กรุงเทพฯ--14 พ.ย.--กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยเจาะบ่อ น้ำบาดาลของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และระบบน้ำสะอาดในโรงเรียน ซึ่งเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้งทั่วประเทศ และสั่งการเร่งระดมสรรพกำลัง เจ้าหน้าที่ อุปกรณ์และเครื่องจักรขนาดใหญ่ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร
วันที่ 10-11 พฤศจิกายน 2555 นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยขณะเดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ภัยแล้ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดยโสธร อำนาจเจริญ มุกดาหาร นครพนม เลย และหนองบัวลำภู ว่าจากสถานการณ์ภัยแล้งที่กระทรวงมหาดไทย โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประกาศเป็นพื้นที่ ภัยแล้ง ซึ่งมีจังหวัดที่ได้รับผลกระทบตั้งแต่ช่วงต้นเดือนตุลาคม 2555 ถึงปัจจุบัน มีจำนวน 12 จังหวัด 94 อำเภอ 675 ตำบล 7,069 หมู่บ้าน ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร อุดรธานี บึงกาฬ มุกดาหาร หนองคาย หนองบัวลำภู มหาสารคาม ยโสธร อำนาจเจริญ นครพนม และจังหวัดร้อยเอ็ด และมีแนวโน้มจะขยายวงกว้างอย่างต่อเนื่องในหลายพื้นที่ ดังนั้นจึงได้สั่งการให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลจัดเตรียมอุปกรณ์และเครื่องจักรเพื่อช่วยเหลือและบรรเทาปัญหาภัยแล้งให้แก่ประชาชน ประกอบด้วย ชุดเจาะบ่อน้ำบาดาล จำนวน 88 ชุด ชุดเป่าล้างทำความสะอาดบ่อน้ำบาดาล จำนวน 79 ชุด ชุดซ่อมระบบประปา-เครื่องสูบ จำนวน 64 ชุด เครื่องสูบน้ำบาดาลสำรอง 612 ชุด ชุดสำรวจธรณีฟิสิกส์ จำนวน 17 ชุด ชุดปรับปรุงคุณภาพน้ำเคลื่อนที่ จำนวน 18 ชุด รถบรรทุกน้ำ จำนวน 110 คัน นอกจากนี้ยังได้เตรียมบ่อน้ำบาดาลที่สามารถใช้บรรเทาปัญหาภัยแล้ง จำนวน 151,604 บ่อ ระบบประปาบาดาลทั่วประเทศ จำนวน 34,900 ระบบ จุดจ่ายน้ำถาวร จำนวน 100 แห่ง ระบบน้ำดื่มสะอาดในโรงเรียนทั่วประเทศ จำนวน 2,010 ระบบ โดยมีโรงเรียนในโครงการน้ำโรงเรียนที่พร้อมเป็นจุดจ่ายน้ำสะอาดให้ความช่วยเหลือทันทีเมื่อเกิดพิบัติภัย จำนวน 413 แห่ง พร้อมกันนี้ได้มอบหมาย ให้ทุกหน่วยงานในสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเร่งระดมสรรพกำลัง เจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ และเครื่องจักรขนาดใหญ่ พร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร
สำหรับการเดินทางตรวจติดตามสถานการณ์ภัยแล้งครั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและคณะมีกำหนดตรวจเยี่ยมการปฏิบัติงานของหน่วยเจาะบ่อน้ำบาดาล ของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล จำนวน 11 จุด ที่กำลังเร่งเจาะน้ำบาดาลเตรียมพร้อมรับมือปัญหาภัยแล้ง และระบบน้ำดื่มในโรงเรียน ได้แก่ จังหวัดยโสธร ที่บ้านสะแนน ตำบลขุมเงิน อำเภอเมือง และบ้านกระจาย ตำบลกระจาย อำเภอป่าติ้ว จังหวัดอำนาจเจริญ ที่บ้านโปโล ตำบลไก่คำ อำเภอเมือง จังหวัดมุกดาหาร ที่บ้านหนองแวงน้อย ตำบลโชคชัย อำเภอนิคมคำสร้อย จังหวัดนครพนม ที่อำเภอเรณูนคร และอำเภอนาหว้า จังหวัดเลย ที่ตำบลศรีสองรัก อำเภอเมือง และโรงเรียนบ้านหนองใหญ่ ตำบลผาอินทรแปลง อำเภอเอราวัณ และจังหวัดหนองบัวลำภู ที่ตำบลเต่ากลอย อำเภอนากลาง และตำบลนามะเฟือง อำเภอเมือง
ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ให้ความสำคัญเรื่องการบริหารจัดการน้ำอย่างบูรณาการร่วมกับแหล่งน้ำผิวดิน และการเจาะหาแหล่งน้ำบาดาลเพื่อการเกษตร รวมถึงการร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ อาทิเช่น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยในส่วนของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลได้เตรียม ความพร้อมตั้งแต่ปีที่ผ่านมา เพื่อสำรวจว่าพื้นที่ทั้งหมดในประเทศไทยตรงไหนมีน้ำบาดาลปริมาณเพียงพอ ขณะนี้รอรับการอนุมัติจาก คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) อีก 2,000 กว่าแห่ง เมื่อเจาะได้น้ำบาดาลแล้ว จะทำเป็นระบบเพื่อกระจายน้ำไปสู่ภาคการเกษตร และทำต่อเนื่องจากปี 2555-2557 จะทำให้ประชาชนไม่ขาดน้ำในการอุปโภคบริโภค และการเกษตรอย่างแน่นอน