กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--IR network
บมจ.ที.เอ็ม.ซี.อุตสาหกรรม (TMC) สร้างปรากฎการณ์สุดประทับใจจากผลงานไตรมาส 3/2555 กำไรพุ่งกระฉูด 2,621% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนงวด 9 เดือนก็ไม่น้อยหน้าโตอีก 1,426% เทียบกับงวด 9 เดือนปี 2554 ผู้บริหารคนเก่ง “สุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข” ระบุเป็นผลจากยอดขายเครื่องเพรสพุ่ง เพราะได้แรงหนุนจากภาครัฐที่มุ่งสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ Eco Cars และเพิ่มมาตรการประหยัดภาษีสำหรับรถยนต์คันแรก พร้อมกันนี้บอร์ดยังใจดีสั่งจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในอัตรา 0.09 บาทต่อหุ้นเพื่อตอบแทนและเป็นกำลังใจให้กับผู้ถือหุ้นทุกคน
นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) หรือ TMC เปิดเผยถึง ผลประกอบการในไตรมาส 3/2555 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555 ว่ามีความโดดเด่นเป็นอย่างมากโดยมีกำไรสุทธิ 50.735 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,621% เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3/2554 ที่มีผลขาดทุนสุทธิ 2.012 ล้านบาท ส่วนงวด 9 เดือนมีกำไรสุทธิ 109.823 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,426% เมื่อเปรียบเทียบกับงวดเดียวกันในปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 7.194 ล้านบาท
สาเหตุหลักที่สำคัญที่ทำให้ผลประกอบการไตรมาส 3/2555 ของ TMC ขยายตัวได้อย่างโดดเด่นขนาดนี้เนื่องมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดรายได้จากการขายจำนวน 129.05 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเกิดจากการเพิ่มขึ้นของยอดขายเครื่องเพรสจำนวน 127.76 ล้านบาทโดยได้รับปัจจัยบวกจากแรงสนับสนุนของภาครัฐที่มุ่งสนับสนุนให้ประชาชนหันมาใช้รถยนต์ที่มีคุณสมบัติในการประหยัดพลังงาน (Eco Cars) และการเพิ่มมาตรการประหยัดภาษีสำหรับรถยนต์คันแรก จึงส่งผลให้ค่ายรถยนต์ต่างๆ เร่งกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการลูกค้า และมีความต้องการเครื่องเพรสระบบไฮดรอลิค เพิ่มขึ้น ส่วนยอดรายได้จากการให้บริการก็เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกันจำนวน 25.83 ล้านบาท ซึ่งการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากการให้บริการซ่อมแซมเครื่องจักรของลูกค้าที่ประสบปัญหาน้ำท่วมเมื่อปลายปี2554 ทำให้เครื่องจักรไม่สามารถใช้งานได้ และบริษัทมีการขยายฐานลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่องจึงทำให้บริษัทมียอดรายได้จากการให้บริการซ่อมแซมเพิ่มขึ้น
ในด้านอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการขายเครื่องทดสอบแม่พิมพ์ขนาดใหญ่ไปต่างประเทศ ประกอบกับบริษัทมีการบริหารต้นทุนในการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพจึงส่งผลให้กำไรขึ้นต้นเพิ่มจากงวดเดียวกันของปีก่อน ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นจากการให้บริการเพิ่มขึ้นจากร้อยละ 33 สำหรับงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2554 เป็นร้อยละ 56 ของงวด 3 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2555
และสุดท้ายคือต้นทุนทางการเงินที่ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 65.52 เนื่องจากบริษัทมียอดขายเพิ่มขึ้นทำให้บริษัทมีสภาพคล่องมากขึ้นจึงส่งผลให้บริษัทมีความต้องการใช้วงเงินสินเชื่อลดลง
“ด้วยความแข็งแกร่งของธุรกิจ บวกกับความมุ่งมั่นของคณะผู้บริหารพร้อมทีมงานของ TMC ที่มุ่งมั่นตั้งใจทำงานอย่างหนักในการขยายฐานลูกค้าและขยายตลาดใหม่ๆ อีกทั้งอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังเป็นขาขึ้น ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยบวกที่ผลักดันให้ผลประกอบการไตรมาส 3 ของ TMC ในวันนี้ออกมาอย่างโดดเด่น และไม่ทำให้ผู้ถือหุ้นผิดหวัง” นายสุรเชษฐ์ กมลมงคลสุข กรรมการผู้จัดการ บมจ.ที.เอ็ม.ซี. อุตสาหกรรม กล่าวในที่สุด
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ TMC ครั้งที่ 5/2555 มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการครึ่งแรกของปี 2555 ให้แก่ ผู้ถือหุ้นของบริษัทในอัตรา 0.09 บาทต่อหุ้นรวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 26.10 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 44.17 ของกาไรสุทธิของงบการเงินรวม ทั้งนี้ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาลในวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2555 และให้รวบรวมรายชื่อตามมาตรา 225 ของพระราชบัญญัติหลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในพฤหัสบดีวันที่ 29 พฤศจิกายน 2555 (XD ในวันจันทร์ที่ 26 พฤศจิกายน 2555) และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 12 ธันวาคม 2555