สรุปราคาซื้อขายทองคำและ Gold Futures ภายในประเทศ ณ วันพุธที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 เวลา 09.00 น.

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 14, 2012 10:38 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--เอ็มทีเอส โกลด์ ฟิวเจอร์ ราคาทองคำเปิดตลาดที่ระดับ 1,723 เหรียญ/ออนซ์ และกลับมาปิดช่วงกลางคืนที่ระดับ 1,729 (22.30 น.) เหรียญ/ออนซ์ ค่าเงินบาทปิด 30.68 บาท/ดอลลาร์ ราคาสมาคมเปิดที่ 24,950 บาท กับ 25,050 บาท และกลับมาปิดที่ 24,950 บาท กับ 25,050 บาท ปริมาณการซื้อขาย Gold Futures 50 บาท อยู่ที่ 2,285 คู่สัญญา แบบ 10 บาท อยู่ที่ 6,120 คู่สัญญา และSilver Futures อยู่ที่ 72 คู่สัญญา Open Interest แบบ 50 บาท ลดลง 1.7% แบบ 10 บาท ลดลง 0.9 % Silver Futures ลดลง 1.9 % GFZ12 ปิด 25,340 บาทและ GFG12 ปิด 25,460 บาท GF10Z12 ปิดที่ 25,340 บาท GF10G12 ปิดที่ 25,460 บาท SVZ12 ปิดที่ 997 บาท สัญญา Comex ปิดลดลงที่ 6.1 ดอลลาร์ ปิดที่ระดับ 1,724.8 ดอลลาร์/ออนซ์ Silver ปิดลดลง 3.5 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 32.487 ดอลลาร์/ออนซ์ SPDR ถือครองทองคำ 1,338.71 ตัน (ถือครองเท่าเดิม) น้ำมัน NYMEX ปิดลดลง 19 เซ็นต์ ปิดที่ระดับ 85.38 ดอลลาร์/บาร์เรล ดาวโจนส์ปิดลบ 58.90 จุด ปิดที่ 12,756.18 จุด Ratio Gold / Silver เท่ากับ 54 ต่อ 1 ข่าวที่สำคัญ TheBullionDesk, Reuters, Infoquest และ CNBC -ราคาทองคำทรงตัวหลังจากปรับตัวลดลงในวันจันทร์ เนื่องจากนักลงทุนรอความชัดเจนในเรื่องการช่วยเหลือกรีซของกลุ่มประเทศยูโรโซน และตลาดต่างให้ความสนใจไปที่กลุ่มเจ้าหนี้ระหว่างประเทศของกรีซว่าจะทำอย่างไรในการลดหนี้ของกรีซให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยสัญญาทองคำส่งมอบเดือนธันวาคมปรับตัวลดลง 6.1 เหรียญ ปิดตลาด COMEX ที่ระดับ 1,724.8 เหรียญ/ทรอยออนซ์ ด้วยปริมาณการซื้อขายเหนือค่าเฉลี่ย 30 วันเพียงเล็กน้อย -สกุลเงินยูโรปรับตัวลงเป็นวันที่ 5 ติดต่อกันเมื่อเทียบกับดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันที่ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. หลังดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเยอรมนีปรับตัวลงในเดือนพ.ย. โดยนักวิเคราะห์ในลอนดอนกล่าวว่า นักลงทุนกำลังมีความวิตกกังวล ซึ่งเป็นปัจจัยในการเทขายยูโร และส่งผลให้ยูโรร่วงลงไปแตะสถิติต่ำสุดในรอบหลายเดือน ขณะที่การตัดสินใจเลื่อนพิจารณาการให้ความช่วยเหลือแก่กรีซของรัฐมนตรีคลังกลุ่มประเทศยูโรโซนมีความสอดคล้องกับการคาดการณ์ของตลาด แต่ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะหาทางออกในเรื่องดังกล่าวอย่างไร -เจ้าหน้าที่สำนักงานจัดการหนี้สาธารณะของกรีซ (PDMA) คาดว่า กรีซจะมีการระดมทุนได้จำนวนทั้งสิ้น 