วิฟเอเชียชี้โอกาสแข่งขันในตลาด เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องเน้นประสิทธิภาพการผลิต

ข่าวทั่วไป Tuesday November 13, 2012 14:22 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--มีเดีย พลัส คอนเนคชั่น วิฟเอเชียชี้โอกาสแข่งขันในตลาด เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ต้องเน้นประสิทธิภาพการผลิตหนุนระบบจัดการการผลิต เพื่อความปลอดภัยอาหาร ผลิตเนื้อสัตว์ตามมาตรฐาน GAP วิฟเอเชีย (VIV Asia) ร่วมเสริมความรู้ พัฒนาอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ไทย เดินสายจัดงาน สัมมนา ‘เกษตรกรก้าวหน้า’ อย่างต่อเนื่องเป็นครั้งที่ 2 ที่จังหวัดระยอง ระบุการทำฟาร์มเลี้ยงสัตว์ต้องเน้นที่ประสิทธิภาพการผลิต ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านการปศุสัตว์สมัยใหม่จัดการระบบการผลิต เพื่อควบคุมต้นทุน และผลิตสินค้าได้มาตรฐานอาหารปลอดภัย ตอบสนองความต้องการในตลาด จากการสัมมนาเกษตรกรก้าวหน้า ในหัวข้อ “ก้าวหน้า ก้าวไกล ลดต้นทุน เพิ่มผลผลิต ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรม ปศุสัตว์ และพืชผล” ซึ่งจัดโดยบริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด ผู้จัดงานแสดงเทคโนโลยีปศุสัตว์ครบวงจร ตั้งแต่การ ผลิตอาหารสัตว์ การขยายพันธุ์ การเลี้ยง อุปกรณ์เลี้ยงสัตว์ และการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ตลอดจนการแปรรูปเนื้อสัตว์ หรือ VIV Asia 2013 และ Aquatic Asia 2013 ได้ข้อสรุปว่าการที่เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ไทยจะคงศักยภาพการแข่งขันในเวทีโลกได้นั้น ต้องมี “3 สูง” คือ ผลผลิตต่อพื้นที่สูง คุณภาพสูง และกำไรสูง ซึ่งจะต้องเน้นการจัดการที่มีประสิทธิภาพ ทั้งการจัดการภายในฟาร์ม อาทิ การคัดเลือก และขยายพันธุ์ การเพาะเลี้ยงดูแล ควบคุมสภาพแวดล้อม เสริมภูมิคุ้มกันให้สัตว์ ตลอดจนการเก็บเกี่ยว และการจัดการภายนอกฟาร์มด้านการตลาด ซึ่งเกษตรกรจะต้องพัฒนาเสริมศักยภาพตนเองอยู่เสมอ นางลัดดา มงคลชัยวิวัฒน์ ผู้จัดการทั่วไป บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด กล่าวว่า “เนื่องจากสถานการณ์การแข่งขันที่รุนแรง โดยเฉพาะในตลาดกุ้งที่เราต้องแข่งขันกับประเทศในกลุ่มอาเซียนด้วยกัน ทั้งอินโดนีเซีย เวียดนาม มาเลเซีย และประเทศอื่น ๆ ทั้งจีน และอินเดีย กอรปกับแนวโน้มของมาตรฐานสินค้าปศุสัตว์ที่ถูกกำหนดให้มีระบบการผลิต เพื่อผลิตผลที่มีความปลอดภัย ทั้งต่อผู้ผลิต ผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม ตลอดจนต้องตรวจสอบย้อนกลับได้ รวมถึงผู้บริโภคหันมานิยมบริโภคอาหารปลอดสารมากขึ้น เหล่านี้ล้วนเป็นปัจจัยด้านการตลาดที่ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์จะต้องหาเทคนิควิธีการใดๆ เพื่อช่วยในการปรับปรุงคุณภาพการผลิต และควบคุมต้นทุนได้ในระยะยาว” นางสมพิศ แย้มเกษม นักวิชาการประมงชำนาญการศูนย์วิจัยและพัฒนาชายฝั่งระยอง กล่าวว่า “ถึงแม้ในปีนี้ ภาพรวมตลาดการส่งออกกุ้งจะมีมูลค่าลดลงกว่าปีก่อน แต่โดยเฉลี่ยแล้วตลาดส่งออกกุ้งของไทยมีมูลค่าการส่งออกประมาณ 100,000 