กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--โฟว์ดี คอมมิวนิเคชั่น
พบอัตราการเติบโตสูงกว่าปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 10% ทาวน์เฮาส์ 1 - 3 ล้านยังครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุด
-แนวโน้มผู้ประกอบการณ์เล็งผุดโครงการใหม่ ชูทำเล กวาดกำลังซื้อกลุ่มผู้ที่อยากมีบ้านใกล้เมือง-
พลัส พร็อพเพอร์ตี้ ส่งทีมลงสำรวจภาพรวมตลาดทาวน์เฮาส์ในเขต กทม. และปริมณฑล พบมีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาเฉลี่ยที่ 10% รวมทั้งมีแนวโน้มจะเพิ่มปริมาณมากขึ้นเพื่อตอบรับกำลังซื้อกลุ่มผู้ต้องการบ้านทำเลใกล้เมือง ในระดับราคาที่สามารถตอบรับได้ จากปัจจุบันที่บ้านเดี่ยวเริ่มขยายการพัฒนาสู่ชานเมืองรอบนอกมากขึ้น
นายอนุกูล รัฐพิทักษ์สันติ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานบริหารสินทรัพย์ บริษัท พลัส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดทาวน์เฮาส์ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา กลับมาคึกคักและเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยหากพิจารณาในส่วนของราคาเสนอขายสู่ตลาด พบว่า ส่วนใหญ่ผู้ประกอบการยังเน้นพัฒนาในกลุ่มราคา 1-3 ล้านบาทออกสู่ตลาด โดยมีส่วนแบ่งสูงถึง 76% จากจำนวน 26,425 ยูนิตที่มีการเสนอขายทั้งหมด โดยส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนชั้นกลาง คิดเป็นจำนวนถึง 11,729 ยูนิต ในกลุ่มระดับราคา 3-5 ล้านบาท มีส่วนแบ่งสูงสุด 17% กลุ่มระดับราคาต่ำกว่า 1 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 5% และกลุ่มระดับราคามากกว่า 5 ล้านบาท มีส่วนแบ่ง 2%
ทั้งนี้ หากพิจารณาในส่วนของทำเล พบว่า ปริมาณการเสนอขายและยอดขายไส่วนใหญ่อยู่ในโซนชั้นกลาง รองลงมาเป็นโซนธนบุรี และโซนนนทบุรี ตามลำดับ เนื่องจากการเติบโตของเมือง อย่างไรก็ดีพบว่าโซนฝั่งธนบุรี เริ่มมีแนวโน้มการเติบโตของตลาดดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยอุปทานเสนอขายในพื้นที่มีการเติบโตขึ้น 11% มาอยู่ที่จำนวน 13,449 ยูนิต รวมทั้งยอดขายเติบโตดีขึ้น 12% อยู่ที่ 8,847 ยูนิต ซึ่งพื้นที่ที่มีปริมาณอุปสงค์ดูดซับได้ดีในโซนธนบุรี ได้แก่ บางนาตราด-เทพารักษ์, เพชรเกษม-กัลปพฤกษ์ และรอบนอกวงแหวน ซึ่งพื้นที่เหล่านี้ มีอุปทานที่อยู่อาศัยเปิดใหม่หนาแน่นขึ้นตามการพัฒนาระบบขนส่งมวลชนและการขยายตัวของเมือง โดยระดับราคาเสนอขายที่ดีอยู่ในกลุ่ม 1-3 ล้านบาท รองลงมา คือระดับราคามากกว่า 5 ล้านบาท และระดับราคา 3-5 ล้านบาท
นอกจากนี้ ทำเลในโซนชั้นกลางยังพบปริมาณอุปสงค์รองรับได้ดีในย่านปทุมธานี-ลำลูกกา,เกษตรนวมินทร์- รามอินทรา,อ่อนนุช-อุดมสุข และสุวรรณภูมิ-กิ่งแก้ว เนื่องจากการพัฒนาที่ดินและการขยายตัวของเมืองอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งทำให้การเดินทางสะดวกมากขึ้น ประกอบกับต้นทุนเรื่องที่ดินบางแห่งยังอยู่ในระดับที่สามารถลงทุนได้ ทำให้อุปทานใหม่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและยังมีการตอบรับที่ดี
“อย่างไรก็ดี หากวิเคราะห์ถึงสรุปภาพรวมตลาดทาวน์เฮาส์จนถึงในช่วงปลายปี 2555 นี้คาดการณ์ว่า ตลาดทาวน์เฮาส์จะมีภาวะการตอบสนองต่ออุปทานใหม่ดีขึ้นจากปีก่อน อุปทานใหม่จะเริ่มทยอยเข้าสู่ตลาดมากขึ้น โดยสัดส่วนของผู้ประกอบการรายใหญ่และรายอื่นๆ จะมีส่วนแบ่งตลาดในระดับใกล้เคียงกัน ประกอบกับระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเริ่มกลับเข้าสู่ตลาดจึงส่งผลให้อัตรายอดขายเติบโตขึ้น โดยทาวน์เฮาส์ที่เสนอขายในกลุ่มราคา 1-3 ล้านบาทยังคงเป็นตลาดหลักเช่นเดิม แต่ที่น่าจับตาตั้งแต่ในช่วงครึ่งหลังของปี 2555 เป็นต้นมา คือ การเติบโตของตลาดทาวเฮาส์ในระดับราคา 3-5 ล้านบาทที่มีแนวโน้มเติบโตสูงขึ้นเช่นกัน โดยโซนชั้นกลาง ฝั่งตะวันออก เช่น บริเวณ อ่อนนุช-อุดมสุข สุวรรณภูมิ-กิ่งแก้ว บางนาตราด-เทพารักษ์ มีจำนวนยูนิต เสนอขายใหม่สูงสุด รองลงมาคือ โซนธนบุรี และโซนนนทบุรี ตามลำดับ” นายอนุกูล กล่าว