5 พันล้านยูโรภายในวันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ เมื่อมีการเสนอซื้อพันธบัตรแบบไม่ต้องประมูลแข่งขันราคา โดยการแสดงความคิดเห็นดังกล่าวมีขึ้นหลังจาก PDMA เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า กรีซสามารถประมูลขายตั๋วเงินคลังอายุ 1 เดือนได้ 2.762 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 3.95% และตั๋วเงินคลังอายุ 3 เดือนได้ 1.3 พันล้านยูโร ที่อัตราผลตอบแทน 4.2% โดยคิดเป็นการระดมเงินได้ทั้งสิ้น 4.062 พันล้านยูโร ซึ่งประเด็นดังกล่าวเป็นความพยายามในการระดมทุนเพื่อที่จะนำมารีไฟแนนซ์ตั๋วเงินคลังที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในวันศุกร์ที่ 16 พ.ย.นี้ ทั้งนี้ กรีซยังคงรอการเบิกจ่ายเงินงวดช่วยเหลือวงเงิน 3.15 หมื่นล้านยูโรจากบรรดาเจ้าหนี้ระหว่างประเทศ ซึ่งเกินกำหนดมา 5 เดือนแล้ว อันเนื่องมาจาการเลือกตั้งทั่วไปของกรีซในเดือนมิ.ย. ขณะที่นายกรัฐมนตรีอันโตนิส ซามาราสของกรีซได้ระบุว่าเงินสดสำรองของกรีซจะหมดลงในวันศุกร์นี้ -อ้างอิ งข้อมูลจากรายงานฉบับใหม่ของโกลด์แมน แซคส์ ระบุว่า จากความกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ดูเหมือนจะเกิดขึ้นต่อกลุ่มผู้กำหนดนโยบายของยูโรโซน การลดภาระหนี้ของกรีซมีความจำเป็นที่จะทำให้ระดับหนี้ของกรีซลงมาอยู่ในจุดที่ควบคุมได้ ซึ่งหลังจากที่มีการตรวจสอบหนี้ของกรีซ นักวิจัยต่างๆ ของธนาคารได้สรุปว่า การลดหนี้ให้เหลือ 120% ต่อจีดีพีภายในปี 2020 ที่กำหนดโดยไอเอ็มเอฟที่มีมูลค่ากว่า 8 หมื่นล้านยูโรนั้นมีความจำเป็น -เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา นางคริสติน ลาการ์ด ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟได้กล่าวย้ำข้อเรียกร้องเดิมว่า กรีซต้องลดหนี้ให้เหลือ 120% ต่อจีดีพีภายในปี 2020 ในขณะที่นายฌอง คล็อง ยุงเกอร์ ประธานยูโรกรุ๊ป ได้กล่าวว่าเป้าหมายของกรีซจะถูกเลื่อนไปเป็นปี 2022 -แหล่งข้อมูลจากรัฐบาลเยอรมนีกล่าวว่า ประเทศต่างๆ ในยุโรปที่กำลังไตร่ตรองในเรื่องการชะลอให้เงินกู้แก่กรีซ อาจมีการตัดสินใจลงเงินร่วมกันให้กรีซราว 4.4 หมื่นล้านยูโร ทั้งนี้ภายใต้แผนการช่วยเหลือกรีซรอบที่สองนั้น กรีซจะได้รับเงินมูลค่า 3.12 หมื่นล้านยูโรในสิ้นเดือนมิถุนายน บวกเงินเพิ่มเติมอีก 5 พันล้านยูโรในช่วงสิ้นเดือนกันยายน และอีก 7.2 พันล้านยูโรในช่วงสิ้นเดือนธันวาคม ซึ่งเงินทั้ง 3 ก้อนนี้อาจถูกนำมารวมกันเพื่อหลีกเลี่ยงความไม่แน่นอนในการไตร่ตรองเรื่องเงินช่วยเหลือในอีกไม่กี่สัปดาห์และไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ อย่างไรก็ตาม โฆษกกระทรวงการคลังของเยอรมนีได้กล่าวว่า ยังไม่มีการตัดสินใจสุดท้ายเกิดขึ้นในเรื่องเงินกู้ช่วยเหลือกรีซภายใต้แผนช่วยเหลือรอบที่ 2 นอกจากนี้รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสได้กล่าวว่า การช่วยเหลือกรีซอาจถูกเลื่อนไปเป็นสิ้นเดือนพฤศจิกายน -สำนักงานสถิติแห่งชาติของสเปน (INE) รายงานว่าอัตราเงินเฟ้อรายปีของสเปนในเดือนต.