ล้านบาทต่อปี ในขณะที่อุตสาหกรรมส่งออกกุ้งของไทยครองความแข่งแกร่งเป็นอันดับ 1 ของโลก มาตลอด 20 ปี แต่เกษตรกร และผู้ส่งออกต้องเผชิญกับความผันผวนของราคากุ้งมาโดยตลอดทางเลือกของเกษตรกรผู้เลี้ยงกุ้งไทยคือ ต้องพึ่งเทคโนโลยีการเกษตร และนวัตกรรมการจัดการให้มากขึ้น เทคโนโลยีไม่ได้หมายถึง การลงทุนซื้อเครื่องจักรทันสมัย แต่เป็นการนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ เพื่อประสิทธิภาพของผลผลิต ซึ่งเทคโนโลยีหนึ่งที่ตอบโจทย์มาตรฐานความปลอดภัย GAP (Good Aquaculture Practice) และอาหารปลอดภัย (Food Safety) คือเทคโนโลยีเพาะเลี้ยงกุ้งปลอดสารแบบชีวภาพ เริ่มตั้งแต่การขยายพันธุ์ลูกกุ้งคุณภาพ โดยการเลือกพ่อแม่พันธุ์ที่ปลอดโรคและทนต่อโรคมาเพาะพันธุ์ลูกกุ้ง การพัฒนาอาหารกุ้งเพื่อการเจริญเติบโตเร็ว น้ำหนักดี และปลอดสาร เช่น โดยเทคนิควิธีการสร้างอาหารธรรมชาติ เช่น แพลงตอนต่าง ๆ ในบ่อก่อนปล่อยลูกกุ้ง เพื่อช่วยประหยัดค่าอาหารช่วงอายุกุ้งได้ ส่วนเรื่องการป้องกันโรค จะต้องมีการเตรียมบ่อ จัดการดินเลน และบำบัดน้ำก่อนเลี้ยง รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีชีวภาพมาใช้ในการเลี้ยงเพื่อยับยั้งการเกิดโรคกุ้งเป็นอย่างดี เช่น การใช้จุลินทรีย์ที่มีการเจริญเติบโตเป็นมิตรกับกุ้งเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันไม่ให้เกิดโรคในกุ้งได้ นอกจากนี้อัตราความหนาแน่นของกุ้งที่พอเหมาะ เลือกจังหวะภูมิอากาศ และดูแลคุณภาพสิ่งแวดล้อม ทั้งในและนอกฟาร์มเป็นพิเศษ มีมาตรการป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคทั้งภายใน และนอกฟาร์ม รวมถึงก่อนเข้าฟาร์มที่ดี ก็จะช่วยยับยั้งการเกิดโรคกุ้ง และลดหรือหลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีหรือสารปฏิชีวนะเพื่อรักษากุ้งได้” “การจดบันทึกข้อมูลและการจัดทำเอกสารคู่มือ โดยทำการจดบันทึกการจัดการการเลี้ยง การให้อาหาร การใช้ และการเก็บรักษายา บันทึกการตรวจสุขภาพกุ้ง และบันทึกการเข้าเยี่ยมฟาร์มของบุคคลภายนอก เป็นหนึ่งในกระบวนการจัดการ ที่จะช่วยให้เกษตรกรสามารถตรวจสอบ วิเคราะห์ปัจจัยต่าง ๆ ในภายหลังเพื่อนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น” นางสมพิศกล่าวเสริม เช่นเดียวกันกับด้านการทำฟาร์มปศุสัตว์ คุณกิดดิวงค์ สมบุญธรรม เลขาธิการสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ กล่าวถึงเทคโนโลยี และนวัตกรรมในการจัดการภายในฟาร์ม เพื่อลดการใช้สารเคมี ว่า “ปัจจุบันมีเทคโนโลยีมากมายที่เกิดขึ้น เพื่อช่วยอำนวย ความสะดวก และลดปัญหาในระบบการจัดการฟาร์มเลี้ยงสัตว์ อาทิเช่น การใช้เทคโนโลยีชีวภาพในอาหารสัตว์ เพื่อลดต้นทุน ค่าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ซึ่งคิดเป็นต้นทุนในการเลี้ยงสัตว์กว่า 80% โดยผู้ประกอบการสามารถนำเอาเทคโนโลยีชีวภาพมาประยุกต์ใช้ด้วยการนำวัสดุเหลือใช้จากการเกษตรมาผสมผสาน หรือการเพิ่มสารอาหารลงไป อาทิ กากมะพร้าว หรือ กากปาล์ม และการใส่เอนไซม์ประเภทต่างๆ อย่างถูกต้องตามหลักการ รวมถึงการรักษาระบบสุขาภิบาลในฟาร์มที่ดี มีมาตรการป้องกันเชื้อโรคเข้าสู้ฟาร์มที่เข้มงวด