กรุงเทพฯ--13 พ.ย.--มาสเตอร์ มายด์ คอมมิวนิเคชั่นส์
สยามแก๊สฯ เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ทำรายได้ 13,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 190.8 ล้านบาท เติบโต 1,439% ใช้คลังก๊าซขนาดใหญ่และคลังลอยน้ำเป็นยุทธศาสตร์ขยายตลาดและรองรับดีมานด์พุ่งในไตรมาส 3 ขณะที่ 9 เดือนแรก ทำรายได้รวม 36,209 ล้านบาท เติบโต 25% ขณะที่กำไรอยู่ที่ 484 ล้านบาท ลดลง 55% ผู้บริหารมองในปลายไตรมาส 4 ปีนี้ต่อเนื่อง ไตรมาส 1 ปีหน้า ความต้องการใช้แก๊สเพิ่มขึ้นรับฤดูหนาว เริ่มปรับเพิ่มสต๊อกในคลังแก๊ส สร้างโอกาสการขายและการทำกำไร เผยล่าสุดเพิ่งได้รับสิทธิพิเศษด้านภาษีนำเข้าและส่งออกแก๊สคลังทัณฑ์บนที่ซัวเถา คาดปีนี้รายได้เติบโต 30% ตามเป้าที่วางไว้
นางจินตณา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทสยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP ผู้นำตลาด LPG ในภูมิภาคเอเชียตะวันออก เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของปี 2555 (กรกฎาคม-กันยายน 2555) ว่า บริษัทฯ มีรายได้ 13,512 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งมีรายได้ 9,973 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 190.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,439% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 12 ล้านบาท
ทั้งนี้ ปัจจัยสนับสนุนผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ของ SGP มาจากการบริหารคลังแก๊สที่เน้นปริมาณให้เพียงพอต่อการขายมากกว่าการเพิ่มปริมาณสต๊อกแก๊สเป็นจำนวนมาก ดังนั้น รูปแบบการบริหารคลังแก๊สจึงเน้นความยืดหยุ่นให้สอดคล้องกับสถานการณ์และปริมาณความต้องการใช้แก๊สที่แท้จริง โดยพบว่า จากแนวทางบริหารดังกล่าว ทำให้ SGP สามารถทำยอดขายและกำไรจากการจำหน่ายแก๊สในตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น
“เรายังไม่พอใจกับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 ถึงแม้ว่าจะสามารถพลิกกลับมาเป็นกำไร จากที่เคยขาดทุนในไตรมาสที่ 2 ที่ผ่านเราใช้กลยุทธการบริหารสต๊อกอย่างเต็มสุดความสามารถ แต่ความผันผวนของราคาก๊าซในตลาดโลกก็ยังคงส่งผลต่อผลประกอบการ ราคาก๊าซเฉลี่ยในไตรมาส 3 ถึงแม้ทะยอยไต่ระดับขึ้น แต่ก็ยังคงต่ำกว่าราคาเฉลี่ยในไตรมาส 2 ในส่วนของปริมาณการจำหน่ายในไตรมาส 3 SGP สามารถทำยอดขายแก๊สในตลาดต่างประเทศได้มากขึ้น แม้ว่าในช่วงเวลาดังกล่าวยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่มีความต้องการใช้แก๊สที่แท้จริง เพราะยังไม่ได้เข้าสู่ฤดูหนาว แต่พบว่าลูกค้าได้สั่งแก๊ส เพื่อจัดเก็บในสต๊อกแก๊สรอสร้างโอกาสการขายในช่วงราคาปรับตัวสูงขึ้น เป็นผลทำให้ยอดขายแก๊สในตลาดต่างประเทศขยายตัวได้เป็นอย่างดี ขณะที่ตลาดในประเทศก็ยังมียอดขายเพิ่มขึ้นเป็นที่น่าพอใจตามสภาวะตลาดและการแข่งขัน” นางจินตณา กล่าว
ส่วนผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนของปี 2555 (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 36,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีที่ผ่านมา 25% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 484 ล้านบาท ลดลง 55% เมื่อเทียบกับปีก่อน เนื่องจากผลการดำเนินงานในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2554 บริษัทฯ มีกำไรพิเศษจากการซื้อกิจการ SOGEL 498 ล้านบาท
รองกรรมการผู้จัดการ บมจ. สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ หรือ SGP กล่าวด้วยว่า ส่วนทิศทางในไตรมาส 4 ปีนี้ต่อเนื่องไตรมาส 1 ปีหน้า เป็นช่วงขาขึ้นของราคาแก๊สในตลาดโลก เนื่องจากปริมาณความต้องการใช้แก๊สในตลาดโลกเพิ่มสูงขึ้นในช่วงอากาศหนาว ในไตรมาส 4 ปีนี้บริษัทฯได้ศึกษาข้อมูลการวิเคราะห์แนวโน้มการปรับตัวของราคาประกอบกับแนวโน้มของเศรษฐกิจโลกและพิจารณาปรับเพิ่มสต๊อกแก๊สในคลังแก๊สในต่างประเทศให้สอดคล้องกัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนบริหารงานทั้งเพื่อทำผลกำไรสูงสุดในช่วงนี้และลดความเสี่ยงรับต้นทุนหรือการซื้อเข้าช่วงที่ราคาก๊าซปรับตัวขึ้นสูงมาก ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังมีศักยภาพทำกำไรจากคลังแก๊สที่ซัวเถาได้ดีขึ้น หลังจากรัฐบาลจีนได้ให้ใบอนุญาตเป็นคลังก๊าซทัณฑ์บนนำเข้าเพื่อส่งออกแก๊สโดยยกเว้นภาษี ก็จะส่งผลให้บริษัทฯสามารถสร้างผลตอบแทนจากการจำหน่ายแก๊สในตลาดต่างประเทศได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังใช้จุดแข็งด้านในด้านยุทธศาสตร์การกระจายสินค้า ด้วยเรือขนแก๊สขนาดใหญ่ หรือ VLGC ทำให้บริษัทฯ ได้เปรียบในด้านการขนส่งและช่วยเพิ่มขีดความสามารถในด้านการทำตลาดแก๊สในภูมิภาคเอเชียตะวันออกและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นใน SGP มากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ จากแนวทางดังกล่าว ฯ บริษัทฯ จึงมั่นใจว่า ปี 2555 จะเป็นปีที่ดีที่ SGP จะสามารถสร้างรายได้ได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่า ในปีนี้จะมียอดจำหน่ายแก๊สเพิ่มเป็น 50,000 ล้านบาท หรือเติบโต 30% เมื่อเทียบกับยอดขายของปีที่ผ่านมา