กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--เพนเน็ตเทรท
SMT โชว์กำไรสุทธิโต 2,500% เป็น 551 ล้านบาท
- ออร์เดอร์เต็มทั้ง IC & Hard disk เดินเครื่องผลิต 24 ชั่วโมง รับดีมานด์ตลาดโลกฟื้นตัว
- เพื่มทุนบริษัทลูก SS RFID 100 ล้าน รองรับธุรกิจ RFID โตแรงทั่วโลก
- ลดทุนจดทะเบียน ตัดทิ้งหุ้นซื้อคืน 2 ล้านกว่าหุ้น เพิ่มอัตรากำไรต่อหุ้น-EPS
บมจ. สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ชั้นนำของไทย รายงานงบไตรมาส 3 ปีนี้ เติบโต 2,500% กำไรสุทธิสูงถึง 551 ล้านบาท
นายพลศักดิ์ เลิศพุฒิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ชั้นนำของไทยเปิดเผยว่า “บริษัทฯมีความยินดีที่จะรายงาน ผลการดำเนินงานที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 3 ปีนี้ SMT มีกำไรสุทธิ 551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,500 % จากกำไรสุทธิ 22 ล้านบาทในไตรมาส 3 ในปีที่ผ่านมา และสำหรับงวด 9 เดือนแรก SMT มีกำไรสุทธิ 721 ล้านบาท เติบโต 323% จาก 223 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และบริษัทฯมีอัตรากำไรต่อส่วนผู้ถือหุ้นสูงถึงกว่า 69 % ต่อปี และมีอัตราหนี้สินต่อทุนที่ดีคือเพียงประมาณ 1 เท่า อีกทั้งมีปริมาณเงินสดในมือสูงเป็นจำนวนมาก จากการที่ได้รับเงินสินไหมทดแทนจากการประกันภัยจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา แล้วเป็นเงิน 1,130 ล้านบาทและคาดว่าอาจจะได้รับเงินสินไหมที่เหลือภายในปลายปีนี้และต้นปี 2556
พร้อมกันนี้บริษัทฯได้เพิ่มทุนจดทะเบียนในบริษัท SS RFID ซึ่งบริษัทถือหุ้น 100% จาก 10 ล้านบาทเป็น 100 ล้านบาท เพื่อการลงทุนเครื่องจักร อุปกรณ์เพื่อผลิตสินค้าใหม่ คือ RFIF TAG ป้ายฉลาก (RFID) ซึ่งเป็นสินค้าที่มีความต้องการในตลาดเติบโตอย่างสูง และบริษัทฯมีลูกค้า ที่ต้องการทำสัญญาสั่งซื้อสินค้าจำนวนมาก และเป็นสินค้าทีต่อยอดจาก RFID Chip ซึ่งบริษัทฯ ได้ผลิตมาหลายปีแล้ว และมีอัตรากำไรสูงและเติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน บริษัทฯได้ลด ทุนจดทะเบียนลงจาก 836,157,482 ล้านบาท เหลือจดทะเบียน831,781,882 ล้านบาท ด้วยการ ตัดหุ้นที่บริษัทฯได้ซื้อคืนทิ้งจำนวน 2,187,800 หุ้น และเหลือหุ้นสามัญทั้งหมด 415,890,941 หุ้น ที่ราคาพาร์ 2 บาทต่อหุ้น)
“SMT ได้ปรับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจครั้งสำคัญ ด้วยการมุ่งเน้นการผลิตสินค้า IC หรือ แผงวงจรไฟฟ้ารวมเป็นหลัก และเสริมด้วยธุรกิจ MMA เนื่องจาก บริษัทได้พัฒนาเทคโนโลยี ที่สามารถผลิต IC Chip ที่เล็กที่สุดในโลกได้ในราคาประหยัด ซึ่งมียอดผลิตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากถูกนำไปใช้ใน แทบเล็ตและ โทรศัพท์สมาร์ทโฟนชั้นนำของโลกแทบทุกแบรนด์ นอกจากนี้บริษัทฯยังสามารถผลิต IC ขั้นสูงและแบบมาตรฐานด้วยเครื่องจักรใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยี ล่าสุดของโลก (ทดแทนเครื่องจักรเดิมที่เสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม) ทำให้สามารถผลิต ได้มากขึ้น รวดเร็วขึ้นและที่สำคัญสามารถลดด้นทุนด้านพนักงานได้มากถึง 50% และจะเพิ่มกำลัง การผลิตสูงขึ้นเป็น 1,500 ล้านชิ้นต่อปีภายในต้นปี 2556 ซึ่งบริษัทฯจะได้ประโยชน์ทันที จากการฟื้นตัวต่อเนื่องของออเดอร์จากตลาด IC ทั่วโลกในปี 2556-2557 แต่มีผู้ผลิตในไทย น้อยรายลงเนื่องจากผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในปีที่แล้ว ทำให้หลายบริษัทฯปิดตัวลง
ขณะเดียวกันบริษัทฯจะเพิ่มกำลังผลิต MMA เป็น 120 ล้านชิ้นต่อปี โดยคาดว่ารายได้ รวมของ บริษัทฯจะมาจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม IC ประมาณ 60% และจากผลิตภัณฑ์กลุ่ม MMA ประมาณ 40% ในปี 2556 ที่สำคัญ SMT สามารถรักษาลูกค้าหลักรายใหญ่ๆที่สำคัญ ไว้ได้เกือบ 100% ซึ่งลูกค้าระดับโลกเหล่านี้ ต่างพึงพอใจในเทคโนโลยีการผลิตระดับโลกล่าสุดที่ทันสมัยมาก และลูกค้าหลายราย อาทิ ลูกค้าฮาร์ดดิสก์รายใหญ่ของโลก จะมอบออเดอร์ใหญ่ให้ SMT ผลิต สินค้าให้มากขึ้นกว่าเดิม และในรูปแบบที่ครบวงจรยิ่งขึ้น ทำให้บริษัทฯจะมีอัตราการทำกำไรที่ดี ยิ่งขึ้น และคาดว่าผลลัพท์จะเริ่มเห็นชัดเจนเต็มที่ในปี 2556” นายพลศักดิ์กล่าว
บมจ.สตาร์ส ไมโครอิเล็กทรอนิกส์ (ประเทศไทย) หรือ SMT เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ ชั้นนำของไทยที่มุ่งเน้นการผลิตสินค้า 2 กลุ่มหลักคือ 1. ชิ้นส่วน MMA (Microelectronics Module Assembly) 2. ชิ้นส่วน IC (Integrated Circuit) โดยมีผลิตภัณฑ์ ชั้นนำหลากหลาย ประเภท อาทิเช่น ระบบทัชสกรีน ของโทรศัพท์สมาร์ทโฟน เซ็นเซอร์อัจฉริยะ วัดลมยางรถยนต์อัตโนมัติ ชิ้นส่วนฮาร์ดดิสค์ ผลิตภัณฑ์ MEMS และชิ้นส่วน IC ขั้นสูงสำหรับ อุตสาหกรรมโทรศัพท์สมาร์ทโฟน รถยนต์ เป็นต้น โดยมีกลุ่มลูกค้าหลักระดับโลกจำนวนมาก จากสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น เอเชีย และยุโรป
ติดต่อ:
บริษัท เพนเน็ตเทรท จำกัด โทร: 02-681-5305-7/ 089-777-1735