ก็จะช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้สัตว์มีสุขภาพที่แข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย ทั้งช่วยลดต้นทุน และลดการใช้ยาที่มีสารเคมี ลดปัญหาสารเคมีตกค้าง ในเนื้อหรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ได้จากสัตว์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งประเด็นหลักที่ผู้นำเข้าในทุกประเทศให้ความสำคัญ” “บริษัทฯ มีกำหนดการจัดงานสัมมนาเกษตรกรก้าวหน้า เพื่อเดินหน้าเผยแพร่ แลกเปลี่ยนองค์ความรู้กับเกษตรกรในพื้นที่ ในอีก 2 ภูมิภาค และหากท่านใดสนใจเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านปศุสัตว์ระดับนานาชาติ สามารถเข้าชมงานแสดง เทคโนโลยี ปศุสัตว์ครบวงจร ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การขยายพันธ์ การเลี้ยง อุปกรณ์เลี้ยงสัตว์ ตลอดจนถึง การแปรรูป เนื้อสัตว์ หรือ VIV Asia 2013 ได้ ในระหว่างวันที่ 13-15 มีนาคม 2556 ตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการ และการประชุม ไบเทค บางนา นอกจากนี้ยังจะได้พบกับงาน Aquatic Asia 2013 คือ งานแสดงสินค้า และสัมมนา ด้านอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแห่งเอเชีย — แปซิฟิค ที่จัดขึ้นพร้อมกัน ณ บริเวณ Main Foyer EH 105 โดยจะมุ่งเน้นในเรื่องของสัตว์น้ำเศรษฐกิจ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อภาคประมงของไทย” นางลัดดาสรุป รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงาน VIV Asia 2013 และ Aquatic Asia 2013 www.viv.net และ www.aquatic-asia.net เกี่ยวกับ บริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ เอเชีย แปซิฟิค จำกัด เป็นบริษัทชั้นนำที่เกิดจากการจับมือระหว่างสองบริษัทมืออาชีพด้านการสร้างสรรค์ และบริหารงานแสดงสินค้าระดับสากล คือ บริษัท ทีซีซี เอ็กซิบิชั่นส์ แอนด์ คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ จำกัด และบริษัท วีเอ็นยู เอ็กซิบิชั่นส์ ยุโรป มีความเชี่ยวชาญในการจัดงานแสดงสินค้าที่เอื้อให้การพบปะทางการค้า และการเจรจาทางธุรกิจเกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ เน้นการจัดงานแสดงสินค้า นิทรรศการ และการประชุม ที่เกี่ยวเนื่องกับการเกษตร เป็นผู้จัดงาน VIV Asia งานแสดงเทคโนโลยีปศุสัตว์ครบวงจร ตั้งแต่การผลิตอาหารสัตว์ การขยายพันธุ์ การเลี้ยง และการแปรรูป เนื้อสัตว์ และงาน Aquatic Asia งานแสดงสินค้าและสัมมนาด้านอุตสาหกรรมการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำแห่งเอเชีย — แปซิฟิค จัดขึ้นทุก ๆ 2 ปี พร้อมงาน VIV Asia บริษัทฯ มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ และสำนักงานสาขาที่เมืองเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน และสำนักงานธุรกิจนานาชาติในกรุงเทพมหานคร บริษัทฯ เป็นเจ้าของงานแสดงสินค้าในเบลเยี่ยม จีน อินเดีย เม็กซิโก เนเธอร์แลนด์ รัสเซีย ไทย ตุรกี เวียดนาม พม่า และอินโดนิเซีย ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vnuexhibitionsap.com

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