ค.แตะระดับ 3.5% และหากเทียบรายเดือน เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.8% ซึ่งนับเป็นอัตราสูงสุดนับแต่เดือนพ.ค.2554 ซึ่งเป็นการยืนยันข้อมูลเบื้องต้นที่เปิดเผยไปเมื่อวันที่ 30 ต.ค. -รายงานของธนาคารกลางอิตาลีซึ่งเปิดเผยเมื่อวานนี้ระบุว่า ยอดหนี้สาธารณะของอิตาลีพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์แตะที่ 1.995 ล้านล้านยูโร (2.536 ล้านล้านดอลลาร์) ในเดือนก.ย. เพิ่มขึ้นจากเดือนส.ค. 1.95 หมื่นล้านยูโร ถึงแม้จะมีความพยายามผ่อนคลายความตึงเครียดทางการเงินในระยะนี้ -นายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐกล่าวเตือนเมื่อวานนี้ว่า การขยายเวลาในการลดภาษีที่จะทำให้สหรัฐมีเวลาเพิ่มขึ้นในการแก้ปัญหาการตัดลดงบประมาณขาดดุล อาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนในตลาดขึ้นได้ -กระทรวงการคลังสหรัฐประกาศวานนี้ว่า รัฐบาลกลางสหรัฐมียอดขาดดุลงบประมาณราว 1.20 แสนล้านดอลลาร์ในเดือนต.ค. ซึ่งถือเป็นเดือนแรกของปีงบประมาณ 2556 โดยยอดขาดดุลในเดือนต.ค.สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ 22% และมากกว่าการคาดการณ์ของนักเศรษฐศาสตร์ที่ 1.135 แสนล้านดอลลาร์ -นางเจเน็ต เยลเลน รองประธานธนาคารกลางสหรัฐกล่าวว่า เฟดอาจควบคุมอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับต่ำถึงต้นปี 2016 จนกว่าตัวเลขเศรษฐกิจจะฟื้นตัว และแนวทางของนโยบายเป็นไปได้ดี โดยกำหนดเป้าหมายให้อัตราเงินเฟ้ออยู่ใกล้ระดับ 2% และอัตราการว่างงานลดลงใกล้ระดับ 6% ซึ่งนโยบายผ่อนคลายได้ทำให้อัตราการว่างงานปรับตัวลงเร็วกว่าที่คาดไว้ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากระดับเป้าหมาย 2% ซึ่งกำหนดเวลาต้นปี 2016 นั้นนานกว่าที่เฟดได้คาดไว้ในปัจจุบัน -ในเช้านี้ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นจากการที่สกุลเงินยูโรทรงตัวเมื่อเทียบกับค่าเงินดอลลาร์ โดยนักลงทุนต่างยังคงกังวลเกี่ยวกับภาวะ Fiscal Cliff ที่ใกล้เข้ามาถึงในสหรัฐ และการชะลอความช่วยเหลือกรีซที่ยังไม่ชัดเจน ตัวเลขเศรษฐกิจเมื่อคืนนี้ - Federal Budget Balance ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 75B คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -113.5B ตัวเลขจริงออกมาอยู่ที่ระดับ -120.0B ตัวเลขเศรษฐกิจวันนี้ - Core Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.1% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.2% - PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.1% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.2% - Retail