 บริษัทฯ มีรายได้รวม 685.78 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 250.48 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักที่ทำให้ผลการดำเนินงานเติบโตอย่างก้าวกระโดด มาจากการให้สินเชื่อเพื่อซื้อรถจักรยานยนต์ที่เติบโตขึ้นมาก และสามารถบริหารจัดการหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่การตั้งสำรองเผื่อหนี้สงสัยจะสูญยังอยู่ในระดับต่ำ
“ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ถือว่าเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยเราเน้นการทำตลาดเชิงรุก โดยการขยายฐานตัวแทนจำหน่าย (Dealer) ไปยังพื้นที่มีศักยภาพ เรามีบุคลากรที่เชี่ยวชาญในการปล่อยสินเชื่อ ซื้อรถจักรยานยนต์ จึงสามารถบริหารจัดการลูกหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ผลการดำเนินงาน ของเราเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้” นายมิทซึจิ กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังคงยืนยันแผนงานระยะ 3 ปี (2556-2558) ด้วยการบุกตลาดอาเซียน และตั้งเป้า เพิ่มยอดปล่อยสินเชื่อให้ได้รวม 1,000,000 คัน ซึ่งได้เริ่มงานตามแผนแล้ว โดยเริ่มดำเนินธุรกิจในประเทศกัมพูชา ในนามบริษัท GL Finance หรือ GLF เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยได้เป็นพันธมิตรกับฮอนด้า ซึ่งเป็นผู้จำหน่ายรถจักรยานยนต์รายใหญ่ในกัมพูชา ซึ่งปัจจุบันมีสำนักงานขายแล้ว 11 แห่ง และจะขยายไปทั่วประเทศกัมพูชา ในต้นปีหน้า
ซึ่งตลาดสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศกัมพูชานี้ มีศักยภาพในการเติบโตสูงมาก เนื่องจากที่ผ่านมา ผู้ซื้อรถจักรยานยนต์ต้องใช้เงินสดหรือกู้จากธนาคารซึ่งมีความยุ่งยาก ธุรกิจลีสซิ่งของ GLF ซึ่งให้บริการ อย่างสะดวกและอนุมัติสินเชื่ออย่างรวดเร็ว จึงทำให้ประชาชนชาวกัมพูชา เริ่มเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อรถด้วย เงินสด เงินกู้แบงก์ หรือเงินกู้ยืมนอกระบบมาเป็นการกู้จากบริษัทลีสซิ่งแทน
“ในอดีตกลุ่มประเทศแถบอาเซียนจะเป็นแรงงานการผลิตเพื่อส่งออกไปยุโรป อเมริกา และญี่ปุ่น แต่ปัจจุบันสถานการณ์เปลี่ยนแปลงไป ความสามารถในการบริโภคของอาเซียนเองเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราเชื่อว่าเป็นโอกาสทางธุรกิจของเราทั้งในประเทศไทยและประเทศกัมพูชา โดยปัจจุบันยอดสินเชื่อรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมีมากกว่า 100,000 คันและคาดว่าจำนวนจะเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวคือ 200,000 คันภายใน 3 ปีข้างหน้า ส่วนในกัมพูชา ตั้งเป้าว่ายอดสินเชื่อรถจักรยานยนต์จะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดไปถึง 300,000 คันภายในเวลาเดียวกัน เนื่องจากประเทศกัมพูชาเป็นตลาดเกิดใหม่ที่มีศักยภาพในการขยายตัวมหาศาล ขณะเดียวกันบริษัทยังมีแผนเข้า เทคโอเวอร์ธุรกิจเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ในประเทศเวียดนามและอินโดนีเซีย เพื่อเพิ่มยอดปล่อยสินเชื่อให้ได้ 1,000,000 คัน ใน 3 ปี ตามเป้าหมายที่ได้ตั้งไว้” นายมิทซึจิ กล่าว
นายมิทซึจิ ยังกล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทใช้กลยุทธ์ 4 ด้านเพื่อใช้ในการให้บริการสินเชื่อ เพื่อตอบสนอง ความต้องการของลูกค้า คือ มุ่งเน้นความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้าเป็นหลัก ใช้ฐานข้อมูลลูกค้าเดิมต่อยอดรายได้ ไม่มีนโยบายด้านการแข่งขันโดยการตัดราคา และสร้างแรงจูงใจให้พันธมิตรสนับสนุนธุรกิจของบริษัท