ราชบุรีโฮลดิ้ง แข็งแกร่งกำไร 9 เดือนแรก 6,900 ล้านบาท เตรียมลงทุนพลังงานทดแทน 130 MW ในออสเตรเลีย โรงไฟฟ้าขนาด 600 MW ในกัมพูชา

ข่าวเศรษฐกิจ Wednesday November 14, 2012 15:21 —ThaiPR.net

กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง - สินทรัพย์เติบโต 98,000 ล้านบาท ผลสำเร็จจากกลยุทธ์การเติบโต - จัดหาเงินกู้เพื่อใช้ก่อสร้างโครงการสำเร็จ 3 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท - เพิ่มเป้าหมายพลังงานทดแทนในประเทศเป็น 200 เมกะวัตต์ รองรับนโยบายส่งเสริมพลังงานทดแทนของรัฐบาล บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) แถลงวันนี้ว่า ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือนแรก ประจำปี 2555 ของบริษัทฯ มีกำไร 6,875 ล้านบาท เติบโตอย่างต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ทั้งนี้เป็นผลจากการบริหารประสิทธิภาพสินทรัพย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นโรงไฟฟ้าที่ได้ลงทุนทั้งในประเทศไทย สปป. ลาว และออสเตรเลีย มีกำลังผลิตติดตั้งรวม 5,300 เมกะวัตต์ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ก็เดินหน้าพัฒนาโครงการที่ลงทุนแล้วจนมีความคืบหน้าเป็นลำดับ โดยมี 3 โครงการที่สามารถจัดหาเงินกู้เพื่อใช้ในการก่อสร้างโครงการสำเร็จ มูลค่ารวมประมาณ 10,000 ล้านบาท อีกทั้งเตรียมความพร้อมลงทุนเพิ่มโครงการพลังงานทดแทนในออสเตรเลีย กำลังผลิตรวมประมาณ 130 เมกะวัตต์ และโครงการโรงไฟฟ้าระยะแรกขนาดกำลังผลิต 600 เมกะวัตต์ในกัมพูชา นายนพพล มิลินทางกูร กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การดำเนินงานของบริษัทฯ ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาเดินหน้าได้ตามแผนงานที่วางไว้ โครงการพลังงานลมห้วยบง 3 ขนาด 103 เมกะวัตต์ ติดตั้งกังหันลม 45 ต้น แล้วเสร็จและเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าจำหน่ายแก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)ได้แล้ว ส่วนโครงการพลังงานลมห้วยบง 2 ขนาด 103 เมกะวัตต์ อยู่ระหว่างติดตั้งกังหันลม คาดว่าจะแล้วเสร็จและเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนมกราคม 2556 โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ของโซลาร์ต้า กำหนดจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์โครงการที่ 8 ซึ่งเป็นโครงการสุดท้ายในปลายเดือนนี้ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้ของโครงการโซลาร์เพาเวอร์ สงขลาไบโอแมส และโครงการราชบุรีเวอล์ด โคเจนเนอเรชั่น ทำให้การพัฒนาโครงการเดินหน้าได้ตามแผนงานเป็นอย่างดี ส่วนโครงการผลิตไฟฟ้านวนคร ได้ลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. แล้ว และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียน เซน้ำน้อย ได้ลงนามสัญญาสัมปทานกับรัฐบาล สปป. ลาว และคาดว่าจะลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ กฟผ. ในปลายปีนี้ "การเติบโตของบริษัทฯ สะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิผลกลยุทธ์ทางธุรกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งเน้นสร้างเสริมความมั่นคงของรายได้และความสม่ำเสมอของกระแสเงินสด และผลประกอบการในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมาของบริษัทฯ จะเห็นว่า บริษัทฯ มีรายได้จากเงินปันผล ส่วนแบ่งกำไร และดอกเบี้ยรับจากกิจการที่บริษัทฯ ลงทุน ขณะที่สินทรัพย์รวมเติบโตเป็น 98,000 ล้านบาท นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายการเติบโตโดยมีเป้าหมายที่จะเข้าร่วมประมูลก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งใหม่ในประเทศ กำลังผลิต 5,400 เมกะวัตต์ เพิ่มการลงทุนในพลังงานทดแทนอีก 100 เมกะวัตต์จากที่ลงทุนแล้ว 100 เมกะวัตต์ พร้อมทั้งเดินหน้าลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าฟอสซิล พลังงานทดแทน และธุรกิจเหมืองถ่านหินในประเทศเป้าหมาย ได้แก่ สปป. ลาว ออสเตรเลีย กัมพูชา สหภาพพม่า และอินโดนีเซีย” นายนพพล กล่าวในตอนท้าย สำหรับ ผลการดำเนินงานรอบ 9 เดือน ประจำปี 2555 บริษัท มีรายได้รวมจำนวน 46,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันปีก่อน 31% กำไรสำหรับงวด 6,875 ล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้น 4.74 บาท ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ปี 2555 บริษัทฯ รับรู้รายได้รวมจำนวน 14,342 ล้านบาท กำไรสำหรับงวด 2,003 ล้านบาท ฐานะการเงินของบริษัทฯ ยังคงแข็งแกร่งและมั่นคง เพราะมีกระแสเงินสดกว่า 9,500 ล้านบาท และกำไรสะสมจำนวน 34,000 ล้านบาท อีกทั้งยังมีความสามารถในการจัดหาสินเชื่อจากสถาบันการเงินต่างๆ สะท้อนจากอันดับความน่าเชื่อถือที่สถาบันจัดอันดับเครดิต ทริสเรตติ้ง มูดี้ส์ และเอสแอนด์พี จัดให้อยู่ที่ระดับ AA Baa1 และ BBB+ ตามลำดับ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ส่วนประชาสัมพันธ์ วิวรรณ พยัฆวิเชียร, นวลนาง ชงัดเวช โทร. 0 2794 9941, 0 2794 9944 อีเมล์:wiwanp@ratch.co.th

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