Sales m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 1.1% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ -0.2% - Core PPI m/m ตัวเลขเดิมอยู่ที่ระดับ 0.0% คาดการณ์อยู่ที่ระดับ 0.1% วิเคราะห์ทางเทคนิค Gold — ราคาทองคำยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบที่สูงขึ้นเมื่อวาน โดยที่ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับเงินยูโร เนื่องจากสภาวะที่ยังไม่จบสิ้นของการแก้ปัญหาหนี้กรีซและสเปน จึงกดดันให้ค่าเงินยูโรเองปรับตัวลดลงหลุดระดับ 1.2700 ดอลลาร์/ยูโรอีกครั้งหนึ่ง ตัวนี้เป็นสาเหตุที่ยังกดดันราคาทองคำและก็ทำให้ราคาทองคำเมื่อวานเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,720 — 1,730 เหรียญ โดยในช่วงตลาด COMEX กลางตลาดนั้นมีช่วงสั้นๆ ที่ราคาหลุดระดับ 1,720 เหรียญลงมา ลงไปทดสอบแนวรับด้านล่างทำจุดต่ำสุดประมาณ 1,718 เหรียญ และเกิดเป็นลักษณะของเป็น Bear Trap เมื่อวานนี้คือราคาดีดกลับขึ้นทันที โดยภาพรวมยังวิเคราะห์ได้ว่า ราคาทองคำอยู่ในช่วงของการปรับฐานก่อนที่จะเป็นขาขึ้น การที่ราคาทองคำยังสามารถยืนอยู่เหนือระดับ 1,722 เหรียญได้ถือว่ายังเป็นทิศทางที่ดี โดยบริเวณ 1,717 — 1,722 เหรียญจะมีแนวรับของเส้นค่าเฉลี่ยทั่วไปอยู่ 2 — 3 เส้น ทั้งเส้นค่าเฉลี่ย 9 วัน 30 วันและ 50 วัน ในเชิงเทคนิคเมื่อวานน่าจะเป็นลักษณะ Bear Trap อย่างไรก็ดี ทองคำยังดูเหมือนไปไหนไม่ได้ไกลนักจากสภาวะแรงกดดันของยูโรโซนที่ยังไม่มีข้อยุติ ในวันนี้คาดว่าราคาทองคำจะแกว่งตัวในกรอบแคบๆ 1,720 — 1,730 เหรียญเช่นเดิม แนะนำให้นักลงทุนเข้าช้อนซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวเท่านั้น Gold Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,250 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,430 บาท Gold Futures G13 จะมีแนวรับที่ระดับ 25,350 บาท และแนวต้านที่ระดับ 25,550 บาท Silver Futures Z12 จะมีแนวรับที่ระดับ 980 บาท และแนวต้านที่ระดับ 1,020 บาท คำแนะนำ สำหรับนักลงทุนเก็งกำไรรายวัน (Swing Trade) เก็งกำไรในภาวะการแกว่งตัวในกรอบ 1,720 — 1,730 เหรียญ ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว นักลงทุนระยะสั้น 7 — 20 วัน (Weekly Trade) ยังคงเป็นการซื้อสะสม ถือครองพอร์ทที่ระดับ 50% นักลงทุนระยะยาวทองคำแท่ง ซื้อสะสมเช่นเดียวกัน ถือครองพอร์ทที่ระดับ 50% บทวิเคราะห์ข้างต้น ยึดหลักตาม Technical Analysis บริษัทไม่ได้มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ต่อการวิเคราะห์ข้างต้นและโปรดระลึกเสมอว่าการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดใช้วิจารณญาณในการลงทุนด้วยตัวของท่านเอง

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