ไทยคม กำไรสุทธิจากการดำเนินงานไตรมาส 3/2555 147 ล้านบาท รวมทั้งบรรลุข้อตกลงในการขาย Mfone

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday November 13, 2012 10:13 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--ไทยคม บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2555 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 147 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำกำไรต่อเนื่องกันถึง 5 ไตรมาส ผลประกอบการของบริษัทจากงบการเงินเฉพาะกิจการ (stand-alone performance) ปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยในไตรมาส 3/2555 มีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน ในงบการเงินเฉพาะกิจการ 479 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนถึงร้อยละ 422 คิดเป็นกำไรสุทธิจากผลการดำเนินงานเฉพาะกิจการโดยรวมทั้ง 9 เดือนของปี 2555 รวม 609 ล้านบาท ในวันเดียวกัน บริษัทฯ ยังประกาศว่าได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการบริษัท ในการที่ บริษัท เชนนิงตัน อินเวสเม้นท์ส พีทีอี จำกัด เข้าทำสัญญาขายหุ้นของบริษัท เอ็มโฟน ให้กับบริษัท INT Management Services Corporation Limited ซึ่งเป็นผู้ลงทุนในประเทศกัมพูชา โดยสัญญาดังกล่าวมีเงื่อนไขที่ทั้งสองฝ่ายต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในระยะเวลา 60 วันนับแต่วันทำสัญญา เนื่องมาจากการทำสัญญาดังกล่าว บริษัทจึงได้ตั้งสำรองขาดทุนจากการด้อยค่าและสำรองค่าใช้จ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง จำนวน 252 ล้านบาท ในงบการเงินรวมของไตรมาสนี้ด้วย นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า "ขณะนี้ สัญญาซื้อขายหุ้นได้มีการลงนามเรียบร้อยแล้ว ซึ่งบริษัทฯ มั่นใจว่า เงื่อนไขต่างๆ ในสัญญาดังกล่าวจะดำเนินการได้แล้วเสร็จภายในปีนี้ และไม่มีความจำเป็นจะต้องตั้งสำรองเพิ่มเติมที่เป็นสาระสำคัญหลังจากไตรมาสนี้ ในปีหน้าบริษัทฯ จะไม่ได้รับผลกระทบจากการขาดทุนของเอ็มโฟนประมาณไตรมาสละ 130 ล้านบาทอีกต่อไป และการตั้งสำรองเพื่อตัดจำหน่ายเงินลงทุนดังกล่าวก็จะไม่ส่งผลกระทบต่องบการเงินเฉพาะกิจการของบริษัทฯ" ธุรกิจดาวเทียมยังคงเป็นธุรกิจที่ทำรายได้หลักให้บริษัทฯ ถึงร้อยละ 83 ของรายได้รวมในไตรมาสที่ 3 ความสำเร็จของธุรกิจดาวเทียมในต่างประเทศ ทำให้บริษัทฯ มีกำไรจากการดำเนินงานเฉพาะกิจการสูงขึ้นมาก และในไตรมาส 3 นี้ บริษัทฯ ยังมีการรับรู้รายได้เพิ่มเติมจากการให้บริการไอพีสตาร์ต่อผู้ประกอบการโทรคมนาคมรายที่ 4 ในประเทศญี่ปุ่นด้วย ซึ่งตามข้อมูลของ นอร์ทเธิร์น สกาย รีเสิร์ช (Northern Sky Research-NSR) ไอพีสตาร์สามารถครองส่วนแบ่งการตลาดเป็นอันดับ 1 ในบริการ High Through-put Satellite (HTS) ของโลก “ความสำเร็จในการดำเนินงานของธุรกิจดาวเทียม รวมถึงการที่บริษัทฯ ได้รับเงินปันผลจากบริษัทลูกในต่างประเทศเป็นครั้งแรกในไตรมาสนี้ ทำให้บริษัทฯ มีสถานะที่แข็งแกร่งและเพิ่มขีดความสามารถในการที่จะจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น" "เราเชื่อว่าธุรกิจของบริษัทฯ จะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการที่ดาวเทียมไทยคม 6 จะถูกยิงขึ้นสู่วงโคจรในปีหน้า บริษัทฯ ได้สามารถขายช่องสัญญาณของดาวเทียมไทยคม 6 ล่วงหน้าได้เกินเป้าหมายร้อยละ 30 แล้ว ซึ่งดาวเทียมไทยคม 6 จะช่วยตอกย้ำความเป็นดาวเทียม Hotbird ที่ตำแหน่ง 78.5 องศาตะวันออก และยังเป็นดาวเทียมที่จะเข้าไปเปิดตลาดเพิ่มเติมในทวีปแอฟริกา ซึ่งเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูง โดย ในวันนี้ บริษัทฯ ได้ประกาศตัวดาวเทียมไทยคม 6 อย่างเป็นทางการในทวีปแอฟริกาแล้ว โดยใช้ชื่อทางการตลาดว่า แอฟริคอม-1” นางศุภจีกล่าว ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือนั้น บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) มีผลประกอบการที่ดีอย่างต่อเนื่อง และได้ขายหุ้นบริษัท วัฏฏะ คลาสสิฟายด์ จำกัด เพื่อจะมุ่งเน้นการดำเนินงานในธุรกิจหลักด้านไอทีและอินเทอร์เน็ต ส่วนด้าน บริษัท ลาวโทรคมนาคม ก็ได้เริ่มให้บริการ 4G แล้ว โดยเป็นผู้ประกอบการรายที่ 2 ในอาเซียนที่ให้บริการ 4G ทั้งนี้ บริษัท ลาวโทรคมนาคม ได้เริ่มการให้บริการ 4G เป็นครั้งแรกใน สปป.ลาว เพื่อสนับสนุนการประชุม ASEM ของรัฐบาลเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา และบริษัท ลาวโทรคมนาคม เตรียมจะเปิดการให้บริการ 4G ในหัวเมืองใหญ่ใน สปป.ลาวต่อไป

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