กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--IR network
บมจ.กันกุล เอ็นจิเนียริ่ง หรือ GUNKUL สร้างปรากฏการณ์สุดประทับใจ แถมไม่เคยทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง ประกาศผลประกอบการงวด 9 เดือน โชว์กำไรพุ่งกระฉูด 697.62 % ส่วนรายได้โดดเด่นไม่แพ้กัน โดยมีตัวเลขอยู่ที่ 3,767.30 ล้านบาท “สมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย ” เผย เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้จากงานรับเหมาก่อสร้าง และรายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุนใน"จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ" มั่นใจทั้งปียังทำผลงาน ไม่พลาดเป้าหมายที่ตั้งไว้4,300ล้านบาทแน่นอน
นายสมบูรณ์ เอื้ออัชฌาสัย กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) ( GUNKUL) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของบริษัทฯ และบริษัทย่อยตามงบการเงินรวมสำหรับงวด 9 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 พบว่ามีผลกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ (ส่วนของบริษัทใหญ่) จำนวน 677.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น จากงวดเดียวกันกับปีก่อนที่มีผลกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ จำนวน 84.97 ล้านบาท โดยมีกำไร เพิ่มขึ้นจำนวน 592.77 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 697.62 ซึ่งถือเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างไม่เคยปรากฎมาก่อนนับตั้งแต่ GUNKUL ก่อตั้งบริษัทมา
สำหรับสาเหตุที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากบริษัทและบริษัทย่อยมีรายได้จำนวน 3,767.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันกับปีก่อนซึ่งมีรายได้รวมจำนวน 2,090.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,676.80 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 80.21 โดยเป็นรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการรับเหมางานก่อสร้างจำนวน 1,564.11 ล้านบาท รวมถึงรายได้จากการจำหน่ายเงินลงทุนใน บริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด จำนวน 416.22 ล้านบาท(ทั้งนี้ได้รวมผลกำไรส่วนที่เกิดจากการรับรู้มูลค่าเงินลงทุนในบริษัทดังกล่าวด้วยมูลค่ายุติธรรม ณ วันที่โอนจำหน่ายเงินลงทุนให้กับผู้ร่วมทุนและขาดซึ่งอำนาจในการควบคุม จำนวน 97.01 ล้านบาทแล้ว)
“ผลประกอบการงวด 9 เดือนของ GUNKUL ออกมาเป็นที่น่าพอใจอย่างยิ่ง ซึ่งถือเป็นผลการดำเนินงานที่ไม่เคยปรากฎมาก่อนนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา เป็นผลสืบเนื่องมาจากการร่วมมือกันของทุกฝ่ายในบริษัทที่ผลักดันให้ธุรกิจของ GUNKUL ก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของการผลิต จัดหา และจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับระบบไฟฟ้าและระบบพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน และธุรกิจก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ซึ่งถือเป็นการต่อยอดการลงทุนในธุรกิจอย่างครบวงจร เพื่อสร้างฐานกำไรให้มีความแข็งแกร่งในระยะยาว”นายสมบูรณ์กล่าวในที่สุด
นายสมบูรณ์กล่าวต่อในช่วงท้ายว่า จากการวางกลยุทธ์เพื่อต่อยอดธุรกิจไปยังธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนโดยเฉพาะ โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลม เพื่อให้ธุรกิจของ GUNKUL ครบวงจรมากขึ้น ซึ่งธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนจะเริ่มทยอยสร้างรายได้ให้กับบริษัท ตั้งแต่ปี 2555 เป็นต้นไป ขณะที่บริษัทยังมีงานที่อยู่ในมือ (Backlog) อีกกว่ามูลค่า 1,500 ล้านบาท ที่จะทยอยรับรู้รายได้ในปีนี้ และปี 2556 ดังนั้นจึงทำให้มั่นใจว่าผลการดำเนินงานในปีนี้เติบโตตามเป้าที่ 4,300 ล้านบาทได้
อย่างไรก็ตามนอกจากโครงการในประเทศแล้ว GUNKUL ยังอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้สำหรับการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ประเทศพม่า ซึ่งปัจจุบันได้รับสัมปทานแล้ว 3 รัฐ จำนวน 1,000 เมกะวัตต์ และหากดำเนินการแล้วเสร็จจะถือเป็นการต่อยอดธุรกิจในประเทศพม่า จากปัจจุบันที่มีเฉพาะธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์ระบบไฟฟ้าเท่านั้น